May 3, 2024   8:53:16 PM ICT
KTB

บมจ. ธนาคารกรุงไทย (KTB)                    ถือ
ราคาปิด (บาท)                             8.70
ราคาเป้าหมาย (บาท)                       10.90
SET Index                              766.53
                                            
Stock Information                           
หุ้นที่ออกและชำระแล้ว (ล้านหุ้น)             11180.00
ราคาพาร์ (บาท)                            5.15
Free Float (%)                          42.80
มูลค่าตลาด (ล้านบาท)                    97264.00
Foreign Limit (%)                       25.00
                                            
Major Shareholders                          
กองทุนฟื้นฟูฯ (%)                           55.52
Littledown Nominees Limited (%)          5.87
บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด (%)                4.42

รายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังอีกครั้งหนึ่ง  
     
รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/50 เพียง 134 ล้านบาท ลดลง 88%qoq และ 69%yoy
        KTB รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/50 ที่ 134 ล้านบาท ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดไว้อย่างมี
นัยสำคัญ สาเหตุหลักมาจากการตั้งสำรองและภาษีจ่ายสูงกว่าที่เราคาดไว้ประมาณ 1 พันล้านบาทและ 900
ล้านบาท ตามลำดับ โดยกำไรสุทธิไตรมาส 4/50 ลดลง 88%qoq เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/50 เนื่องมา
จาก 1) ในไตรมาส 4/50 ไม่มีเงินปันผลรับจากกองทุนวายุภักษ์เช่นที่มีในไตรมาส 3/50 และ 2) ค่าใช้
จ่ายภาษีเพิ่มขึ้นกว่า 30 เท่า หากเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน พบว่ากำไรสุทธิลดลง
69%yoy สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายภาษีที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ  
        กำไรสุทธิปี 50 อยู่ที่ 6,113 ล้านบาท ลดลง 57% จากปีที่แล้ว เนื่องมาจาก 1) การตั้ง
สำรองที่สูง 1.95 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 18%yoy โดยเป็นการตั้งสำรองฯเพื่อรองรับเกณฑ์ IAS 39 และ
การตั้งสำรองฯเผื่อความสูญเสียจากการลงทุนใน CDO (Collateralized Debt Obligations) 2)
ค่าใช้จ่ายภาษีเพิ่มขึ้นกว่า 25 เท่า 3) ค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น 7%yoy โดยส่วนใหญ่มาจากค่าใช้
จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน และ 4) รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 4%yoy เป็นผลมาจาก NIM ที่ลดลงประมาณ
20bps จากปีที่แล้ว   
     
สินเชื่อปี 50 ขยายตัวดีกว่าคาดที่ 3.8%
        ยอดสินเชื่อไตรมาส 4/50 เพิ่มขึ้นสูง 4.1%qoq ส่งผลให้สินเชื่อปี 50 ขยายตัวดีกว่าที่คาดไว้ที่
3.8%yoy หรือประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท อันเป็นผลมาจากการปล่อยสินเชื่อให้แก่องค์กรรัฐวิสาหกิจและ
ธุรกิจขนาดใหญ่อาทิเช่น ESSO ในไตรมาส 4/50 ในขณะที่สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นปี 50 อยู่ที่ 96,084
ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.4 พันล้านบาทจากสิ้นปี 49 โดย NPL Ratio เพิ่มขึ้นจาก 9.2% ณ สิ้นปี 49 เป็น
9.5%    
     
ปี 50 NIM ลดลง 20bps จากปี 49
        จากสินเชื่อที่ชะลอตัวลงอย่างมากและปัญหา NPLs ที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ประกอบกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงในครึ่งปีแรก ส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest
Margin) ลดลงจากปีที่แล้วที่ 4.1% มาอยู่ที่ 3.9% ในปีนี้ หรือลดลงประมาณ 20bps โดย NIM ต่ำสุดใน
ครึ่งปีแรก  
     
ปรับลดมูลค่าที่เหมาะสมลงเป็น 10.90 บาท/หุ้น แต่คงคำแนะนำ "ถือ"
        จากผลประกอบการไตรมาส 4/50 ที่ต่ำกว่าคาด ประกอบกับความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์
และความไม่แน่นอนในการตั้งสำรองฯ ส่งผลให้หุ้น KTB มีความผันผวนค่อนข้างมาก ส่งผลให้เราปรับลด
ประมาณการอัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นระยะยาว (Long term ROE) จาก 15.5% เป็น 14.5% ส่งผล
ให้มูลค่าที่เหมาะสมปี 51 ลดลงจาก 12.30 บาท/หุ้น เป็น 10.90 บาท/หุ้น  เนื่องจากราคาปัจจุบันมี
การปรับลดลงมามากโดยมีการซื้อขายที่เพียง 1.04 เท่าของมูลค่าทางบัญชี ดังนี้เราจึงคงคำแนะนำ "ถือ"
โดยมองว่าธนาคารขนาดใหญ่อื่นอย่าง BBL และ KBANK มีความน่าสนใจมากกว่าเนื่องจากให้ผลตอบแทนที่
ดีกว่าประกอบกับความเสี่ยงที่ต่ำกว่า  

22 ม.ค.--บล.กิมเอ็ง

เข้าชม: 1,610

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com