เอเอฟพี ? ขณะที่ค่อนข้างมั่นใจแล้วว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยรอบสามวานนี้ ทำให้บรรดาผู้เล่นในตลาดการเงินหันไปสนใจประเด็นใหม่แทน ด้วยการตั้งคำถามว่า เมื่อใดเฟดจึงจะหยุดการปรับขึ้นดอกเบี้ย
หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรดานักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่า ในการประชุมวานนี้ (21) คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) จะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 อย่างแน่นอนอีก 0.25% ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (เฟดฟันด์เรต) อยู่ที่ 1.75%
อย่างไรก็ตาม ผู้สังเกตการณ์บางรายมองว่า อลัน กรีนสแปน ประธานผู้ว่าการเฟด และคณะกรรมการเอฟโอเอ็มซี ต้องไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน ก่อนปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มมากกว่านี้
เดวิด โรเซนเบิร์ก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเมอร์ริลล์ ลินช์ กล่าวว่า เฟดกำลังปรับอัตราดอกเบี้ยเป็น 2% ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับอัตราดอกเบี้ย ?สู่ระดับปกติ? กระนั้นก็ตาม เศรษฐกิจสหรัฐฯยังเปราะบางเกินไปที่จะรับมือกับอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แม้กรีนสแปนออกมาย้ำว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังพ้นจาก ?ภาวะอ่อนตัว? แต่หลายฝ่ายแย้งว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังคงเปราะบางและอาจชะลอตัวจากปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นด้วย
ผู้สังเกตการณ์บางรายระบุว่า เฟดไม่ต้องการสร้างความตื่นตระหนกให้กับตลาด ด้วยการเบี่ยงเบนไปจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง หรือ การเปลี่ยนแปลงข้อความที่เคยส่งออกมา ซึ่งอาจจะถูกมองว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นเรื่องไม่จริง
สำหรับข้อถกเถียงในหมู่นักเศรษฐศาสตร์ที่ว่า เฟดจะหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งใดครั้งหนึ่งหรือไม่ (วันที่ 10 พฤศจิกายน และ 14 ธันวาคม)
ทิม แมคจี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากยูเอส ทรัสต์ คอร์ป เชื่อว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจไม่แข็งแกร่งพอ เฟดอาจหยุดการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งบางคนเชื่อว่า อาจเป็นหลังจากครั้งนี้ ขณะที่มาร์ก แซนดี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากอิโคโนมี.คอม มองว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยตลอดปีนี้และยาวจนถึงปีหน้า
ส่วนเอเวอรี เชนเฟลด์ นักเศรษฐศาสตร์จากซีไอบีซี เวิร์ลด์ มาร์เก็ตส์ ระบุว่า เฟดจะหยุดการปรับอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม และทิ้งช่วงไปอีกหลายไตรมาส เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจในเดือนดังกล่าวจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ที่มา www.manager.co.th
| 