April 29, 2024   4:55:33 AM ICT
Nezu-Kuduกินรวบ?S2Y?46.77% ผู้ถือหุ้นใหญ่เทใจขายหุ้นเกลี้ยง
“S2Y”เปิดตัว 2 ผู้หุ้นรายใหญ่ ”Nezu ดำเนินธุรกิจบริหารกองทุน –Kudu พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์”เข้าถือรวม19.14 ล้านหุ้นคิดเป็นสัดส่วน46.77% หลังหัวหอกบริษัท”สุปรัชญ์ ศรีผดุง- Miss Mai Thi Quynh Hoa-นิคลาส สแตลเบอร์ก”ขายหุ้นสามัญของบริษัทเกลี้ยงพอร์ตในราคาหุ้นละ
          1.50 บาท”นิคลาส สแตลเบอร์ก”บิ๊กบริษัทระบุทั้ง 3 รายหมดสิทธ์เป็นผู้ถือหุ้นทันที แต่”สุปรัชญ์และนิคลาส”ยังดำรงตำแหน่งผู้บริหารของบริษัทเพื่อสานต่อธุรกิจที่เกี่ยวกับการบริการด้านเทคโนโลยีฯและการสื่อสารด้วยระบบดิจิตอล
          นายนิคลาส สแตลเบอร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท สยามทูยู จำกัด (มหาชน) หรือ S2Y
          เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท 3 รายได้แก่ นายสุปรัชญ์ ศรีผดุง ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท, Miss Mai Thi Quynh Hoa และ นายนิคลาส สแตลเบอร์ก ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารได้ขายหุ้นสามัญของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้นรายใหม่ 2 ราย คือ Nezu Capital Limited หรือ Nezu และบริษัท คูดู จำกัด หรือ Kudu
          ส่งผลให้ Nezu และ Kudu กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ S2Y โดย Nezu ถือหุ้นสามัญของบริษัทจำนวน 10,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 24.43% ของทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วของบริษัท และ Kudu ถือหุ้นสามัญของบริษัทจำนวน 9,142,680 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 22.34%
          ของทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วของบริษัท ซึ่ง Nezu และ Kudu ถือหุ้นรวมกันจำนวน 19,142,680 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 46.77% ของทุนจดทะเบียน และเรียกชำระแล้วของบริษัท
          สำหรับรายละเอียดการขายหุ้นสามัญดังกล่าวนั้นนายสุปรัชญ์ ศรีผดุง ได้ขายหุ้นสามัญที่ถืออยู่ทั้งหมดในบริษัทจำนวน13,610,420 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน33.25% ของทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วของบริษัทให้แก่ Nezu จำนวน 10,000,000 หุ้น และ Kudu จำนวน 3,610,420 หุ้น ในราคาหุ้นละ 1.50 บาท ส่วน MISS MAI THI QUYNH HOA ได้ขายหุ้นสามัญที่ถืออยู่ทั้งหมดในบริษัทจำนวน 3,396,600 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 8.30% ของทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วของบริษัทให้แก่ Kudu ในราคาหุ้นละ 1.50 บาท
          ด้านนายนิคลาส สแตลเบอร์ก ได้ขายหุ้นสามัญที่ถืออยู่ทั้งหมดในบริษัทจำนวน 2,135,660 หุ้น
          หรือคิดเป็นสัดส่วน5.22%ของทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วของบริษัทให้แก่ Kudu ในราคาหุ้นละ 1.50 บาท ดังนั้นส่งผลให้ผู้ถือหุ้นทั้ง 3 รายไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นของ  S2Y อีกต่อไป
          “สุปรัชญ์-นิคลาส”ยังนั่งแท่นผู้บริหาร
          อย่างไรก็ดีนายสุปรัชญ์ ศรีผดุงและนายนิคลาส สแตลเบอร์ก จะยังคงดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารของบริษัทต่อเพื่อดำเนินการบริหารธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารด้วยระบบดิจิตอลต่อไป
          ทั้งนี้ Nezu และ Kudu เป็นนักลงทุนที่ได้รับมติอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนในการประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 2/2550 เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2550 ซึ่ง Nezu เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจบริหารกองทุน ซึ่งมีฐานการดำเนินงานอยู่ที่ประเทศฮ่องกง โดยเริ่มจัดตั้งกองทุนในปี 2543 Nezu  จึงถือเป็นหนึ่งใน Hedge Fund  ที่ดำเนินการมานานที่สุดในภูมิภาคเอเชีย
          ปัจจุบัน บริหารกองทุนทั้งหมด 4 กองทุน มีมูลค่ารวม 800 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค Nezu มีพนักงานทั้งสิ้น 25 คน เป็นผู้เชี่ยวชาญในการลงทุนจำนวน 13 คน  ซึ่งNezu
          ไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ กับบริษัท
          ด้าน Kudu เป็นบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นในประเทศไทย เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2545 ปัจจุบัน
          มีทุนจดทะเบียนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 247,487,130 บาท มีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ และให้บริการเป็นที่ปรึกษาในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แก่ลูกค้าในประเทศและในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค ทั้งนี้ Kudu ได้ร่วมลงทุนกับบริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้ชื่อ เดอะ ลอฟท์
          สาทร (The Loft Sathorn) ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก
          นอกจากนี้ Kudu ยังได้สร้างมาตรฐานใหม่ของบ้านใจกลางเมืองด้วยโครงการที่โดดเด่นภายใต้ชื่อ
          เดอะ ทรีส์ สาทร (The Trees Sathorn)   อย่างไรก็ดี เนื่องจาก Nezu และ Kudu ได้เข้ามาถือหุ้นของบริษัทพร้อมกัน โดย สัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นใหม่ทั้ง 2 รายรวมกันคิดเป็น 46.77% ของทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วของบริษัท ดังนั้น Kudu จะเป็นตัวแทนในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท
          โดยราคาที่เสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของกิจการเท่ากับหุ้นละ 1.50 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดที่ Kuduได้หุ้นสามัญของบริษัทมาในระหว่างระยะเวลา 90 วัน
          นายนิคลาส สแตลเบอร์ก กล่าวว่าบริษัทมีนโยบายที่จะดำรงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และยังคงประกอบธุรกิจเดิมในปัจจุบัน ทั้งนี้ บริษัทจะจัดให้มีการประชุมคณะ กรรมการบริษัทในวันที่ 24 เมษายน 2550 เพื่อพิจารณามติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่ม และการได้มาซึ่งสินทรัพย์ ซึ่งคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติไปแล้วเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2550 รวมถึงพิจารณาแนวทางในการดำเนินธุรกิจและปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริษัท
เข้าชม: 1,619

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com