May 21, 2024   1:20:17 AM ICT
ลุ้นWindow Dressingหนุนตลาด โค้งสุดท้ายหุ้นไทยแผ่วดัชนี430จุด

ทันหุ้น-หุ้นไทยเริ่มหมดสภาพ ไร้ข่าวดีด้านการเมืองหนุนตลาดหุ้น ด้านบล.ฟาร์อีสท์ ลุ้นWindow Dressing อาจเข้ามาหนุนตลาดในระยะสั้นได้ ขณะที่กลยุทธ์การลงทุนยังมีความเสี่ยงไม่แนะนำลงทุน ส่วนค่ายกสิกรไทย ประเมินดัชนีส่งท้ายปีอาจเกิดแรงแผ่วอาจเห็นเพียง430 จุดเท่านั้น   


 ดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2551ที่ผ่านมา ปิดทำการซื้อขายที่ระดับ 447.01 จุด ลดลง 4.71 จุด หรือ 1.04% มูลค่าการซื้อขายสุทธิ 11,007.78 ล้านบาท ส่วนใหญ่ยังเป็นแรงซื้อ-ขายของหุ้นในกลุ่มพลังงาน ,ธนาคารพาณิชย์ ,กลุ่มวัสดุก่อสร้าง รวมถึงกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 325.22 ล้านบาท ขณะที่สถาบันซื้อ 38.08 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 287.15 ล้านบาท


  ขณะที่ธนาคารกลางของหลายประเทศต่างพร้อมใจกันปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ภายหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงอีก 0.75-1% สู่ระดับ 0-0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2497 รวมถึงปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลงอีก 0.75% สู่ระดับ 0.50% จากเดิมที่ 1.25% นำโดยธนาคารกลางฮ่องกงปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% สู่ระดับ 0.50% ธนาคารกลางคูเวต ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% สู่ระดับ 3.75%

ธนาคารกลางซาอุดิอาระเบีย ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% สู่ระดับ 2.50% ธนาคารกลางนอร์เวย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1.75% สู่ระดับ 3% ธนาคารกลางฟิลิปินส์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% สู่ระดับ 5.5% และล่าสุด ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ที่ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงสู่ระดับ 0.1% จากเดิมที่ 0.3% และธนาคารกลางเดนมาร์ค ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.5% สู่ระดับ 3.75% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ


 รวมถึงสถาบันการเงินสากล(IMF)ซึ่งเป็นตัวแทนของธนาคารสำคัญและสถาบันการเงินของโลกกว่า 375 แห่ง ชี้แจงว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2552 จะหดตัวลง 0.4% หลังจากขยายตัวในปีนี้ที่ 2% โดยปีหน้าถือว่าเป็นการถดถอยของเศรษฐกิจพร้อมกันทั่วโลกครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเศรษฐกิจยุคใหม่
 นายวีระชัย ครองสามสี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า  ดัชนีสัปดาห์นี้ (22-26 ธ.ค.) คาดว่า ปรับตัวลดลงเนื่องจากตลาดหุ้นปลอดข่าวดีโดยเฉพาะปัจจัยเสริมทางการเมืองที่นักลงทุนส่วนใหญ่รับข่าวดีไปแล้ว จึงอาจทำให้เกิดแรงขาย (Sell On Fact) ออกมา ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศยังมีความเสี่ยงต่อการปรับลดลงจากการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4/2551 ของสถาบันการเงินและแผนช่วยเหลืออุตสาหกรรมยานยนต์ที่ยังไม่ชัดเจน


 อย่างไรก็ตาม หวังว่า การทำ Window Dressing ของกองทุนและการเข้าซื้อ LTF-RMF จะเข้ามาช่วยพยุงดัชนีตลาดหุ้นไทยได้ ส่วนกลยุทธ์การลงทุน แนะนำ ?ขายŽ หลังจากดัชนีมีการปรับตัวขึ้นมาแล้วระยะหนึ่ง โดยประเมินแนวรับที่ 430 จุด และแนวต้าน 460 จุด


 ด้านนายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า การปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงท้ายของสัปดาห์ที่ผ่านมา (19 ธ.ค.) เชื่อว่า มาจากการที่นักลงทุนส่วนใหญ่ได้มีการตอบรับกับข่าวดี ทั้งเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ รวมถึงความชัดเจนทางการเมืองในประเทศที่ไม่มีข่าวดีรองรับเหมือนช่วงที่ผ่านมา จึงทำให้การปรับตัวของดัชนีในช่วงสุดท้ายของสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดการชะลอตัว


  ส่วนแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์นี้ (22-26 ธ.ค.) คาดว่า จะมีการปรับตัวผันผวนอยู่ในกรอบแคบ ๆ เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดที่ตลาดหุ้นในต่างประเทศหยุดทำการซื้อขาย ซึ่งอาจทำให้มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างบางเบาลงอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น เชื่อว่า กรณีเลวร้ายที่สุดดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงสิ้นปี น่าจะอยู่ที่ระดับ 430 จุด


  ขณะเดียวกันการเมืองยังคงมีแรงกดดันจากกรณีที่กลุ่มชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)ประกาศจะจัดการชุมนุมครั้งใหญ่ที่ท้องสนามหลวง ในวันที่ 28 ธันวาคม เพื่อต่อต้านรัฐบาลพรรคประชาธิปปัตย์ (ปชป.)แต่เชื่อว่าจะไม่เกิดความรุนแรงโดยประเมินแนวรับที่ระดับ 437 จุด และแนวต้านที่ 463 จุด

เข้าชม: 941

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com