เฟดใช้ยาแรงหั่นดอกเบี้ยรวดเดียวเหลือ 0-0.25% ส่งสัญญาณเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง นายแบงก์ฟันธงรอบหน้ากนง.กดดอกลงตาม 0.75% หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดหนุนสินเชื่อแบงก์ในระบบโตระดับหนึ่ง ส่วนหุ้นแบงก์รีบาวนด์ช่วงสั้นตามตลาด หลังกองRMF และLTFขนเงินเข้าลงทุน
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) KBANK เปิดเผยว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.75-1% เหลือ 0-0.25% จากเดิมที่ 1%เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวรุนแรง ซึ่งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้จะส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยไทยและสหรัฐห่างกันมากถึง 1.50%
ดังนั้นในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ในวันที่ 14 ม.ค.นี้ คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25-0.50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.75% เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางดอกเบี้ยประเทศอื่นๆ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ
นายชาติชาย กล่าวต่อว่า หากกนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชื่อว่าธนาคารพาณิชย์จะทยอยปรับลดดอกเบี้ยลงอีก แม้ว่าในช่วงเดือนธ.ค.ที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.5% และดอกเบี้ยเงินฝาก 0.75-1% แล้วก็ตาม ซึ่งกระตุ้นสินเชื่อได้บ้าง
“ หลังลดดอกเบี้ยช่วยกระตุ้นสินเชื่อไตรมาส 4/2554 ระดับหนึ่ง แต่ปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจทำให้ผู้ซื้อชะลอตัดสินใจออกไป คาดว่าจะกระทบสินเชื่อรวมไตรมาส4/2551ลดลง 5-10% แต่สินเชื่อบ้านเติบโตดี ซึ่งทำได้แล้ว 3.6 หมื่นล้านบาท สูงกว่าเป้าทั้งปีที่ 3 หมื่นล้านบาท ส่วนปีหน้าคาดสินเชื่อบ้านจะลดลง โดยตั้งเป้าประมาณ 2.5-3 หมื่นล้านบาท” นายชาติชาย กล่าว
นายบรรลือศักดิ์ ปุสสะรังษี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เฟดปรับลดดอกเบี้ยเหลือเพียง 0-0.25% เร็วกว่าฝ่ายวิจัยคาดการไว้ที่ 0.50% ซึ่งส่งสัญญาณถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวแท้จริง
“ เฟดต้องการกดดอกเบี้ยให้ต่ำเพื่อเข้าไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้เอกชนเพื่อกดให้ผลตอบแทนต่ำลง ส่งผลให้ให้ดอกเบี้ยระยะยาวลดลง ซึ่งจะง่ายต่อการเข้ากู้เงิน แต่ฝ่ายวิจัยไม่คาดคิดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยเร็วเช่นนี้” นายบรรลือศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ การปรับลดดอกเบี้ยของเฟด อาจจะส่งผลให้ธปท.ปรับลดดอกเบี้ยลงในวันที่ 14 ม.ค.ลง 0.75% มาอยู่ที่ 2% จากเดิม 2.75% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อที่ลดลงต่อเนื่อง ธปท.อาจจะลดดอกเบี้ยลงในการประชุม กนง.วันที่ 25 ก.พ.2552อีก 0.50% มาอยู่ที่ 1.50%
นายวรวัฒน์ สายสุพัฒน์ผล ผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ผันผวน แต่อยู่ในลักษณะปรับเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีทั้งปัจจัยบวกในประเทศ เช่น การเมืองและปัจจัยลบภายนอกเข้ามากระทบตลอด โดยเชื่อว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะเคลื่อนไหวตามตลาดหุ้น โดยคาดว่าดัชนีปีนี้จะแตะระดับ 460-470 จุด
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารจะปรับขึ้นระยะสั้นเพราะเชื่อว่าปี2552จะยังถูกกดดันจากเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลให้สินเชื่อเติบโตลดลงเหลือ 5% ลดลงจากปี2551 ที่คาดว่าเติบโต 10% อีกทั้งเสี่ยงจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) และต้องสำรองเพิ่มขึ้น ซึ่งจะกดดันกำไรสุทธิแต่ละธนาคารลดลง ส่วนกลยุทธ์ลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปี 2552 แนะนำเพียง “เก็งกำไร” สำหรับหุ้นเด่นในกลุ่มธนาคาร SCB KBANK และ BBL เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีสัญญาณฟื้นตัวเร็วสุด
“ ช่วงนี้หุ้นแบงก์ยังไม่มีการปรับฐานใหม่ และสัญญาณหุ้นแบงก์ยังปรับขึ้นต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วงที่กอง RMFและ LTF เข้ามาลงทุน และขึ้นลงตามตลาด จึงมีความผันผวนทั้งปีนี้และปีหน้า โดยเชื่อว่าราคาหุ้นจะปรับลดลงไม่มากเพราะหุ้นหลายตัวเทรดต่ำกว่าบุ๊กแวลู และรับปัจจัยลบจากเศรษฐกิจถดถอยล่วงหน้าแล้ว ”นายวรวัฒน์ กล่าว
Thunhoon |