บล.บีที
          ตามที่มีการคาดว่าหลังจากคดีPTTแล้วมีโอกาสที่ MCOT น่าจะโดดฟ้องต่อเป็นรายต่อไปแต่อย่างไรก็ตาม เรามองว่าMCOT ไม่น่าจะถูกฟ้องร้องเหมือน PTT เพราะ MCOT มีขออนุญาติใช้และการจ่ายค่าตอบแทนให้รัฐในการเข้าไปใช้ประโยชน์ในอำนาจหรือประโยชน์ของทางภาครัฐมาโดยตลอด ในส่วนของคลื่นความถีวิทยุที่ทางMCOTใช้อยู่ทางบริษัทก็มีการจ่ายผลตอบแทนให้กับทางภาครัฐมาโดยตลอดเช่นกัน ซึ่งทำให้คาดว่าMCOTไม่น่าจะได้รับผลกระทบเหมือน PTT
          บล.ซิกโก้
          จากการสอบถามไปยัง MCOT ค่อนข้างมั่นใจว่า MCOT ไม่มีความเสี่ยงในประเด็นเดียวกับ PTT เนื่องจากทรัพย์สินทุกอย่างโอนถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ และที่สำคัญคือไม่มีทรัพย์สินที่ได้จากการเวนคืนเช่นเดียวกับ PTT ส่วนประเด็นพ.ร.บ. การประกอบกิจการกระจาย
          บล.กรุงศรีอยุธยา
          สำหรับปี 51 MCOT น่าจะได้ประโยชน์จากการไหลออกของเม็ดเงินโฆษณาจาก TITVเช่นกัน โดยจะมีการปรับผังครั้งใหญ่ในเดือน ม.ค. 51 ทั้งการปรับปรุงรายการในช่วงprime timeรายการวันเสาร์-อาทิตย์ และขยายเวลารายการข่าวภาคค่ำ ส่วนการปรับอัตราค่าโฆษณาในรายการSit Com ขึ้น 7% คาดว่าจะมีผลเต็มที่ตั้งแต่ 1Q51 เป็นต้นไปจากปัจจัยดังกล่าว AYS จึงคงประมาณการปี 51 เช่นเดียวกัน โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 1,286 ล้านบาท (+14% YoY)
          บล.เคจีไอ
          ความเสี่ยงหลักสำหรับบริษัทฯ ยังคงอยู่ที่ภายใต้ พรบ. แพร่ภาพและกระจายเสียงใหม่ บริษัทฯ จะสูญเสียค่าสัมปทานของ BEC World (BEC.BK, Bt25.75, OP)และTrue Visions อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงนี้ถูกเลื่อนออกไปในปี 2552 เนื่องจากการจัดตั้ง กสช ถูกเลื่อนออกไปจนถึงไตรมาส 4/51 เป็นอย่างเร็ว
          บริษัทหลักทรัพย์ ซื้อ ขาย ถือ ราคา/บาทบล.บีที / - - 27.75บล.ซิกโก้ / - - 30.00บล.กรุงศรีอยุธยา - - / 35.00บล.เคจีไอ / - - 35.50

ข่าวหุ้น