ทันหุ้น- กลุ่มรับเหมาก่อสร้างเริ่มเสี่ยง หลังราคาหุ้นรูดยกแผง คาดนักลงทุนหวั่นหลัง ตลท. จี้วางเงินสด 100% ก่อนเข้าซื้อ  ITD-STEC ส่วน CK โดนหางเลห์กดราคาหุ้นทรุดตาม โบรกส่องกระทบจิตวิทยาการลงทุนระยะสั้น ขณะที่พื้นฐานยังแน่นปึ๊ก เชื่อการเมืองยังเป็นไม้เด็ดพยุงหุ้นรับเหมาได้ดีเยี่ยม ส่วนกลยุทธ์แนะ “ทยอยซื้อ” ชู STEC แจ๋วสุด ความเสี่ยงการเงินต่ำ ลงทุนปลอดภัย ด้าน ITD สุดเฮงโดดคว้างานเพิ่มเฉียด 700 ล้านบาท

     จากการสำรวจราคาหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง พบว่ามีการปรับตัวลดลงอย่างหนัก นำโดย  STEC ราคาทรุดกว่า 19.83% วานนี้ (22 ธ.ค.) ปิดตลาดที่ 1.94 บาท ลดลง 0.48 บาท มูลค่าการซื้อขายสุทธิ 21.43 ล้านบาท ตามมาด้วย ITD ปิดตลาดที่ระดับ 1.94 บาท ลดลง 0.38 บาท หรือ 16.38% มูลค่าการซื้อขาย 64.54 ล้านบาท ปิดท้ายด้วย CK ปิดตลาดที่ระดับ 3.54 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ 7.81% มูลค่าการซื้อขายสุทธิ 119.21 ล้านบาท 

 นางสาววิชชุดา ปลั่งมณี  ผู้จัดการส่วนวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด กล่าวว่า ราคาหุ้นในกลุ่มรับเหมาที่ปรับตัวลดลงอย่างหนัก เชื่อว่าเป็นผลมาจากการที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สั่งให้บริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกให้ลูกค้าวางเงินสดเต็มจำนวนก่อนเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มรับเหมาหลักๆ อย่าง ITD และ STEC เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นมีการปรับตัวขึ้นค่อนข้างมาก ซึ่งส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นผลมาจากแรงเก็งกำไรเพื่อรับข่าวดีเกี่ยวกับงานก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจกต์

 “ ถ้าคิดในแง่ปัจจัยพื้นฐานบริษัทรับเหมาก่อสร้างส่วนใหญ่ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่จากปัจจัยลบดังกล่าวเชื่อว่าจะมีผลกระทบต่อหุ้นในเรื่องของความน่าสนใจ เพราะหลังจากนี้ลูกค้าจะเริ่มมีความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น ซึ่งหลังจากที่ ตลท. ได้ประกาศออกมา ราคาหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างส่วนใหญ่ก็ได้สะท้อนปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวเกือบหมดรวมถึง CK ด้วย” นางสาววิชชุดากล่าว

 นางสาววิชชุดากล่าวว่า จากปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวเชื่อว่าน่าจะมีผลกระทบในแง่ของจิตวิทยาการลงทุนในหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างในช่วงสั้น ๆ แม้ว่าปัจจัยพื้นฐานของแต่ละบริษัทจะยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีก็ตาม แต่การปรับตัวลดลงของราคาหุ้นในระยะนี้ ส่วนใหญ่เป็นมุมมองในแง่การลงทุนของกลุ่มนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ยังคงวิตกกังวลจากข่าวลบดังกล่าว

 ขณะที่ประเด็นทางการเมืองที่เริ่มมีความชัดเจน ช่วยเอื้อประโยชน์โดยตรงกับกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง จากโอกาสเกี่ยวกับแรงสนับสนุนของแหล่งที่มาของเงินทุน รวมถึงการขับเคลื่อนโครงการที่เป็นนโยบายของภาครับในอันดับต้นๆ เพื่อหวังช่วยขับเคลื่อนภาวะเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว รวมถึงการจ้างงาน โดยมองว่าผู้รับเหมาก่อสร้างต่างๆ ล้วนมีโอกาสที่จะได้งานเพิ่มขึ้นในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มผู้รับเหมาหลัก อย่าง ITD, CK และ STEC ที่คาดว่าจะเป็นกลุ่มที่มีความเป็นไปตามมากที่สุดในการประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง

 สำหรับกลยุทธ์ลงทุน แนะนำ “ทยอยซื้อ” โดยหุ้น STEC ที่ราคาเหมาะสม 3.60 บาท จาก Backlog ในมือรอรับรู้รายได้ราว 12,211 ล้านบาท โดยจุดเด่นของบริษัทจากความชำนาญในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าและโรงงานปิโตรเคมี ส่วน CK ให้ราคาเหมาะสม 4.40 บาท โดยบริษัทมี Backlog ในมือรอรับรู้รายได้ 14,714 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีโอกาสรับงานต่อเนื่องจากงานก่อสร้างเขื่อนและฝายน้ำล้น หลังจากบริษัทได้เซนต์สัญญาโครงการไซยะบุรี มูลค่า 63,000 ล้านบาท

 ส่วน ITD ซึ่งเป็นผู้รับเหมารายใหญ่ที่ได้ประโยชน์จากงบประมาณภาครัฐ โดยมีจะดเด่นจากการเป็นผู้นำของผู้รับเหมารายใหญ่รวมถึงมีความชำนาญในการก่อสร้างระยะยาว โดยมี Backlog รอรับรู้ราได้สูงถึง 81,303 ล้านบาท โดยให้ราคาเหมาะสมที่ 3.30 บาท

     อีกทั้งวานนี้ ( 22 ธ.ค.2551 ) ITD ยังได้ลงนามในสัญญาก่อสร้าง จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน สำหรับโครงการจ่ายไฟฟ้า 69 เควี ณ สถานีสูบน้ำพระโขนงของสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร มูลค่า 36.43 ล้านบาท และโครงการก่อสร้าง The W Retreat and Residences ที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี มูลค่างาน 658.05 ล้านบาท 

     บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด เลือก STEC เป็นหุ้นรับเหมาเด่นสุด จากความเสี่ยงทางการเงินที่ต่ำกว่าท่ามกลางความเสี่ยงทางธุรกิจ