May 2, 2024   9:15:48 PM ICT
LTF : งานนี้ไม่ต้องรักพี่ เสียดายน้อง

    สองสามวันก่อน ขณะโดยสารอยู่ในลิฟต์ในตึกที่ทำงาน ที่มีคนหนาแน่น พอสมควรเพราะเป็นช่วงใกล้เวลาเริ่มงาน พลันก็พบว่ามีมือ ๆ หนึ่งมาสะกิดที่แขน พร้อมเสียงถามโดยที่ยังไม่เห็นตัวเจ้าของมือและเสียงว่า

?พี่คะ หนูกำลังจะไปซื้อ LTF แต่พอคนขายเค้าถามว่า จะเอากองแบบ มีเงินปันผล หรือไม่มีเงินปันผลดี หนูตอบไม่ได้ เพราะเลือกไม่ถูก เลยขอถอย มาตั้งหลักก่อน พี่ว่าหนูควรจะเลือกแบบไหนดีคะ?

ยังไม่ทันได้ตอบคำถามกันให้กระจ่าง ก็พอดีลิฟต์มาถึงชั้นที่เจ้าของคำถาม ต้องออกไปเสียก่อน ดิฉันเลยขอนำประเด็นที่น้องคนนี้ตั้งไว้มาคุยกับคุณผู้อ่าน ไปพร้อม ๆ กันเสียทีเดียว เผื่อมีใครที่อยู่ในสถานการณ์คล้าย ๆ กันจะได้มี แนวทางประกอบการตัดสินใจกันด้วยดีไหมคะ?

ก่อนอื่น ขออนุญาตทบทวนแบบย่อ ๆ ก่อนนะคะว่า LTF คืออะไร? LTF (ย่อมาจาก long term equity fund) คือ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว ซึ่งทางการได้มีการ ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ที่ลงทุนใน LTF ถึง 2 ทางด้วยกัน นั่นก็คือ ทางแรก เงินซื้อหน่วยลงทุนใน LTF ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 15% ของเงินได้ โดยกำหนดเพดานสูงสุดไว้ด้วยว่าต้องไม่เกิน 300,000 บาท และทางที่สอง กำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุน หรือที่เรียกว่า capital gain ก็ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมาคำนวณเป็นเงินได้เพื่อเสียภาษี

ทั้งนี้ โดยมีเงื่อนไขว่า ผู้ลงทุนจะต้องถือหน่วยลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปีปฏิทินค่ะ

สำหรับประเด็นที่ว่าจะเลือกลงทุนใน LTF แบบไหนดี ระหว่างกองแบบ ที่มีเงินปันผล และกองแบบที่ไม่มีเงินปันผล ในการเลือกตรงนี้ ดิฉันขอให้ขึ้นอยู่กับ ความชอบและความต้องการของคุณค่ะ เพราะกองแบบที่มีเงินปันผลนั้น อาจเหมาะกับคุณบางคนที่ต้องการเงินมาใช้บ้างในระหว่างการลงทุนระยะยาว ที่ไม่น้อยกว่า 5 ปี (ปฏิทิน) การได้รับเงินปันผลระหว่างทาง อาจช่วยให้คุณอุ่นใจขึ้น ว่าได้จับต้องบางส่วนของดอกผลจากการลงทุนของคุณแล้ว ซึ่งตรงนี้ ดิฉันขอเพิ่ม ข้อควรคำนึงไว้ประกอบการตัดสินใจของคุณอีก 2 ประการค่ะ ก็คือ

1. กองแบบมีเงินปันผล ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีการปันผลเสมอไป เพราะ ขึ้นอยู่กับผลประกอบการของกองทุน และเงื่อนไขการจ่ายเงินของแต่ละกองทุน ตามที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวนที่คุณได้อ่านเมื่อตอนตัดสินใจเริ่มลงทุนนั่นไงล่ะคะ และ 2. เงินปันผลจากกองทุน จะต้องเสียภาษี โดยคุณ ๆ สามารถเลือกหัก ณ ที่จ่ายในอัตรา 10%หรือจะเลือกไม่หัก ณ ที่จ่าย แต่นำเงินปันผลมารวมคำนวณ เพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีก็ได้ค่ะ อย่าลืมว่าสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่ได้จาก LTF นั้น จะครอบคลุมแค่เงินลงทุนและ capital gain เท่านั้นนะคะ ส่วนเงินปันผลนั้นก็ต้องเสียภาษีไปตามระเบียบค่ะ

ส่วนกองแบบที่ไม่มีเงินปันผลนั้น เหมาะกับคุณที่อดใจรอได้ตามเงื่อนไข ระยะเวลาการลงทุน ซึ่งหากกองทุนมีผลกำไรที่ดี คุณก็จะได้รับผลตอบแทนเป็น เงินก้อนจากการขายคืนหน่วยลงทุนแบบเต็ม ๆ ไม่ต้องเสียภาษีเลยล่ะค่ะ

ถึงตอนนี้ เลือกกันได้หรือยังคะ ว่าจะซื้อ LTF แบบไหน แต่ถ้ายังเลือกไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะเอาแบบไหนดี เข้าทำนองรักพี่ เสียดายน้องแล้วล่ะก็ ขอบอกว่า ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะ LTF เค้าไม่ได้บังคับว่าคุณต้องเลือกลงทุนในแบบใด แบบหนึ่งเท่านั้นนี่คะ คุณอาจเลือกลงทุนโดยแบ่งก้อนเงินลงทุนไปกระจายลงใน LTF ทั้ง 2 แบบก็ได้ค่ะ รวมทั้งจะซื้อหลาย ๆ กองก็ไม่ว่ากันค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าลืมว่า ไม่ควรซื้อเกินสิทธิประโยชน์ทางภาษี (15% ของเงินได้ โดยสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท) นะคะ เพราะนอกจากส่วนที่ซื้อเกินจะไม่ได้รับยกเว้นภาษีแล้ว เงินในส่วนนี้ (ที่ซื้อเกินสิทธิ) ยังจะต้องเสียภาษี capital gain (ถ้ามีกำไร) อีกด้วยค่ะ

ก่อนจากกัน ขอฝากทิ้งท้ายว่า LTF นั้น เป็นกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในหุ้น ดังนั้น ก่อนซื้อ LTF พึงระลึกถึงประเด็นตรงนี้ประกอบการตัดสินใจด้วยนะคะ ถ้าจะ ให้ดี อยากฝากให้คุณ ๆ นึกถึงหลัก asset allocation ด้วยค่ะ นั่นคือ มีการจัดสรร และกระจายเงินลงทุนที่สอดคล้องกับระดับการรับความเสี่ยงของคุณเอง

เลือกลงทุนแล้วได้ผลเป็นอย่างไร จะส่งข่าวคราวมาให้ทราบก็ไม่ว่ากันนะคะ ... จะรอฟังผลอยู่ค่ะ

ที่มา

คอลัมน์ ?หน้าต่าง ก.ล.ต.? โดย ณัฐญานิยมานุสร สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. (E-mail : info@sec.or.th)ประจำวันที่ 26 ต.ค. 47 LTF : งานนี้ไม่ต้องรักพี่ เสียดายน้อง

เข้าชม: 3,950

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com