May 21, 2024   3:35:20 AM ICT
กลุ่มโรงไฟฟ้าลุ้นรัฐขึ้นค่าเอฟที GLOW-RATCHแรงติดชาร์ต

ทันหุ้น- กลุ่มโรงไฟฟ้าลุ้นตัวโก่ง รัฐปรับอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ปี 2552 เพิ่มอีก 40-50 สตางค์ต่อหน่วย จากเดิมที่ 77.70 สตางค์ต่อหน่วย ด้าน “สุทธิวงศ์ คงสิริ” ผู้บริหารค่าย GLOW ยิ้มรับข่าวดีหนุนผลงานโตฉลุย แจงราคาหุ้นดิ่ง เหตุนักลงทุนหวั่นวิตกบริษัทขาดสภาพคล่องหลังใช้เงินลงทุนเยอะ โบรกชู RATCH เด่นสุด จากผลงานระยะกลางยังแกร่ง


     กรณีที่มีกระแสข่าวว่า อัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดเดือนมกราคม-เมษายน 2552 มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากงวดเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2551 ที่ 40-50 สตางค์ต่อหน่วย จากปัจจุบันมีอัตราอยู่ที่ 77.70 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากราคาเชื้อเพลิงย้อนหลัง 6 เดือนที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติ (แอลพีจี) ที่ต้องอิงกับราคาน้ำมัน ซึ่งยังครอบคลุมระยะเวลาในช่วงที่ราคาน้ำมันแพงสูงสุด


 นายสุทธิวงศ์ คงสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการเงิน บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) GLOW เปิดเผยว่า หากมีการปรับขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) จริง ถือว่าเป็นข่าวดีกับกลุ่มผู้ประกอบการในธุรกิจโรงไฟฟ้า เนื่องจากที่ผ่านมาค่อนข้างได้รับผลกระทบจากราคาก๊าซธรรมชาติ (แอลพีจี) ที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูงตามแนวโน้มราคาน้ำมัน ซึ่งถือเป็นภาระที่ผู้ประกอบการต้องแบกรับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


 ทั้งนี้ราคาก๊าซธรรมชาติ ส่วนใหญ่จะอิงกับราคาน้ำมันในตลาดโลกย้อนหลังเป็นเวลา 6 เดือน ดังนั้นแม้ว่าปัจจุบันราคาน้ำมันจะมีการปรับตัวลดลง แต่ระดับราคาก๊าซธรรมชาติย้อนหลัง 6 เดือนจึงถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของกลุ่มผู้ประกอบการ ซึ่งสะท้อนแนวโน้มราคาน้ำมันในช่วงที่ปรับตัวอยู่ในระดับสูงด้วย
คาดรัฐเมินนโนบาย


 “เชื่อว่ารัฐบาลชุดใหม่อาจจะยังไม่มีนโยบายในการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปรอัตรโนมัติ (เอฟที) เพราะหากมองถึงภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศที่ยังอยู่ในช่วงวิกฤติ ดังนั้นการปรับขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อประชาชน และอาจทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลชุดใหม่ถูกมองไปในแง่ลบ ซึ่งอาจทำให้การทำงานยากขึ้นด้วย” นายสุทธิวงศ์กล่าว


 นายสุทธิวงศ์กล่าวว่า ในทางที่ดีที่สุดรัฐบาลอาจคงหรือปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) เนื่องจากในระยะยาวหากระดับราคาก๊าซธรรมชาติ (แอลพีจี) มีการปรับตัวลดลงมา รัฐบาลก็จะได้ประโยชน์จากส่วนต่างของราคาก๊าซธรรมชาติกับอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรซึ่งยังอยู่ในระดับเดิม แต่หากรัฐบาลปรับขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร ในขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติปรับตัวลดลงมา รัฐบาลก็จำเป็นที่จะต้องปรับลดระดับอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรลงตามมต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวลดลงด้วย


