May 21, 2024   4:27:08 AM ICT
โอเปกลดการผลิตน้ำมันไร้ผล

ราคาน้ำมันเมินโอเปกลดการผลิต 2.2 ล้านบาร์เรลดิ่งต่ำสุดรอบ 4 ปี แตะ 40.06 ดอลล์ ด้านผู้เชี่ยวชาญ “มนูญ ศิริวรรณ”มองมาตรการของโอเปกเริ่มเสื่อม กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันมีสัญญาณแตกแถว ไม่สนมติเดินหน้าผลิตเกินโควต้า คาดเดือนมกราคา 2552 ได้เห็นราคาน้ำมันแตะ 30 ดอลล์ หลังเศรษฐกิจไร้แววฟื้น ประเมินครึ่งแรกปี 2552 ราคาน้ำมันแกว่งในกรอบ 40-49 ดอลล์ สถบันวิจัยนครหลวงไทยแนะระยะสั้นให้ “ขายทำกำไร” หุ้นกลุ่มน้ำมันไปก่อน เพื่อลดความเสี่ยง


     กลุ่มโอเปกมีมติปรับลดกำลังการผลิตลง 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน มีผลนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552 ถือเป็นการลดกำลังการผลิตมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการกำหนดโควตาผลิตน้ำมันครั้งแรกในปี 2525 ส่งผลให้นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กลุ่มโอเปกได้ประกาศปรับลดกำลังการผลิตลงไปแล้ว 4.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน


     นอกจากนี้ประธานกลุ่มโอเปก เปิดเผยว่า ระดับราคาน้ำมันดิบที่เหมาะสมควรอยู่ที่ระดับ 70-80 เหรียญสหรัฐตาอบาร์เรล อีกทั้งยังได้ส่งสัญญาณที่จะไม่มีการประชุมฉุกเฉินในการปรับลดกำลังการผลิต โดยกลุ่มโอเปกจะมีการประชุมอีกครั้งในเดือนมีนาคม 2552


     นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชียวชาญราคาน้ำมัน กล่าวว่า การปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันในตลาดโลกมาอยู่ที่ 40.06 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลนั้น เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าอำนาจการควบคุมราคาน้ำมันของกลุ่มโอเปกลดลง จากในช่วงที่ผ่านมากลุ่มโอเปกไม่สามารถคุมให้ประเทศในกลุ่มผลิตได้ตามโค้วต้า
     ประกอบกับทิศทางเศรษฐกิจยังไม่มีสัญญาณฟื้น หรือใกล้ถึงจุดต่ำสุดได้เร็ว ส่งผลให้ความต้องการใช้พลังงานลดลงตามไปด้วย ดังนั้นคาดว่าในช่วงเดือนมกราคมปี 2552 มีโอกาสที่จะได้เห็นราคาน้ำมันปรับตัวลงมาอยูที่ระดับ 30 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลได้


     ดังนั้นประเมินว่า แนวโน้มราคาน้ำมันในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2552 นั้นจะยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 40-49 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในช่วงปลายปี แต่จะมาอยู่ในระดับเท่าไหร่นั้นจะต้องขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นหลักด้วย


     ทั้งนี้จึงแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานนั้นควรเลือกลงทุนในกลุ่มที่สามารถป้องกันความเสี่ยง เช่น PTT ซึ่งมีการดำเนินธุรกิจที่หลากหลาย ส่วนธุรกิจโรงกลั่นยังมีปัจจัยเสี่ยงจากการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมัน ส่งผลกดดันให้ค่าการกลั่นในปี 2552 ลดลงได้ถึง 20% จากปีนี้ค่าการกลั่นเฉลี่ยอยู่ที่ 9 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 6-7 เหรียญศหรัฐต่อบาร์เรล


     นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยนครหลวงไทย กล่าวว่า การลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกในครั้งนี้ใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของตลาดที่ 1-2 ล้านบาร์เรล จึง ส่งผลให้ตลาดน้ำมันยังคงไม่ตอบรับในเชิงบวก โดยราคาน้ำมันดิบตลาดโลกร่วงลง 8.12% หรือ 3.54 เหรียญ/บาร์เรล สู่ระดับ 40.06 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี นับแต่ 14 กรกฏาคม 2547 จากความไม่มั่นใจว่าการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก จะสามารถสร้างเสถียรภาพที่ดีขึ้นให้กับตลาดได้


     ทั้งนี้หากเทียบคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกในปี 2552 แล้ว พบว่า อุปทานจากกลุ่มโอเปกหลังการปรับลดกำลังการผลิต ตลาดน้ำมันถือว่าอยู่ในภาวะที่น่าจะเริ่มตึงตัวขึ้นจากอุปทานของโอเปกที่ผลิตต่ำกว่าคาดการณ์ความต้องการ


     อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาการลดกำลังการผลิตจริงของกลุ่มโอเปกยังคงไม่เป็นไปตามมติโดยในรอบเดือนพฤศจิกายน 2551 โดยยังคงลดกำลังการผลิตไปเพียงประมาณ 0.79 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ 50% ของมติที่จะลดกำลังการผลิตจำนวน 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้ตลาดจะรอดูการปรับลดกำลังการผลิตจริงของกลุ่มโอเปกในทางปฏิบัติซึ่งต้องใช้ระยะเวลาสักพัก


     ทั้งนี้มองว่าตลาดน้ำมันยังคงรอดูท่าทีดังกล่าว และจากตัวเลขปริมาณสต็อกน้ำมันโลกยังคงอยู่ในระดับสูง และการประกาศตัวเลขสต็อกน้ำมันของสหรัฐฯวานนี้ก็ยังคงเพิ่มขึ้น 5 แสนบาร์เรล สำหรับน้ำมันดิบ และ 2.9 ล้านบาร์เรลสำหรับน้ำมันกลั่น ขณะที่อัตราการใช้กำลังการกลั่นของโรงกลั่นลดลง ซึ่งยังคงยืนยันถึงการอ่อนตัวลงของอุปสงค์น้ำมัน


     ดังนั้น ในฝั่งอุปทานต้องมีความชัดเจนว่าจะมีการถูกปรับลดกำลังการผลิตลงจริงตามมติ โดยในระยะสั้นเชื่อว่าตลาดน้ำมันจะยังคงเป็นเชิงลบ เนื่องจากไม่มีปัจจัยสำคัญที่หนุนให้ตลาดปรับตัวขึ้นในระยะสั้นๆ จึงยังคงคำแนะนำ “ขายทำกำไร” หุ้นในกลุ่มน้ำมัน เช่น PTTEP ให้ราคาเป้าหมาน 100 บาท


     ขณะที่ ในระยะกลาง-ยาวมองว่าราคาน้ำมันมีโอกาสที่จะมีเสถียรภาพและฟื้นตัวขึ้นได้หากกลุ่มโอเปก มีการปรับลดกำลังการผลิตลงมาจริงตามเป้าหมาย ซึ่งต้องรอดูในช่วงไตรมาส 1/2552 รวมทั้งจับตาความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตลงจากประเทศนอกกลุ่มโอเปก เช่น รัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 2 และ เม็กซิโก

Thunhoon

เข้าชม: 1,033

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com