บมจ. พฤกษา เรียลเอสเตท ตั้งเป้าธุรกิจเชิงรุกสำหรับปี 2551 ซื้อ
ราคาตลาด (บ.) 7.80 ราคาเป้าหมาย (บ.) 9.60 Upside (%) 23.1
สรุปประเด็นสำคัญ และข่าวล่าสุด * ตั้งเป้ายอดขายโครงการขยายตัว 47% เป็น 2 หมื่นล้านบาทในปี 2551 * มีแนวโน้มว่าประมาณการกำไรในปี 2550 จะไม่เข้าเป้า ในขณะที่ประมาณการในปี 2551 จะสูงเกินคาด * คงแนะนำ ซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายที่ 9.60 บาท
เปิด 40 โครงการใหม่ในปี 2551 กลยุทธ์ทางธุรกิจของ PS ยังคงมุ่งเน้นตลาดผู้มีรายได้ต่ำถึงปานกลาง โดยเพิ่มความหลากหลาย ของผลิตภัณฑ์ในตลาดนี้ และขยายการครอบคลุมตลาดในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จากกลยุทธ์ดังกล่าว บริษัทฯ ตั้งเป้าเปิด 40 โครงการใหม่ในปี 2551 โดย 21 โครงการจะเป็นโครงการทาว์นเฮ้าส์ (TH), 11 โครงการจะเป็นโครงการบ้านเดี่ยว (SDH), และอีก 8 โครงการจะเป็นโครงการคอนโดมิเนียม แม้ ว่าจำนวนโครงการเปิดใหม่จะดูสูง เราคาดว่ามูลค่าโครงการรวมจะยังต่ำกว่า 20 พันล้านบาทเล็กน้อย
ตั้งเป้ายอดขายโครงการที่ 2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% จากปี 2550 หลังจากที่บรรลุเป้าการขยายตัวของยอดขายโครงการที่ 91% ในปี 2550 PS ตั้งเป้ายอดขาย โครงการในปี 2551 ที่ 2 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่า 43% จะมาจากทาว์นเฮ้าส์ เป้าดังกล่าวหมายถึงการ ขยายตัว 47% จากยอดขายโครงการในปี 2550 ที่ 13.5 พันล้านบาท นอกจากนี้บริษัทฯ ยังตั้งเป้าบันทึก รายรับจากการขายโครงการ 14 พันล้านบาท โดย 38% จะมาจากยอดขายรอรับรู้เป็นรายได้ (backlog) ในขณะที่คาดว่าโครงการเปิดใหม่จะสร้างรายรับเพียง 12% ของเป้ารายรับรวม
ประสิทธิภาพในการดำเนินงานเป็นกุญแจหลักสำหรับความสำเร็จของ PS ในขณะที่บริษัทฯ ไม่สามารถควบคุมการเปลี่ยนแปลงในแนวโน้มของตลาดได้ ความสามารถใน การปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอย่างทันท่วงทีเป็นคุณสมบัติประการสำคัญสำหรับผู้ประกอบการ พัฒนาอสังหาฯ ซึ่งจะทำให้ไม่เพียงแต่รอดพ้น แต่ยังสามารถชนะได้ในตลาดอสังหาฯ ประสิทธิภาพในการ ดำเนินงานที่ดีขึ้นของ PS จึงเป็นคุณสมบัติประการสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ โดดเด่นในตลาด PS สามารถร่น กระบวนการทางธุรกิจของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่องสำหรับโครงการแนวราบเหลือ 109 วันในปี 2550 จาก 180 วันในปี 2549 รอบธุรกิจที่เร็วขึ้นทำให้ PS สามารถควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้นและลดภาระดอกเบี้ยให้ต่ำลง ปัจจัยดังกล่าวยังทำให้กลยุทธ์ในการสร้างยอดขายโครงการของ PS มีความเสี่ยงน้อยลง จากความ สามารถในการสร้างสินค้าอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 3 เดือนหลังจากวันจอง
ค่าใช้จ่าย SG&A ต่อยอดขายยังคงสูง แต่ลดลงจากปี 2550 จากแผนการเปิดโครงการในปี 2551 ความไม่สมดุลย์ทางบัญชีระหว่างค่าใช้จ่าย SG&A และ การรับรู้รายรับจะยังคงกดดันผลประกอบการของ PS อย่างต่อเนื่อง เราคาดว่าค่าใช้จ่าย SG&A ต่อยอด ขายของ PS จะอยู่ที่ 15.0% ในปี 2551 ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าประมาณการของบริษัทฯ ที่ 15.4% อยู่ เล็กน้อย อย่างไรก็ดี ดังที่เราได้เคยกล่าวไว้ในรายงานครั้งที่แล้วว่า สัดส่วนดังกล่าวควรจะมีแนวโน้มลด ลงในอนาคตตามการเพิ่มของการรับรู้รายรับจากโครงการคอนโดมิเนี่ยมของ PS ที่จะเริ่มในไตรมาส 4/51
มีแนวโน้มว่าจะหลุดเป้าประมาณการกำไรในปี 2550 แต่เป้าประมาณการในปี 2551 อาจเพิ่ม การเลื่อนการโอนโครงการของ PS ในไตรมาส 4/50 อาจทำให้ผลการดำเนินงานของ PS หลุดเป้าประมาณการรายรับและกำไรของเราในปี 2550 ผู้บริหารประมาณการรายรับของบริษัทฯ ในปี 2550 ที่เพียง 9.0 พันล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการของเรา 7% นอกจากนี้ เราพบว่ากำไรของบริษัทฯ ในปี 2550 น่าจะต่ำกว่าประมาณการของเราประมาณ 6.4% อย่างไรก็ดีการโอนที่ถูกเลื่อนจากปี 50 จะ มาเป็นรายได้ในปีนี้ ทำให้เกิด Upside เมื่อเทียบกับเป้าประมาณการและราคาเป้าหมายของเราในปี 2551
คงแนะนำ ซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายที่ 9.60 บาท PS ยังคงเป็นหุ้นเด่นในกลุ่มอสังหาฯ ค่า DE Ratio ที่ต่ำเพียง 0.35 เท่าในไตรมาส 3/50 ช่วยเสริมให้ PS มีความยืดหยุ่นในการปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงในธุรกิจอสังหาฯ และประสิทธิภาพ ในการดำเนินงานที่ดีขึ้นของบริษัทฯ จะช่วยให้ PS สามารถชิงส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งได้ต่อเนื่อง เราจึง คงแนะนำ ซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายที่ 9.60 บาท
10 ม.ค.--บมจ.เคจีไอ |