April 29, 2024   7:22:54 AM ICT
KBANK

บมจ. ธนาคารกสิกรไทย (KBANK)                  ซื้อ
ราคาปิด (บาท)                             80.50
ราคาเป้าหมาย (บาท)                        97.50
SET Index                               808.31
                                            
Stock Information                           
หุ้นที่ออกและชำระแล้ว (ล้านหุ้น)               2388.00
ราคาพาร์ (บาท)                            10.00
Free Float (%)                           98.72
มูลค่าตลาด (ล้านบาท)                    192250.00
Foreign Limit (%)                        48.98
                                            
Major Shareholders                          
ตลาดหลักทรัพย์ฯ (%)                         15.68
STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY (%)   7.21
บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด (%)                 4.99

คงครองตำแหน่งธนาคารที่มี NIM สูงที่สุดในกลุ่ม   
     
ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 4/50 ไว้ที่ 3,325 ล้านบาท
        เราประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 4/50 ไว้ที่ 3,325 ล้านบาท ลดลง 2.5%qoq เมื่อเทียบกับ
ไตรมาส 3/50 เนื่องจากค่าใช้จ่ายดำเนินงานเพิ่มขึ้นสูง 20%qoq จากการลงทุนในโครงการ
K-Transportation และสำรองฯเพิ่มขึ้นกว่า 20% ตามยอดสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น แม้ว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิ
เพิ่มขึ้นสูง 13% ก็ตาม   
        แต่หากเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนพบว่ากำไรสุทธิลดลง 3.0%yoy แม้รายได้
ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง 19%yoy และ 17%yoy ตามลำดับ ทั้งนี้เนื่อง
จากปี 50 มีการจ่ายภาษีในอัตราที่ปกติทำให้ค่าใช้จ่ายภาษีเพิ่มสูงจาก 59 ล้านบาท เป็น 1.5 พันล้านบาท
อีกทั้งไตรมาส 4/50 มีการตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้น 15% แต่หากพิจารณาที่กำไรจากการดำเนินงานพบว่ามีอัตรา
การเติบโตที่สูงถึง 29%yoy  
     
ไตรมาส 4/50 สินเชื่อขยายตัวสูง 4.3%qoq
        KBANK รายงานยอดสินเชื่อเดือน ต.ค.-พ.ย. เพิ่มขึ้น 1.9 หมื่นล้านบาท หรือ 2.7% จากสิ้น
ไตรมาส 3/50 เราคาดสินเชื่อเดือน ธ.ค. เติบโตต่อเนื่อง อันส่งผลให้สินเชื่อไตรมาส 4/50 และสิน
เชื่อปี 50 แสดงอัตราการเติบโตที่สูง 4.3% และ 12.3% ตามลำดับ โดยสินเชื่อที่มีอัตราการเติบโตสูงคือ
สินเชื่อรายย่อย (22%) และสินเชื่อ SMEs (15%) ในขณะที่เงินฝากเติบโตเพียง 5.8% ส่งผลให้สิ้นปี 50
สภาพคล่องของธนาคารลดลงโดยมีสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (Loan to Deposit Ratio: LDR) เพิ่ม
ขึ้นสูงจาก 90% ในปี 49 มาอยู่ที่ 96% ดังนี้เราคาดปี 51 จะเห็นการออกผลิตภัณฑ์เงินฝากลักษณะต่างๆ
เพื่อมาแย่งชิงเงินฝากในระบบ  
     
ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย(NIM) ดีกว่าคาด...พร้อมครองตำแหน่ง NIM สูงสุดในกลุ่ม
        การขยายตัวของสินเชื่อที่สูงประกอบกับการขาย NPLs ในไตรมาส 4/50 ส่งผลให้ส่วนต่าง
อัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ไตรมาส 4/50 ปรับตัวขึ้นสูงกว่าที่คาดไว้ที่ 4.14% ทำให้ KBANK ยังคงครอง
ตำแหน่งธนาคารที่มี NIM สูงที่สุดในกลุ่มที่ 4.02% และเป็นเพียงธนาคารเดียวที่มี NIM สูงกว่า 4%  
     
คุณภาพสินทรัพย์ดีที่สุดในกลุ่ม...ลด NPL Ratio ลงได้ต่ำกว่า 5%
        การเจรจาจำหน่าย NPLs ออกไปจำนวนหนึ่งประกอบกับการขยายตัวของสินเชื่อที่ต่อเนื่องใน
ตรมาส 4/50 ส่งผลให้เราคาดว่าสัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL Ratio) ในระดับธนาคารจะลดลงต่ำ
กว่า 5% นับเป็นปัจจัยบวกต่อความสามารถในการทำกำไรและส่วนต่งอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ของ
ธนาคาร  
     
รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตสูง 24%qoq
        เราประเมินรายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตต่อเนื่อง 24%qoq ส่วนใหญ่เป็นค่าธรรมเนียมจากธุรก
รรมทางการเงิน อาทิเช่น การโอนเงิน และการเป็นตัวแทนจำหน่ายประกัน (Bancassurance) อันเป็น
ผลจากความพยายามในการให้บริการลูกค้าในลักษณะกลุ่มธนาคารกสิกรไทยและโครงการ
K-Transformation  โดยปี 50 รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโต 25% ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเติบโต
สูง 29% และทำให้มีสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมต่อรายได้รวมอยู่ที่ 18% และมีสัดส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย
ต่อรายได้รวมอยู่ที่ 25% โดยเราเชื่อว่ารายได้ค่าธรรมเนียมและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจะเป็นรายได้สำคัญ
ของ KBANK ในอนาคต   
     
คงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยมูลค่าที่เหมาะสมที่ 97.50 บาท/หุ้น
        จากจุดเด่นทางด้านการเติบโตของสินเชื่อที่ต่อเนื่อง ระดับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ที่สูงที่
สุดในกลุ่ม และรายได้ค่าธรรมเนียมที่มีการเติบโตในอัตราที่สูง ประกอบกับคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีโดยมี NPL
Ratio ในระดับต่ำ เราจึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยมูลค่าที่เหมาะสม 97.50 บาท/หุ้น    

  8 ม.ค.--บล.กิมเอ็ง

เข้าชม: 1,569

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com