April 30, 2024   2:21:23 PM ICT
แผนพัฒนาตลาดหุ้น 5 ปี กับ International Footage

โครงสร้างแผนพัฒนาตลาดหุ้นไทยของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ที่พยายามผลักดันให้เกิดการพัฒนา เพื่อก้าวไปสู่การเป็นตลาดหุ้นที่สากลแห่งภูมิภาคอาเซียนนั้น คงต้องจับตาความก้าวหน้าของ International Footage ที่จะใช้เป็นแผนหลักเพื่อการพัฒนาจากนี้ไป 3-5 ปีข้างหน้า
          ประเด็นหลักของแผนดังกล่าวอยู่ที่การเน้นสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ บวกกับงานการสร้างเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่เป็นเซ็นเทิลเมนต์ อีกทั้งการเพิ่มงานทางด้านมาร์เก็ตติ้งจากงาน "ไทยแลนด์โฟกัส" ที่จะดึงเอาตัวแทนจากประเทศต่างๆ ในอาเซียนรวม 6 ประเทศมาให้ข้อมูลกับผู้ลงทุนที่มาไกลจากต่างแดน ซึ่งจะเป็นการพลิกจากการให้ข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนของตลาดหุ้นไทยเพียงอย่างเดียว มาเป็นการประสานความร่วมมือของตลาดหุ้นในภูมิภาคนี้เพื่อเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้นักลงทุนในแถบยุโรป อเมริกา สนใจ ตลาดหุ้นของอาเซียนมากยิ่งขึ้น
          เหล่านี้คือส่วนหนึ่งของการพัฒนาเท่านั้น ซึ่งยังไม่รวมถึงการที่ตลท.จับมือ ก.ล.ต ผลักดันบริษัทไทยที่ตั้งในต่างประเทศเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ประกอบกับทางด้านธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ก็เปิดช่องให้บริษัทร่วมทุนต่างชาติ วงเงินขั้นต้น 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
          ก้าวย่างการพัฒนาของตลาดทุนไทยจะพัฒนาได้ดังหวังหรือไม่นั้น ไม่ได้อยู่ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่หากต้องอยู่ที่ความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน รวมถึงภาคเอกชนอีกด้วย
          -รุกแผนสร้างเครือข่าย
          นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการสายงานระดมทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า แผนพัฒนาตลาดทุนไทยจากนี้ไป 3-5 ปี ข้างหน้า จะเริ่มมีความชัดเจนในเรื่องของ International footage หรือรู้จักกันในเรื่องของการขยายการเชื่อมโยงของตลาดหุ้นไทยกับตลาดหุ้นต่างประเทศให้สามารถเข้าถึงกันง่ายขึ้น ทั้งในแง่ของการลงทุนและการทำธุรกรรมที่สามารถเสริมสร้างพัฒนาศักยภาพตลาดหุ้นให้ดีขึ้น
          "จากนี้ไปถ้าโลกหมุนหรือพัฒนาไปด้านใด เราต้องเกาะให้ติด และพยายามที่จะไปทางนั้น การมีขาอยู่ในนานาประเทศ ถือว่ามีส่วนช่วยในการวิวัฒนาการให้ทัดเทียมมต่างชาติโดยที่ตลาดหุ้นไทยจะไม่ตกขบวน"นายวิเชฐกล่าว
          โดยที่ผ่านมาได้มีการศึกษาตัวอย่างของการทำ dual trading ของสิงคโปร์ที่มีการตั้งบริษัทขึ้นมาแห่งหนึ่งชื่อ CDP เพื่อมาทำเรื่องเซ็นเทิลเมนต์ระหว่างตลาดหุ้นไทย รวมถึงตลาดหุ้นทั่วโลก เพื่อที่จะทำให้เกิดการเชื่อมโยงกัน ฉะนั้น วิวัฒนาการที่เกิดขึ้นในสิงคโปร์ไทยก็เป็นประเทศหนึ่งได้รับการชักชวนให้ร่วม เพื่อเกิดการเชื่อมต่อกัน
          ทั้งนี้การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่าง ฟุตซี่อาเซียนที่ได้มีการดำเนินการไปแล้ว การทำงานทางด้านมาร์เก็ตติ้งรวมกัน โดยงานแรกจะเริ่มที่งาน "ไทยแลนด์โฟกัส" ที่จะจัดปลายปีนี้ ที่จะเชิญนักลงทุนสถาบันต่างชาติเข้ามาพบปะผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในตลาดหุ้นไทยเท่านั้น
          แต่สำหรับงานนี้ จะจัดให้มีอีกเวทีหนึ่ง ที่พูดถึงเรื่องอาเซียน โดยจะเชิญตัวแทนผู้นำทั้ง 6 ประเทศในอาเซียน ซึ่งจะไม่พูดถึงตลาดหุ้นไทยเลย เพื่อให้นักลงทุนได้รับรู้ความเคลื่อนไหว การเป้าหมายการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่อยู่ในแถบยุโรปออกไปเพื่อให้เกิดความสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศเหล่านี้
