May 21, 2024   4:51:30 AM ICT
แบงก์เริงร่ารัฐกระตุ้นอสังหา SCBกำพอร์ตสินเชื่อบ้าน25%

ทันหุ้น-แบงก์รับอานิสงส์ถ้วนหน้า  ถ้ารัฐบาลใหม่ออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ   หนุนสินเชื่อบ้านโตขึ้น  แถมความเสี่ยงจากหนี้เน่าน้อยกว่าสินเชื่ออื่น    คาดSCB รับประโยชน์มากสุดในกลุ่มเพราะมีพอร์ตเยอะสุด 24-25%  ส่วนสินเชื่อบ้านยังเติบโตดี  คาดแบงก์อาจอัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดเพิ่ม  


  นายวรวัฒน์  สายสุพัฒน์ผล  ผู้ช่วยผู้จัดการ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  หากรัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจน  คาดว่านโยบายแรกที่จะให้ความสำคัญก่อนคือ การเข้ามาช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์  ซึ่งฝ่ายวิจัยเชื่อว่ากลุ่มที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด คือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์เนื่องจากจะเป็นปัจจัยเสริมที่ส่งผลให้สินเชื่อปรับตัวเพิ่มขึ้น


     สำหรับธนาคารที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์สูงสุด คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) SCB  เนื่องจากเป็นธนาคารที่มีพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยในสัดส่วนถึง 24-25%  ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์  ซึ่งเชื่อว่าสินเชื่อดังกล่าวจะยังขยายตัวได้ดี  อีกทั้งธนาคารอาจมีโปรโมชั่นพิเศษเพื่อกระตุ้นสินเชื่อ คือ การให้สินเชื่อบ้านควบคู่กับประกันในรูปแบบต่างๆ


      อย่างไรก็ตาม  เชื่อว่าหากนโยบายกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ประกาศใช้จริงเชื่อว่าทุกธนาคารจะหันมาขยายพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้นเนื่องจากการปล่อยสินเชื่อดังกล่าวมีความเสี่ยงจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)น้อยกว่ากลุ่มอื่น


 ปัจจุบัน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) KTB มีพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยประมาณ 14-15% , ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) KBANK มีประมาณ14% , ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) BBL มีประมาณ 13-14%,ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) TMB มีประมาณ 13% และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) BAY  มีประมาณ 11%  อย่างไรก็ตาม  แม้รัฐบาลจะออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งผลดีต่อการเติบโตของสินเชื่อธนาคาร แต่คาดว่าการปล่อยสินเชื่อปี 2552 จะเติบโตลดลงตามเศรษฐกิจที่ชะลอตัว


    ส่วนแนวโน้มราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ช่วงที่เหลือของปี 2551 คาดว่าจะผันผวน แต่ยังมีแรงซื้อหุ้นของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว(LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF)  อีกทั้งได้รับอานิสงส์จากการเลื่อนกำหนดใช้บาเซิ่ล 2  จึงเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อราคาหุ้นกลุ่มธนาคาร แนะนำ “เก็งกำไร”หุ้นธนาคารขนาดใหญ่


 นักวิเคราะห์ กล่าวต่อว่า ส่วนทิศทางหุ้นกลุ่มธนาคารปี 2552  เชื่อว่าในไตรมาส1/2552จะเริ่มมีแรงขายทำกำไรมากขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวรุนแรง อีกทั้งอัตราการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศ(GDP)ไตรมาส 1/2552 มีแนวโน้มติดลบ  


 “แม้ปัจจัยเศรษฐกิจจะกดดันให้ราคาหุ้นแบงก์ปรับลดลง  แต่คาดว่าราคาหุ้นจะไม่ปรับตัวลดลงมากเพราะที่ผ่านมาราคาหุ้นลดลงมากแล้ว แต่นักลงทุนควรมีความระมัดระวังลงทุนช่วงตลาดหุ้นผันผวนด้วย” นายวรวัฒน์  กล่าว


 นักเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า หุ้นกลุ่มธนาคารยังอ่อนตัวกว่าตลาด  ทั้งนี้ระยะสั้นอาจปรับลดลงบ้างแต่ไม่มาก  คาดดัชนีที่แนวรับ 140 จุด แนวต้าน 152 จุด  ส่วนSCBยังแกว่งในกรอบแคบ แต่เริ่มเห็นสัญญาณรีบาวนด์ระยะสั้น ให้แนวรับ 47 บาท และแนวต้าน 52 บาท
 SCB(24 ธ.ค.)ปิดที่  48.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 388.15 ล้านบาท

เข้าชม: 1,058

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com