บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) คาดผลประกอบการไตรมาส 4/50 ดีขึ้นเป็นขาดทุนปกติ 315 ล้านบาทและกำไรสุทธิ 173 ล้านบาท
ซื้อเก็งกำไร ราคาปิด (บาท) 5.70 ราคาเป้าหมาย (บาท) 8.70 SET Index 806.44
* ธุรกิจออนไลน์และเคเบิลทีวีขยายตัวในไตรมาส 4/50 ธุรกิจเคเบิลทีวีและธุรกิจอินเตอร์เน็ตรวมถึงบรอดแบนด์มีแนวโน้มขยายตัวในไตรมาส 4/50 ผู้บริหารของบริษัทกล่าวว่าราคาน้ำมันที่แพงขึ้นกลับทำให้มีความต้องการบริการเหล่านี้เพิ่มขึ้น เราคาดว่า รายได้ (ก่อนหักรายการระหว่างกัน) ของธุรกิจเคเบิลทีวีจะขยายตัว 8% qoq เป็น 2.7 พันล้านบาท และรายได้ของกลุ่มออนไลน์ (อินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์พื้นฐาน) จะขยายตัว 3% qoq เป็น 6.3 พันล้าน บาท
* ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายในทรูมูฟคาดว่าจะคงที่ เราคาดว่าทรูมูฟมียอดลูกค้าเพิ่มสุทธิ 1 ล้านเลขหมายในไตรมาน 4/50 ทำให้ฐานลูกค้ารวม ขยายเป็น 12.3 ล้านเลขหมายหรือส่วนแบ่งตลาดประมาณ 23% ณ สิ้นปี อย่างไรก็ดี เนื่องจากค่าโทรยัง คงมีแรงกดดันจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการแข่งขันที่ยังคงรุนแรงอีกทั้งกลุ่มลูกค้าใหม่ล้วนแต่เป็นผู้ใช้น้อย เราจึงคาดว่ารายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายต่อเดือน (ARPU) โดยรวมจะตกลง 10% เป็น 170 บาท ทำให้ รายได้ (ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่าย/IC) คาดว่าจะคงที่ที่เกือบ 6 พันล้านบาท เราคาดว่ารายได้ IC สุทธิลดลงจาก 55 ล้านบาทในไตรมาสก่อนหน้าเป็น 25 ล้านบาทตามแนวโน้มสัดส่วนการโทรออกนอกโครง ข่ายในอุตสาหกรรมที่ลดลง
* คาดขาดทุนปกติ 315 ล้านบาทแต่มีกำไรสุทธิ 178 ล้านบาทในตรมาส 4/50 ด้วยการขยายตัวของธุรกิจออนไลน์และเคเบิลทีวีเป็นหลัก เราคาดว่า TRUE มีผลขาดทุนสุทธิที่ดี ขึ้นจาก 580 ล้านบาทในไตรมาสก่อนหน้าเป็น 315 ล้านบาทซึ่งเป็นระดับที่ดีที่สุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ปัจจัยสำคัญคือการเปลี่ยนแปลงการประเมินอายุสินทรัพย์เพื่อใช้ในการคำนวนค่าเสื่อมราคาตั้งแต่ไตรมาส 3/50 เป็นต้นมา แต่ด้วยประมาณการกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 493 ล้านบาทจากเงินกู้สกุลดอลลาร์ สหรัฐฯ และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น จึงคาดกำไรสุทธิ 178 ล้านบาทในไตรมาส 4/50
* คาดขาดทุนปกติ 3 พันล้านบาทในปี 50 แต่กำไร 389 ในปี 51 เราคาดว่า TRUE จะมีผลขาดทุนปกติดีขึ้นจาก 5.7 พันล้านบาทในปีก่อนหน้าเป็น 3 พันล้านบาท ในปี 50 เนื่องจาก 1) การหยุดจ่ายค่าแอ็คเซสชาร์จของทรูมูฟ 2) การขยายตัวต่อเนื่องของธุรกิจ เคเบิลทีวีและอินเตอร์เน็ต และ 3) ค่าเสื่อมราคาที่ลดลงจากการประเมินอายุสินทรัพย์เพิ่มขึ้น แต่ด้วย การประมาณการกำไรพิเศษ 4.1 พันล้านบาทจากอัตราแลกเปลี่ยนและการปรับค่าเสื่อมราคาย้อนหลัง เราจึงคาดกำไรสุทธิ 1.16 พันล้านบาทในปี 50 และด้วยแนวโน้มการเติบโตของทั้งธุรกิจอินเตอร์เน็ต เคเบิลทีวีและโทรศัพท์เคลื่อนที่อีกทั้งการประเมินอายุสินทรัพย์เพิ่มขึ้น เราคาดว่าผลประกอบการปกติจะพลิก เป็นกำไร 389 ล้านบาทในปี 51
* คงแนะนำ ซื้อเก็งกำไร จากการคาดว่าผลประกอบการจะพลิกมามีกำไรในปี 51 อีกทั้งเราประเมินราคาเหมาะสมตาม วิธีคิดลดกระแสเงินสดที่ 8.7 บาท/หุ้น เราจึงคงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร ทั้งนี้ความเสี่ยงหลักของหุ้น TRUE ยังคงเป็นการฟ้องร้องค่าแอ็คเซสชาร์จโดยทีโอที
บล.กิมเอ็ง |