หุ้นน้องใหม่ดีคอน โปรดักส์เข้าเทรดวันแรต่ำจองโชว์ไทยแลนด์โฟกัส ทรุด 15.13% จากราคาจองที่ 9.25 บาทผู้บริหารยังมั่นใจศักยภาพของบริษัท ต้นทุนต่ำ-เพิ่มกำลังการผลิต ดันกำไรโตต่อ ด้านมนตรีบล.กิมเอ็ง เชื่อหุ้นจะไม่ผันผวนจากพื้นฐานบริษัท ชูจุดเด่น ปลอดหนี้-ที่ตั้งโรงงาน
       
        หุ้นน้องใหม่ดีคอน โปรดักส์ (DCON) ย่ำรอยรุ่นพี่หุ้น ดีอี แคปปิตอล (DE)ที่เข้าตลาดหลักทรัพย์วันแรกแล้วราคาหลุดต่ำจองไป 4.65% ทั้งๆที่ในวันนั้นตลาดหุ้นไทยสดใส โดยหุ้น DCON ซึ่งเข้าเทรดวานนี้(21 ก.ย.)เป็นวันแรกท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนโดยรวมไม่สดใสนัก ราคาเปิดที่ 9.30บาท เพิ่มขึ้น 0.05% ในช่วงเช้าก่อนจะพุ่งสูงสุดที่ 9.65 บาท แต่จากนั้นอ่อนตัวลงต่ำกว่าราคาจอง 9.25 บาท ไปต่ำสุดที่ 7.80 บาท ก่อนปิดตลาดที่ 7.85บาทลดลง 1.40 บาท หรือ 15.13% มูลค่าการซื้อขาย 637.40ล้านบาท
        นายปิติ เกตุศิริ เจ้าหน้าที่บริหารการตลาด บล.บีที กล่าวว่า หุ้น DCON ปรับลงต่ำกว่าราคาจอง เนื่องจากตั้งราคาไอพีโอค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มเดียวกัน ราคาจอง 9.25 บาท พีอีอยู่ที่ 12 เท่า สูงกว่ากลุ่ม 10 เท่า ทำให้คนไม่สนใจเท่าไร
        นายวิทวัส พรกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ดีคอน โปรดักส์ (DCON) กล่าวว่า เราเชื่อมั่นว่าราคาหุ้นของดีคอนจะสามารถยืนเหนือราคาจองได้ ด้วยศักยภาพของบริษัทที่มีความมั่นคงสูง และคาดหวังว่าราคาหุ้นจะมีการปรับขึ้นต่อไปในลักษณะที่ไม่ผันผวนมากนายวิทวัสกล่าว
        บริษัทคาดว่าจะมีกำไรในช่วงครึ่งปี47หลังใกล้เคียงกับครึ่งปีแรกที่มีกำไร 78.41 ล้านบาทรายได้ 295.85 เมื่อเทียบกับปี 2546 ที่มีกำไร 70.92 ล้านบาทและมีรายได้ 366.87ล้านบาท สำหรับกำไรที่เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากบริษัทสามารถพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าคู่แข่ง โดยมีการใช้วัตถุดิบทดแทนกันได้ และจุดเด่นที่สำคัญตำแหน่งที่ตั้งของโรงงานอยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบทำให้ประหยัดต้นทุนค่าขนส่ง
        อย่างไรก็ดีการปรับลดลงของอุตสาหกรรมในกลุ่มประมาณ 20-30 % ทำให้บริษัทต้องเร่งเพิ่มยอดขายขึ้น บริษัทมีแผนจะเร่งขยายส่วนแบ่งการตลาดจากปัจจุบันที่ระดับ 35% เป็น 50% เนื่องจากบริษัทจะขยายกำลังการผลิตคอนกรีตแผ่นพื้นจากเดิมที่ผลิต 1.3 แสนตารางเมตรต่อปี โดยจะเพิ่มอีก 4-5 หมื่นตารางเมตรต่อเดือนหรือเพิ่มอีก 40% ด้านนโยบายการจ่ายเงินปันผลบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ
        นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล. กิมเอ็ง (ประเทศไทย)จำกัด (มหาชน) KEST กล่าวว่า ยังเชื่อว่าศักยภาพของบริษัททั้งเรื่องความสารถในการทำกำไรที่ยังอยู่ในระดับสูง และไม่มีปัญหาเรื่องภาระหนี้สินจะเป็นตัวที่ช่วยให้ราคาหุ้นไม่ผันผวนมากนัก
        ทั้งนี้เมื่อการปรับลดของความต้องการวัสดุก่อสร้างที่ลดลงเป็นสิ่งหนึ่งที่เข้ามาฉุดความน่าสนใจการลงทุนของหุ้นในกลุ่มนี้ หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ว่าจะสามารถเห็นความต้องการที่เเท้จริงของภาคอสังหาริมทรัพย์ได้ในช่วงไตรมาส3-4นี้ เพราะช่วงปลายปีที่แล้วมีเรื่องการลดภาษีเข้ามาเกี่ยวข้องทำให้มีการโอนบ้านก่อนเป็นจำนวนมาก
        อย่างไรก็ตามหากมองจุดเด่นของบริษัทดีคอน โปรดักส์ ยังเชื่อเรื่องทำเลตำแหน่งที่ตั้งโรงงาน เป็นสิ่งที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนได้ เนื่องจากทำเลที่อยู่ระหว่างลพบุรีและสระบุรี เป็นแหล่งที่ใกล้วัตถุดิบทำให้ภาระต้นทุนของสินค้าไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆ

ที่มา www.manager.co.th