May 16, 2024   7:33:41 AM ICT
นายกฯชี้หุ้นไทยอยู่ในทิศทางขาขึ้น

นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ ก.ล.ต. และ ตลท. ตรวจสอบพฤติกรรมการปั่นหุ้นเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อรายย่อย ประกาศจะไม่ยอมให้มีการปั่นหุ้นแน่นอน และมั่นใจตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อ เพราะเศรษฐกิจดีขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 6 เผยปรัชญาการลงทุน 3 ประการ อย่าเชื่อข่าวลือ ขาดทุนอย่าขาย และอย่าตกใจ
       
       พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ ?นายกฯ ทักษิณ คุยกับประชาชน? ว่า ได้ให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ไปดูแลและตรวจสอบความผิดปกติในตลาดหุ้น ดังนั้น ขอให้ประชาชนสบายใจได้ว่าตนจะไม่ยอมให้มีการปั่นหุ้น อย่างไรก็ตาม การปล่อยข่าวลือและทำให้นักลงทุนตกใจขายหุ้นทิ้ง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ซึ่งได้ให้ ก.ล.ต.และ ตลท. เฝ้าติดตามบุคคลประเภทนี้ไม่ให้มีปัญหา หรือมีผลต่อนักลงทุนรายย่อยให้น้อยที่สุด
       
       นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นักลงทุนที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ถ้าไม่กู้เงินมาลงทุนปัญหาจะมีน้อย แต่พวกที่กู้เงินมาลงทุนและเล่นรายวันเท่านั้นที่จะเดือดร้อนกัน การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ คือ การออม การลงทุนวิธีหนึ่ง เป็นการนำเงินส่วนที่เหลือมาลงทุนแทนที่จะฝากธนาคารทั้งหมด และมีปรัชญาการลงทุน 3 ประการ คือเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีไม่ใช่เพราะข่าวลือ ขาดทุนอย่าขาย และอย่าตกใจ ซึ่งถ้านักลงทุนเข้าใจปรัชญา 3 ประการแล้ว การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นการลงทุนที่มีกำไร เพราะตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดขาขึ้น
       
       ?ทำไมผมพูดอย่างนี้ ก็เพราะผมบริหารเศรษฐกิจ รู้ว่าเศรษฐกิจของเราจะดีอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเราเป็นเอเชียที่ถูกมอง พอมองเห็นจีนก็จะมองเห็นไทย และจีนวันนี้ยืนยันว่า จากนี้ไปอีก 16 ปี ถึงปี 2020 จีนจะโตเฉลี่ยปีละร้อยละ 7 เพราะฉะนั้นของเรานี่ ตราบใดที่ผมนั่งดูอยู่ร้อยละ 6 ไม่น่าจะมีปัญหา ปีที่แล้วเราโดนซาร์ส และปีนี้ไข้หวัดนก ความไม่สงบในภาคใต้ และราคาน้ำมันแพง เราก็ยังไปได้ดี ผมเชื่อว่าประเทศไทยเราสบายมากไม่น่ามีอะไรต้องห่วง ตราบใดที่ผมนั่งอยู่ตรงนี้ ผมจะดูทุกตัวเลข ดูทุกพฤติกรรม อะไรไม่ดีต้องสั่งแก้ไขหมดครับ? นายกรัฐมนตรี กล่าว
       
       พ.ต.ท. ทักษิณ กล่าวด้วยว่า ปี 2548 ตัวเลขการจัดเก็บภาษีจะสูงมากขึ้น เนื่องจากบริษัทที่ขาดทุนสะสมในช่วงที่วิกฤติเศรษกิจนั้น ได้ใช้ขาดทุนสะสมหมดแล้ว ธนาคารก็จะเริ่มเสียภาษีมากขึ้น เพราะฉะนั้นเมื่อเศรษฐกิจดีต่อเนื่องมา 3-4 ปี จะทำให้การเก็บภาษีดีขึ้น ส่วนตัวเลขเงินสำรองต่างประเทศก็สูงขึ้นไปที่ 44,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ก็คิดเป็น 1.76 ล้านล้านบาท ยอดหนี้ต่างประเทศก็ลดลง หนี้ภาครัฐต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ลดลง ดุลการค้ายังเป็นบวก เพราะฉะนั้นตัวเลขทางมหภาคยังถือว่าดีมาก ขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจว่า ตนจะดูภาพรวมทั้งหมดให้ดี

ที่มา www.manager.co.th
       

เข้าชม: 1,285

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com