คุณฤดี จากห้วยขวาง กทม. ถามถึงผลกระทบจากมาตรการสำรอง 10% นั้น ส่งผลต่อการซื้อขายหุ้นของนักลงทนรายย่อยขนาดไหน เพราะเหมือนเป็นการกีดกันนักลงทนรายย่อยไม่ให้ซื้อหุ้นเยอะๆ เนื่องจากคนเล่นหุ้นที่มีบัญชีเงินฝากกับธนาคารก็ไม่สามารถซื้อหุ้นเกินวงเงินที่มีอยู่ในธนาคารอยู่แล้ว จึงไม่เชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะสร้างวินัยการเล่นหุ้นได้
          ผมขอเรียนตามตรงว่าการสร้างวินัยสำหรับการซื้อหุ้นเป็นเรื่องเพ้อฝันชัดๆ และเห็นด้วยกับคุณฤดีว่า มาตราการดังกล่าวได้ช่วยนักลงทุนรายย่อยเลยสักนิด
          เนื่องจากนักลงทุนราย่อยมีวงเงินในการซื้อขายหุ้นจำกัดอยู่แล้ว ยิ่งต้องมากันสำรอง10% เพิ่มเติม เท่ากับเป็นการลดอำนาจการซื้อหุ้นเข้าไปอีก ผมถึงไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว จนอยากทักท้วงการทำงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในหลายๆเรื่อง
          น่าเสียดายที่มาตรการดังกล่าวประกาศออกมาใช้อย่างเป็นทางการเสียก่อน นักลงทุนจึงต้องปฎิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด
          ยิ่งเพื่อนๆ ผมที่ทำงานทางด้านโบรกเกอร์ออกมาบอกเป็นเสยงเดียวกันว่า มาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นจากการเบี้ยวไม่ยอมจ่ายเงิน ยิ่งทำให้รู้ว่า แท้ที่จริงมาตรการดังกล่าวเป็นการป้องกันผลกระทบที่เกิดกับตัวโบรกเกอร์มากกว่านักลงทุนรายย่อย
          ตรงจุดนี่แหล่ะที่มีคนทักท้วงกันว่าเป็นการแก้ปัญหาไม่ถูที่คัน และพยายามโบ้ยเรื่องดังกล่าวให้นักลงทุนรายย่ายเป็นแพะรับบาป
          ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่านักลงทุนรายย่อยมีเงินบนหน้าตักน้อยกว่านักลงทุนรายใหญ่ และนักลงทุนสถาบันหลายเท่า การสำรองดังกล่าวจึงส่งผลกระทบกับนักลงทุนรายย่อยเต็มๆนะครับที่สำคัญคือ ก่อนหน้านี้ก็เคยเลื่อนการนำมาตรการดังกล่าวมาใช้ ผมจึงไม่เห็นความจำเป็นต้องนำมาตรการกันสำรอง 10% มาใช้เลยจริงๆ
          ผมถึงสงสัยว่า แผนการเพิ่มนักลงทุนรายย่อยจะประสบความสำเร็จได้อย่างไรกัน ในเมื่อเงิน100 บาทไม่สามารถซื้อหุ้นได้เต็ม 100 บาท และที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ก็เคยเห็นฤทธิ์เดชของมาตรการกันสำรอง 30% ของธปท. ที่นำมาใช้กับตา
          เหตุไฉนตลาดหลักทรัพย์ถึงคิดผลักไสไล่ส่งนักลงทุนรายย่อยให้ออกนอกตลาดหล่ะครับ
          ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงควรออกมาชี้แจง และตอบคำถามนักลงทุนให้กระจ่างชัดว่า แท้ที่จริงมาตรการดังกล่าวช่วยนักลงทุนรายย่อยอย่างไร มีความสำคัญขนาดไหนถึงต้องนำออกมาใช้ และมีความเป็นไปได้ที่จะยกเลิกมาตรการดังกล่าวหรือไม่
          หากตอบข้อสงสัยดังกล่าวไม่ชัดเจน เห็นทีแผนการสร้างนักลงทุนใหม่ๆ คงไม่สำเร็จเสียแล้ว
          หรือนี่เป็นแผนให้นักลงทุนรายย่อยโยกเงินไปลงทุนยังผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทอื่นของตลาดbหลักทรัพย์เป็นการทดแทน

ข่าวหุ้น