May 21, 2024   3:47:23 AM ICT
แบงก์รับอานิสงส์ขาขึ้นท้ายปี

แบงก์ขยันวิ่งยกแผง  รับอานิสงส์พลังงานพักฐานช่วงนี้   โบรกคาดแม้โอเปกลดกำลังการผลิตหนุนหุ้นพลังงานเด้งไม่ไกลนัก  ส่วนทิศทางหุ้นแบงก์ช่วง 2 สัปดาห์ท้ายปีแม้ผันผวน   แต่อยู่ขาขึ้นมากกว่าขาลงเพราะแรงหนุนลดดอกเบี้ยทั้งในและต่างประเทศ  ส่งผลสภาพคล่องไหลกลับสู่ระบบมากขึ้น  พ่วงปัจจัยการเมือง ขณะที่เลื่อนใช้Basel II กระตุ้นสินเชื่อแบงก์จิ๊บจ๊อย


 นายกมลชัย พลอินทวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ทรีนิตี้ จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า  ในช่วงนี้เริ่มมีปริมาณการซื้อขาย(วอลุ่ม)เข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ค่อนข้างหนาแน่นเนื่องจากเป็นช่วงที่กลุ่มพลังงานพักฐาน  แม้ที่ผ่านมาผลการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) จะลดกำลังการผลิตอีก 2.2 ล้านบาร์เรล  ส่งผลให้กำลังการผลิตของกลุ่มเหลือเพียง 24.845 ล้านบาเรลต่อวันเชื่อว่ายังไม่สามารถหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นได้


 “ปีนี้จะยังเห็นนักลงทุนเข้าลงทุนในกลุ่มพลังงานสลับกับกลุ่มแบงก์เพิ่มขึ้น หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นการลงทุนแบบเวียนกลุ่มเช่น กลุ่มพลังงาน แบงก์และสื่อสาร  สำหรับหุ้นกลุ่มแบงก์นั้นในช่วงที่เหลือของปีจะเคลื่อนไหวผันผวน  แต่จะปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าปรับตัวลดลง” นายกมลชัย กล่าว


 ส่วนกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารช่วง 2 สัปดาห์ที่เหลือของปี 2551 แนะนำ “เก็งกำไร” ในหุ้นกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ เช่น BBL KBANK  และSCB เนื่องจากมีสัญญาณการฟื้นตัวดี  อีกทั้งยังมีพื้นฐานธุรกิจค่อนข้างแข็งแกร่ง  สำหรับหุ้นธนาคารขนาดเล็กแนะนำ “เก็งกำไร” TMB เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีสัญญาณทางเทคนิคค่อนข้างดี โดยประเมินแนวรับ 0.61-0.60 บาท และแนวต้าน 0.64-0.65 บาท  ส่วนปัจจัยพื้นฐานของธนาคารคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องหลังจากการได้ทีมผู้บริหารชุดใหม่เข้ามาบริหาร


 นายกมลชัย กล่าวว่า หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะเคลื่อนไหวตามตลาดทั้งปีนี้และปีหน้า ซึ่งฝ่ายวิจัยมองว่าตลาดหุ้นปี2551 จะอยู่ที่ 460-480 จุด ซึ่งหากเป็นไปได้ตามคาดจะช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับขึ้นต่อเนื่อง   อีกทั้งดัชนีตลาดหุ้นต้นปี2552 จะเพิ่มขึ้นแตะ 550 จุด และปลายปีคาดลดลงแตะ 300 จุด   ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารต้นปี 2552 จะปรับตัวดีขึ้น แนะนำ “เก็งกำไร”  และช่วงปลายปี2552เป็นช่วงดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารอยู่ในช่วงขาลงตามภาวะเศรษฐกิจ แนะนำ “ชะลอลงทุน”  เพราะราคาหุ้นอาจลดลงได้


     นายอนุพนธ์  ศรีอาจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด  (มหาชน)  กล่าวว่า ทิศทางหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในช่วงที่เหลือของปีนี้อยู่ในช่วงขาขึ้นเนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้สภาพคล่องกลับเข้าสู่ระบบมากขึ้น อีกทั้งยังได้รับปัจจัยบวกจากการเมืองหลังได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่  ซึ่งมีแนวทางแก้ไขปัญหาและกระตุ้นเศรษฐกิจแม้จะเป็นนามธรรมก็ตาม


     “การที่นักลงทุนหันมาลงทุนในหุ้นแบงก์ ยังไม่เห็นสัญญาณที่ชัดเจนอย่างมีนัยสำคัญ แต่ถ้าดูแล้วแม้ปรับลดกำลังการผลิตของโอเปกจะไม่ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่จำนวนวอลุ่มหุ้นกลุ่มพลังงานมีมากกว่ากลุ่มแบงก์เกือบครึ่ง จึงไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนได้ว่ามีการพักฐานลงทุนกลุ่มพลังงานเพื่อลงทุนในกลุ่มแบงก์” นายอนุพนธ์  กล่าว


     ด้านนางสาวชาลี  กือเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ  ฝ่ายวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า   แม้การบังคับใช้มาตรฐานเงินกองทุนใหม่ตามมาตรฐานหรือ Basel II  จะมีการเลื่อนการกำหนดใช้ออกไป  แต่ไม่สามารถกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อให้ภาคธุรกิจได้เนื่องจากมีความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัว


    ส่วนแนวโน้มดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปีนี้คาดจะผันผวนสูง แนะนำ “เก็งกำไร” และแนะนำ หุ้นกลุ่มธนาคารที่มีพื้นฐานดี เช่น SCB ให้ราคาเหมาะสม 62 บาท เนื่องจากธนาคารมีการขยายตัวของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยค่อนข้างดี จึงกระทบไม่มากในช่วงส่วนต่างทำกำไร(มาร์จิ้น)ลดลง  อีกทั้งธนาคารมีการบริหารจัดการปล่อยสินเชื่อได้ดีและที่ผ่านมาธนาคารมีการเติบโตของสินเชื่อน้อยที่สุดในธนาคารขนาดใหญ่ จึงมีความเสี่ยงการเพิ่มขึ้นของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)น้อย

Thunhoon

เข้าชม: 1,061

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com