นวนคร (NNCL) วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 NEWSTALK พื้นฐานแกร่ง หุ้นถูก Dividend Yield มากกว่า 8% ซื้อ
- โครงสร้างรายได้มีความมั่นคงสูง มีแผนการลงทุนใน 4 โครงการหลัก - กำไรสุทธิปี 2550 คาดเติบโตสูง 34% ในขณะที่ปี 2551 เติบโต 6.3% - ประเมิน Fair Value ที่ P/E 12 เท่า ให้มูลค่า 3.44 บาท แนะนำ ซื้อ
FACT: โครงสร้างรายได้มั่นคงสูง มีแผนลงทุนใน 4 โครงการหลัก NNCL ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ประกอบการเขตอุตสาหกรรม มีที่ดินภายใต้การพัฒนา 2 แห่ง คือ ที่ จ.ปทุมธานี พื้นที่ 6,355 ไร่ และที่ จ.โคราช 1,903 ไร่ ซึ่งสร้างรายได้ในสัดส่วน 55% ของรายได้ รวม นอกจากนี้แล้ว NNCL ยังมีรายได้จากการให้บริการและค่าเช่าอีกสัดส่วน 44% ซึ่งนับว่าเป็นโครง สร้างที่สามารถลดความผันผวนของผลประกอบการได้ดี ทั้งนี้ เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาว NNCL มี แผนการลงทุนเพิ่มเติมได้แก่ 1) ขยายกำลังการผลิตน้ำเป็น 60,000 ลบ.ม./วัน งบลงทุน 100 ล้านบาท 2) ขยายระบบบำบัดน้ำเสียเป็น 40,000 ลบ.ม./วัน งบลงทุน 400 ล้านบาท 3) โครงการพัฒนา คอนโดมิเนียม 4,000 ยูนิต ใช้เงินทุนเริ่มแรก 200 ล้านบาท และ 4) โรงไฟฟ้า SPP ขนาด 120 MW มูลค่า 4 พันล้านบาท ซึ่งล่าสุดได้มีการร่วมทุนกับพันธมิตรชาวญี่ปุ่น โดยเบื้องต้นคาดว่าโครงการทั้งหมดจะ ใช้แหล่งเงินกู้จากสถาบันการเงินและแหล่งทุนภายใน ทำให้คาดว่าจะเห็นสัดส่วนรายได้ค่าบริการมีแนวโน้ม สูงขึ้นตั้งแต่ 2H51 เป็นต้นไป
IMPACT: คาดกำไรปี 50 เติบโต 34% ในขณะที่ปี 51 เติบโต 6.3% ประเมินว่าแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินและการขยายกำลังการผลิตน้ำ จะเป็นส่วนสำคัญที่ ผลักดันให้ Gross Margin เฉลี่ย วิ่งเข้าสู่ระดับ 60% ได้ภายใน 2 - 3 ปี ข้างหน้า โดยปัจจุบัน Gross Margin ของรายได้ที่ดินที่ปทุมธานีสูงกว่า 70%, โคราชประมาณ 15% และรายได้ค่าบริการสูงกว่า 40% ทำให้คาดว่าตลอดปี 2550 NNCL จะมีกำไรสุทธิ 323 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% YoY ในขณะที่งวดปี 2551 ประเมินกำไรสุทธิ 343 ล้านบาท เติบโต 6.3% YoY ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับลดจากประมาณการเดิม 5.6% และ 11.1% ตามลำดับ เนื่องจากประมาณการการบันทึกรายได้ที่ดินที่ปรับลดลง และ Gross Margin ของรายได้ที่ดินที่ปรับลดลงตามสัดส่วนโครงการโคราชที่เพิ่มขึ้น
ACTION: ประเมิน Fair Value ที่ P/E 12 เท่า ให้มูลค่า 3.44 บาท จากแผนการลงทุนที่มีอย่างต่อเนื่องและความมีเสถียรภาพของรายได้ที่มากขึ้น ฝ่ายวิจัยจึงกำหนด Fair Value ปี 2551 ที่ P/E 12 เท่า ให้มูลค่าที่เหมาะสม 3.44 บาท เทียบกับราคาปัจจุบันมี Upside 67% รวมทั้งคาดอัตราเงินปันผลตลอดปี 2550 และ 2551 อยู่ที่ระดับ 0.17 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield 8.3% คงคำแนะนำ ซื้อ
5 ก.พ.--บมจ.หลักทรัพย์ เอเชีย พลัส |