บมจ. ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ซื้อ ราคาปิด (บาท) 110.00 ราคาเป้าหมาย (บาท) 146.00 SET Index 766.53 Stock Information หุ้นที่ออกและชำระแล้ว (ล้านหุ้น) 1909.00 ราคาพาร์ (บาท) 10.00 Free Float (%) 95.34 มูลค่าตลาด (ล้านบาท) 209972.00 Foreign Limit (%) 25.00 Major Shareholders ตลาดหลักทรัพย์ฯ (%) บ. ไทยเอ็นวีดีอาร์ จก. (%) HSBC (Singapore) Nominees (%) ปี 50 สินเชื่อเติบโตดีเกินคาด 8.3%yoy BBL รายงานกำไรสุทธิปี 50 ที่ 19,218 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8%yoy BBL รายงานกำไรสุทธิปี 50 ที่ 19,218 ล้านบาท ใกล้เคียงกับที่เราคาดการณ์ไว้ที่ 20,133 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1,363 ล้านบาท หรือ 8% จากปี 49 แม้ว่าในปี 50 สาเหตุหลักมาจาก สำรองฯลดลง 44%yoy เนื่องจากปี 49 มีการตั้งสำรองฯก้อนใหญ่ประมาณ 5.9 พันล้านบาท เพื่อรองรับ เกณฑ์ IAS39 ทั้งหมดในคราวเดียวในไตรมาส 4/90 กำไรสุทธิไตรมาส 4/50 อยู่ที่ 4,090 ล้านบาท ลดลง 21%qoq เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/50 เนื่องมาจาก รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 12%qoq จากการบันทึกค่าเผื่อการด้อยค่าสำหรับเงินลงทุน ประเภทหุ้น ตราสารหนี้ รวมถึง CODs ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยและสำรองฯ ประมาณ 11% และ 12% ตามลำดับ สินเชื่อขยายตัวดีเกินคาดที่ 8.3%yoy แม้ช่วง 9 เดือนแรกสินเชื่อจะเติบโตเพียง 4.1% แต่ไตรมาส 4/50 สินเชื่อมีอัตราการขยาย ตัวที่สูง 4.0%qoq หรือประมาณ 4.0 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้สิ้นปี 50 มียอดสินเชื่อที่ 1,042,074 ล้าน บาท เพิ่มขึ้น 80,004 ล้านบาท หรือ 8.3% จากสิ้นปี 49 สูงกว่าที่เราและตลาดคาดการณ์ไว้ ในขณะที่ เงินฝากเพิ่มขึ้นเพียง 48,920 ล้านบาท หรือ 3.98% จากสิ้นปี 49 ส่งผลให้สภาพคล่องปรับตัวลดลงเล็ก น้อย โดยมีสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (LDR) เพิ่มขึ้นจาก 78.3% เป็น 81.6% แต่ยังถือว่าเป็นธนาคารที่มี สภาพคล่องสูงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย LDR ของอุตสาหกรรมที่กว่า 90% คุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้น ณ วันที่ 31 ธ.ค. 50 ธนาคารมียอดสินเชื่อด้อยคุณภาพ 81,671 ล้านบาท ลดลง 7,449 ล้าน บาท จากสิ้นปี 49 ทำให้สัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL Ratio) ลดลงจาก 9.2% มาอยู่ที่ 7.9% ใน ขณะเดียวกันสัดส่วนสำรองฯต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) มีการปรับตัวสูงขึ้นจาก 80.2% เป็น 82.0% สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพสินทรัพย์ที่มีการปรับตัวดีขึ้น อันจะนำมาซึ่งการเพิ่มประสิทธิภาพในการ ทำกำไรในอนาคต อยู่ในสถานะที่ได้เปรียบในการปล่อยสินเชื่อปี 51 เราคาดว่าจะเห็นการขยายตัวของสินเชื่อที่ดีขึ้นในปี 51 โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักๆมาจากความ ชัดเจนทางการเมือง และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยเฉพาะในด้านการลงทุนภาคเอกชน และการใช้จ่ายภาครัฐผ่านโครงการ Mega projects ดังนี้ BBL ในฐานะธนาคารขนาดใหญ่ซึ่งมีสภาพ คล่องสูงและมุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อภาคธุรกิจ ย่อมเป็นหนึ่งในธนาคารที่จะได้รับประโยชน์ โดยมีโอกาสสูง ที่จะได้ร่วมปล่อยกู้ให้แก่โครงการลงทุนขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน นอกจากนี้สภาพคล่องที่สูงเอื้อ ประโยชน์ต่อการขยายสินเชื่อได้โดยไม่จำเป็นต้องระดมเงินฝากด้วยการให้ดอกเบี้ยที่สูง คงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าที่เหมาะสม 146.00 บาท/หุ้น เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยมองว่า BBL มีโอกาสเติบโตที่สูงในปี 51 จากเศรษฐกิจโดยรวมที่ คาดจะกลับมาฟื้นตัว ซึ่งจะส่งผลบวกต่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะ BBL จะได้เปรียบในการขยายสิน เชื่อโดยเฉพาะสินเชื่อภาคธุรกิจ นอกจากนี้ราคาหุ้นปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจลลงทุนระยะยาวโดยมี ราคาเพียง 1.27 เท่าของมูลค่าทางบัญชี
22 ม.ค.--บล. กิมเอ็ง |