ชี้เศรษฐกิจปี52-53ยังปักหัว


 ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2552-2553 มองว่า จะยังอยู่ในช่วงชะลอตัวอย่างชัดเจน ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับการดำเนินงานในระยะยาวของบริษัทบ้าง เนื่องจากกลุ่มลูกค้าหลักของส่วนใหญ่เกี่ยวกับผู้ประกอบการในกลุ่มปิโตรเคมี รวมถึงภาคอุตหกรรมอื่น ๆ ที่คาดว่าจะมีแนวโน้มความต้องการใช้ไฟฟ้าเพื่อการผลิตลดลงอย่างต่อเนื่อง ตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังอยู่ในช่วงถดถอย


 ดังนั้นบริษัทจึงได้เตรียมปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว โดยการพยายามลดต้นทุนการผลิต รวมถึงแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินบาท และอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตรโนมัติ (เอฟที) ที่จะเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของรายได้ในระยะยาว


 “ภาวะเศรษฐกิจในปีหน้าที่ยังไม่ค่อยดี ทำให้ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้ารายอื่น ๆ มีการชะลอแผนการลงทุน IPP ไปบ้าง แต่สำหรับบริษัทยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องสำหรับโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ขนาดกำลังการผลิต 115 เมกะวัตต์ที่ขณะนี้ผ่านกระบวนการทางกฎหมายทุกอย่างแล้ว โดยน่าจะเริ่มเดิมเครื่องผลิตได้ปลายปี 2552 และเชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะเป็นตัวสร้างรายได้หลักให้บริษัท และในอนาคตเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศอย่างยิ่งจากต้นทุนการผลิตต่ำ ซึ่งจะทำให้การคิดคำนวณค่าไฟฟ้าถูกลงด้วย” นายสุทธิวงศ์ กล่าว


สภาพคล่องฉุดหุ้นดิ่ง


 นายสุทธิวงศ์ กล่าวว่า ราคาหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า โดยเฉพาะของ GLOW ที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง เชื่อว่า เป็นผลมาจากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับปัญหาสภาพคล่อง เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทมีความจำเป็นต้องใช้เงินในการลงทุนก่อสร้างโครงการต่าง ๆ ค่อนข้างมาก โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการชี้แจงเกี่ยวกับรายละเอียดดังกล่าวกับกลุ่มนักลงทุนไปแล้วว่าสภาพคล่องและแนวโน้มการดำเนินงานยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง


 นายนพพล  มิลินทางกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)  RATCH เปิดเผยว่า ขณะนี้ขอรอดูความชัดเจนจากการศึกษาเกี่ยวกับแนวโน้มความต้องการใช้ไฟฟ้าในปี 2552 ของทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ก่อนว่าเป็นอย่างไร จึงจะสามารถชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการที่อาจมีการปรับเพิ่มอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตรโนมัติ (เอฟที) ได้


 บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ปัจจุบันผลตอบแทนในรูปเงินปันผลของหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าในปี 2552 คาดว่าจะอยู่ที่ 7.4-9.4%โดยผลตอบแทนของหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าถือว่ามีความน่าสนใจมาก รวมถึงการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงของตลาดทุนในช่วงที่ผ่านมา ได้ทำให้ผลตอบแทนในรูปเงินปันผลของผู้ผลิตไฟฟ้าสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำเฉลี่ย 1 ปี


RATCHติดชาร์ตหุ้นเด่น 


 ดังนั้น ฝ่ายวิจัยจึงปรับน้ำหนักของธุรกิจโรงไฟฟ้าเป็น “มากกว่าตลาด” จากเดิมที่ “เท่ากับตลาด” โดยหุ้นเด่นในกลุ่มโรงไฟฟ้า ได้แก่ RATCH เนื่องจากแนวโน้มการขยายตัวของผลการดำเนินงานดีขึ้นในระยะกลาง


  ราคาหุ้น GLOW วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม 2551 ปิดตลาดที่ 22.20 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ 0.89% มูลค่าการซื้อขายสุทธิ 63.90 ล้านบาท ส่วนราคาหุ้น RATCH ปิดตลาดที่ 41.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.61% มูลค่าการซื้อขายสุทธิ 61.95 ล้านบาท และราคาหุ้น EGCO ปิดตลาดที่ 64.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 4.03% มูลค่าการซื้อขายสุทธิ 50.07 ล้านบาท

เข้าชม: 1,119

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com