April 29, 2024   3:31:38 AM ICT
TRAFแค่หุ้นถือเล่นๆชั่วคราว ทวีศักดิ์จ่อทิ้งเกลี้ยงพอร์ต
TRAF อาการเป๋"ทวีศักดิ์"ผู้ถือหุ้นใหญ่ ตั้งป้อมสะบันก้นทิ้งหุ้นหมดหน้าตัก หากสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย ล่าสุดใจดีโอนหุ้นให้เพื่อน 4.42% ทั้งที่เพิ่งซื้อต่อจาก"รวมนคร" ด้าน"สุวิทย์"ลั่นไม่กระเทือนองค์กรเหตุไม่ได้เข้ามานั่งบริหาร ระบุแผนซื้อหุ้นบริษัทในมาเลย์ยังเดินหน้าต่อ
          นายทวีศักดิ์ ชกากรกนก ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท ทราฟฟิคคอร์นเนอร์โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)หรือ TRAF เปิดใจกับ"ข่าวหุ้นธุรกิจ" ถึงกรณีโอนหุ้นจำนวน 5.3 ล้านหุ้นหรือประมาณ 4.42% ให้กับนางสาวพิณยารัตน์ กีรติพัฒนะนันท์ว่า ไม่ได้มีนัยสำคัญอะไร เนื่องจากรู้จักเป็นการส่วนตัวกับนางสาวพิณยารัตน์ ซึ่งการที่โอนหุ้นจำนวนดังกล่าวให้กับบุคคลที่รู้จักในครั้งนี้ เพื่อต้องการลดสัดส่วนการถือหุ้นลงจากเดิมที่ถืออยู่ 12.75% ทำให้เหลือหุ้นอยู่เพียง8.33% เท่านั้น
          ส่วนในอนาคตจะขายหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมดออกมาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยหลายอย่าง เช่น ปัจจัยทางการเมือง แต่หากไม่เกิดเหตุการณ์ที่ร้ายแรงก็อาจจะไม่ขายหุ้นที่ถือหุ้นทั้งหมดออกมา
          "สาเหตุที่ผมเข้ามาถือหุ้น TRAF เพราะมองเห็นว่าธุรกิจถ่ายทอดสดฟุตบอลต่างประเทศน่าจะมีโอกาสเติบโตที่ดีในอนาคต"
          ส่วนกรณีที่บริษัทใกล้จะหมดสัญญาการถ่ายทอดสดฟุตบอลจากต่างประเทศนั้น นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องของการบริหารภายใน เนื่องจากต้องการปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้บริหารรับผิดชอบไป แต่หากต้องการคำแนะนำตนก็พร้อมจะให้คำปรึกษา
          อย่างไรก็ตาม นอกจากนายทวีศักดิ์ จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ TRAF แล้ว ปัจจุบันยังประกอบธุรกิจหลายอย่าง เช่น โครงการบ้านจัดสรรในภาคตะวันออก และยังมีธุรกิจร้านอาหารในจังหวัดตราดด้วย โดยเส้นทางการเข้ามาถือหุ้นใหญ่ใน TRAF นายทวีศักดิ์ ได้ซื้อหุ้นต่อจากพ.ต.อ.รวมนคร ทับทิมธงไชย เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2549 ที่ผ่านมาในราคาหุ้นละ 0.55 บาท จำนวน 15.29 ล้านหุ้น คิดเป็น 12.75% ของหุ้นทั้งหมด
          ด้านนายสุวิทย์ วรรณะศิริสุข รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บมจ.ทราฟฟิคคอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์ หรือ TRAF กล่าวยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการขายหุ้นออกมาของผู้ถือหุ้นใหญ่ และส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของผู้ถือหุ้นแต่ละรายที่จะถือไว้หรือขายหุ้นออกไป อย่างไรก็ตามการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่ออกมาครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของบริษัท เนื่องจากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่ได้เข้ามานั่งบริหารภายในบริษัท
          ส่วนสาเหตุที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ขายหุ้นออกมา อาจเป็นเพราะไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทหรือไม่นั้น ตอนนี้ดูที่ผลประกอบการในอดีตไม่ได้ เพราะเพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงภายใน ดังนั้นควรที่จะมาวัดกันที่ผลประกอบการในอนาคตมากกว่า ซึ่งล่าสุดบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเจรจา เพื่อเข้าไปซื้อหุ้นบริษัทดำเนินธุรกิจ CRM ในประเทศมาเลเซียในสัดส่วน 51% เพื่อกระจายความเสี่ยงของรายได้ในอนาคต
          ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันสัญญาการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทใกล้จะหมดสัญญาลงภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ดังนั้นบริษัทจึงจำเป็นต้องหาธุรกิจอื่นๆ มาชดเชย โดยล่าสุดบริษัทยังไม่ได้ต่อสัญญาการถ่ายทอดสดฟุตบอลดังกล่าวออกไปอีก เนื่องจากต้องรอให้ได้ตัวเจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลดังกล่าวอย่างเป็นทางการก่อน จากนั้นค่อยเข้าไปเจรจาขอต่อสัญญาดังกล่าว โดยขณะนี้มีผู้สนใจแสดงตัวต้องการลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลดังกล่าวจำนวน 2 ราย ได้แก่ ยูบีซี (ทรูวิชั่น) และบมจ.อาร์เอส(RS)
          "ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าบริษัทที่เราจะเข้าไปถือหุ้น มีกำไรหรือขาดทุน เพราะต้องรอสรุป Due Diligence ก่อน จากนั้นจึงจะบอกได้ว่าผลการดำเนินงานของบริษัทนี้เป็นอย่างใด แต่เท่าที่ทราบธุรกิจนี้ค่อนข้างมีมาร์จิ้นดี ส่วนการที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ขายหุ้นออกมาไม่ได้มีผลต่อดีลดังกล่าว เพราะเรายังคงเดินหน้าทำธุรกิจต่อไป"
ข่าวหุ้น
เข้าชม: 1,643

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com