          "เวทีของงานไทยแลนด์โฟกัสปีนี้ จะเปิดให้ไม่ใช่เฉพาะบริษัทจดทะเบียนไทยเท่านั้นแต่ยังเปิดให้ผู้บริหาร ซีอีโอของแต่ละประเทศในอาเซียนทั้งหมด 6 ประเทศ ได้ขึ้นเวทีในการให้ข้อมูล รวมถึงการตอบข้อสงสัยให้กับนักลงทุนที่สนใจอยากลงทุนในประเทศนั้นได้รับทราบ โดยจะเน้นในมุมของการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค และกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์" นายวิเชฐกล่าว
          นายวิเชฐกล่าวว่า การเชื่อมโยงกับโลกภายนอกแบบนี้ จะสำเร็จผลได้เร็วช้ามากแค่ไหน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการพัฒนาระบบของตลาดหุ้นบ้านเราว่าจะสามารถตอบสนองกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ดีเพียงใด ซึ่งถ้าเสร็จเร็ว ทุกอย่างก็สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
          สำหรับตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในเรื่องของการสร้างเครือข่าย หรือการขยายขาให้มากขึ้น คือการจดทะเบียนสองตลาดหุ้น (Dual listing) ที่จะเกิดขึ้นกับหุ้นTAC ที่จะเข้าจดทะเบียนในไทยวันที่ 22 มิถุนายน 2550 ภายหลังจากที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นสิงคโปร์มาแล้วในช่วงที่ผ่านมา
          สิ่งเหล่านี้จะทำให้การพัฒนาของตัวตลาดหุ้น ซึ่งผลตอบแทนที่กลับมาจะเป็นในส่วนของการเป็นที่รู้จัก รวมทั้งยังสามารถทำให้บริษัทในตลาดหุ้น มีหุ้นที่จะใช้แลกกับหุ้นในหลายๆประเทศ
          อย่างไรก็ตามแผนการทำ Transferable Custody Receipt (TCR) ที่เป็นการสั่งซื้อหุ้นผ่านคาสโตเดียน ซื้อหุ้นที่ลูกค้าสนใจผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศ โดยออกใบเสร็จมาให้คนไทยซื้อขาย ซึ่งราคาหุ้นจะวิ่งตามการขึ้นลงของราคาหุ้น ซึ่งทำให้คนไทยสามารถซื้อหุ้นสิงคเทล หุ้นไมโครซอฟท์ หรือแม้แต่หุ้นโคลา โคล่า
          "ในกรณีที่เกิดช่องทางเปิดขึ้นมากมายในลักษณะที่เป็นระดับสากลแล้ว ถ้าเกิดเราไม่มีหุ้นของประเทศอื่นๆ ธุรกิจก็จะไปเกิดที่ประเทศอื่น แทนที่จะเกิดในไทย เท่ากับว่าเป็นการขายธุรกิจให้กับต่างชาติ โดยที่เราไม่สามารถเข้าไปซื้อหุ้นต่างชาติได้เลย"นายวิเชฐกล่าว
          -ตลท.-ก.ล.ต.พัฒนาตลาดทุน
          ด้านนางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยว่าแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี (2550-2552) ของตลาดหลักทรัพย์ฯ คือการมุ่งพัฒนาให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นตลาดรองที่ครบวงจรมีสินค้าครบถ้วน หลากหลาย และมีคุณภาพ (Integratedmarket) เพื่อที่จะเป็นตลาดหลักทรัพย์สำคัญของภูมิภาค ดังนั้นการเปิดโอกาสให้มีการจดทะเบียนควบ 2 ตลาด หรือ Dual Listing ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นเป็นรายแรกในตลาดทุนไทยในเดือนมิถุนายนนี้ นับเป็นแนวทางสำคัญที่จะช่วยเพิ่มจำนวนสินค้าคุณภาพ และความน่าสนใจให้ตลาดทุนไทย
          "ในขั้นตอนต่อไป ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเร่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับตลาดทุนไทย โดยร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ผลักดันให้บริษัทของคนไทย ที่ไปประกอบธุรกิจในต่างประเทศ สามารถเข้ามาระดมทุนในตลาดทุนไทย
          โดยขณะนี้ได้จัดตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อพิจารณาปรับเกณฑ์เพื่ออำนวยความสะดวก และลดอุปสรรคในการเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย โดยถือว่าแนวทางดังกล่าวเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ตลาดทุนไทยในระยะยาว และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับตลาดหุ้นทั้งภูมิภาคและระดับสากล" นางภัทรียากล่าว
          ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้อนุญาตให้บริษัทร่วมทุนไทยในต่างประเทศ (Joint Venture ) สามารถเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย เพื่อระดมเงินทุนในประเทศไทยได้ในวงเงินขั้นต้น 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะทำให้เกิดความคล่องตัวและเปิดโอกาสให้มีการระดมทุนจากบริษัทร่วมทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นด้วย

ข่าวหุ้น

เข้าชม: 1,768

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com