เอเอฟพี ? มั่นใจอังคารนี้เฟดขึ้นดอกเบี้ยแน่อีกหนึ่งสลึง แต่ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ยังคงง่อนแง่น อาจทำให้เหล่าผู้วางนโยบายการเงินต้องทบทวนมาตรการเพิ่มต้นทุนการกู้ยืมกันใหม่ โดยนักเศรษฐศาสตร์บางรายฟันธงว่า เอฟโอเอ็มซีอาจงดการประชุมเดือนพฤศจิกายน
        นักเศรษฐศาสตร์ฟันธงด้วยความเชื่อมั่นเกือบเต็มร้อย จากสัญญาณหลายอย่างที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางแห่งสหรัฐฯ (เฟด) ปล่อยออกมาเป็นระยะๆ ว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) จะประกาศขึ้นดอกเบี้ยรอบ 3 นับจากวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็น 1.75% ในวันพรุ่งนี้ (21)
        กระนั้นก็ดี ผู้สังเกตการณ์ทักว่า อลัน กรีนสแปน ประธานผู้ว่าการเฟด ที่ประกาศว่าจะทะยอยขึ้นดอกเบี้ยที่เดิมอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบหลายทศวรรษนั้น อาจต้องคิดหนักก่อนตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยอีกหลังจากวันอังคารนี้ กรีนสแปนยืนยันว่า เศรษฐกิจแดนอินทรีเริ่มฟื้นกำลังหลังจากวูบลงชั่วคราว แต่ผู้สังเกตการณ์บางส่วนแย้งว่า การฟื้นตัวยังคงเปราะบาง และอาจสะดุดอีกจากปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่ขยับสูงขึ้น
        เดวิด โรเซนเบิร์ก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำอเมริกาเหนือของเมอร์ริล ลินช์ วิพากษ์ว่า ในวันที่ 21 กันยายน เฟดจะยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย โดยคำนึงถึงเหตุผลเดียวเป็นหลักคือ ทำให้อัตราดอกเบี้ยกลับสู่ระดับที่เป็นกลาง โดยไม่สนใจว่า เงินเฟ้อระดับต่ำ และการอ่อนยวบลงของดัชนีหลายตัว ตั้งแต่ค้าปลีกไปจนถึงผลผลิตอุตสาหกรรม บ่งชี้ว่าเฟดไม่มีเหตุผลรองรับในการขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าว
        โรเซนเบิร์กเสริมว่า ขณะนี้ ยังเร็วเกินไปที่จะชี้ขาดว่า ภาวะการชะลอตัวชั่วคราวสิ้นสุดลงแล้ว แต่เท่าที่จะพูดได้ก็คือ ภาวะเศรษฐกิจจะไม่เลวร้ายไปกว่านี้
        เลสลี เพรสตันแห่งซีไอบีซี เวิลด์ มาร์เก็ตส์ ขานรับว่า ภาวะเงินเฟ้อที่เงื่องหงอยลง อาจสะท้อนความซบเซาทางเศรษฐกิจ กล่าวคือ ภาคธุรกิจไม่สามารถขึ้นราคาสินค้าได้ เนื่องจากอุปสงค์ซบเซา และผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย
        เขาแจงว่า แคมเปญลดราคา ไม่ว่าจะเป็นตามห้างสรรพสินค้า หรือโชว์รูมรถยนต์ ตอกย้ำมุมมองที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯอาจยังไม่หลุดพ้นจากภาวะซบเซาชั่วคราวอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่งอย่างที่กรีนสแปนและผู้สังเกตการณ์บางคนประกาศ และนี่อาจเป็นสาเหตุให้เฟดต้องชะลอการขึ้นดอกเบี้ยออกไปก่อน หลังจากวันพรุ่งนี้
        ผู้สังเกตการณ์บางคนชี้ว่า สัญญาณที่ส่งออกมาก่อนหน้านี้ ทำให้เฟดตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก กล่าวคือจำเป็นต้องเลือกระหว่างขึ้นดอกเบี้ยไปตามเกม หรือยอมรับตรงๆ ว่าเศรษฐกิจยังอ่อนแอ ซึ่งอาจทำให้ตลาดตื่นตระหนก
        อีธาน แฮร์ริส นักเศรษฐศาสตร์ของเลห์แมน บราเธอร์ส สำทับว่า เฟดประกาศโจ่งแจ้งว่า แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นยังไม่จบ และในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นต้นเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนั้น จึงทำให้เฟดต้องระมัดระวังเป็นพิเศษที่จะไม่ทำตัวให้เป็นจุดสนใจด้วยการสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับตลาด ไม่ว่าจะด้วยภาษาหรือการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยก็ตาม
       ดังนั้น เขาจึงมั่นใจว่า วันพรุ่งนี้ เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% และเปลี่ยนแปลงถ้อยคำเล็กๆ น้อยๆ ในแถลงการณ์ ด้วยการยอมรับว่า ภาวะเงินเฟ้อขณะนี้อยู่ในระดับที่ค่อนข้างควบคุมได้
       ขณะเดียวกัน แฮร์ริสชี้ว่า ภาวะเงินเฟ้อที่สงบลง จะช่วยผ่อนคลายความกดดันของเฟด เนื่องจากสาเหตุสำคัญที่ทำให้เฟดเริ่มขึ้นดอกเบี้ยระลอกแรกคือ การขยับขึ้นของอัตราเงินเฟ้อที่แท้จริง ไม่ใช่อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจ และข้อมูลภาวะเงินเฟ้อล่าสุดก็ช่วยยืนยันสมมติฐานดั้งเดิมของเฟด นั่นคือ ภาคธุรกิจมีศักยภาพการผลิตล้นเกิน อำนาจในการกำหนดราคาสินค้ามีจำกัด และยังเร็วเกินไปที่จะคาดเดาได้ว่าเงินเฟ้อจะทะยานรุนแรง ดังนั้น จึงมีโอกาสสูงมากที่เฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยไว้ก่อน โดยแฮร์ริสฟันธงว่า มีความเป็นไปได้ 40% ที่เอฟโอเอ็มซีจะงดประชุมในเดือนพฤศจิกายน

ที่มา www.manager.co.th