May 21, 2024   2:15:16 AM ICT
ถึงรอบสอยหุ้นกลุ่มพลังงาน ชู BANPUเด่นสุด
?BANPU จะเป็นหุ้นเพียงตัวเดียวในกลุ่มพลังงาน ที่จะสามารถรายงานการขยายตัวของกำไรที่ 12.8% YoY เป็น 11.1 พันล้านบาทในปี 2552 นอกจากนี้ เกือบครึ่งของกำไรของบริษัทฯ ยังค่อนข้างมีเสถียรภาพ เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับส่วนแบ่งจากธุรกิจผลิตไฟฟ้าผ่านส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้า BLCP ?

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) ประเมินจากการประมาณการของรัฐบาลออสเตรเลียล่าสุดในเดือน ธ.ค. 2551 เป็นที่คาดว่าปริมาณการค้าถ่านหินทางเรือในปี 2552 จะเพิ่มขึ้น 3.2% YoY ไม่แตกต่างจากประมาณการเดิมในเดือน ก.ย. แสดงให้เห็นถึงความต้องการใช้ที่ยังคงอยู่ในระดับสูงแม้ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจจะอ่อนแอลง โดยคาดว่าประเทศนำเข้าหลักทั้งหมดจะมีความต้องการสำหรับถ่านหินเพื่อให้ความร้อน (Thermal coal) ขยายตัวเพิ่มขึ้น ยกเว้นประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นผลมาจากการกลับมาดำเนินงานของโรงงานผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานนิวเคลียร์หลังการซ่อมบำรุง สำหรับประเทศจีน เกาหลี และอินเดียจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นระหว่าง 6.7-14.7% ในปี 2552 ประเมินว่าตลาดถ่านหินยังคงมีความตึงตัว เนื่องจากความต้องการที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งถือว่ามีความสำคัญสูงสุดสำหรับสถานการณ์ตลาดในปัจจุบัน และเป็นปัจจัยที่ดีที่สนับสนุนราคาอีกด้วย


 อย่างไรก็ดี ความต้องการใช้ถ่านหินที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงจะถูกชดเชยจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงเช่นกัน จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติของประเทศจีน   การผลิตถ่านหินในประเทศจีนได้เพิ่มขึ้นอัตราที่ลดลง   สถานการณ์ดังกล่าวจะทอนการส่งออก แต่สนับสนุนการนำเข้า นอกจากนี้ สภาวะคอขวดในด้านสาธารณูปโภคที่ยืดเยื้อ การปิดเหมืองถ่านหินขนาดเล็ก และอัตราค่าระวางของโลกที่ตกต่ำ ล้วนแล้วแต่สนับสนุนการนำเข้าสู่ประเทศจีนให้เพิ่มสูงขึ้นในปี 2552 อีกด้วย ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะมีส่วนผลักดันให้ตลาดถ่านหินยังคงความตึงตัวยู่ต่อไปได้


* การนำเข้าถ่านหินของประเทศจีนเริ่มฟื้นตัว


 อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าความต้องการถ่านหินที่ตกต่ำในประเทศจีนจากสภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจะถูกชดเชยจากกำลังการผลิตถ่านหินที่ลดลง โดยประเทศจีนมีการนำเข้าลดลงในปี 2551 เนื่องจากราคาถ่านหินที่ปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงในครึ่งแรกของปี 2551 รวมถึงการห้ามนำเข้าถ่านหินบางส่วนจากประเทศเวียดนามสู่ประเทศจีน และสภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แน่นอนว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนจะลดลง ทำให้คาดว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่จะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง  รวมถึงความต้องการถ่านหินให้ความร้อนคาดว่าจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากถูกใช้เป็นแหล่งเชื้อเพลิงหลักในการผลิตกระแสไฟฟ้า (78.7% ของกำลังการผลิตรวมในรอบ 10 เดือนแรกของปี 2551)


* ราคาถ่านหินปรับลดลงน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับราคาน้ำมัน


 ถ่านหินเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่แตกต่างจากสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ปัจจัยพื้นฐานของตลาดถ่านหินได้รับการสนับสนุนจากการเป็นเชื้อเพลิงหลักที่ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าซึ่งเป็นสาธารณูปโภคทำให้ความต้องการใช้ถ่านหินถูกปรับลดลงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับสินค้าโภคภัณฑ์อื่น นอกจากนั้นความต้องการที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นจากแผนการขยายโรงผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานถ่านหินขนาดใหญ่จากประเทศในทวีปเอเชีย จากราคาที่ต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเชื้อเพลิงประเภทอื่น แม้ว่าราคาถ่านหิน BJI จะปรับตัวลดลง 57.1% แต่ยังคงแข็งแกร่งกว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงรุนแรงยิ่งกว่า เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความต้องการใช้ถ่านหินที่ยังคงแข็งแกร่งกว่า  เชื่อว่าถ่านหินเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีลักษณะ Defensive ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน


* ประเทศอินเดียจะมีบทบาทเพิ่มมากขึ้นในตลาดถ่านหิน


 แม้ว่าจะมีปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ประเทศอินเดียคาดว่าจะยังคงนำเข้าถ่านหินเพื่อให้ความร้อนมากขึ้นในปี 2552 จากสภาวะขาดแคลนถ่านหินอย่างรุนแรง โดยมีถ่านหินคงคลังเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นระยะเวลาน้อยกว่า 7 วันในบางภูมิภาค ทำให้ IEA คาดว่าการนำเข้าถ่านหินของประเทศอินเดียจะเพิ่มขึ้นในอัตรา 7% ต่อปีเป็น 220 ล้านตันภายในปี 2573 ในระยะยาว เชื่อว่าประเทศอินเดียมีความเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำเข้าถ่านหินสำคัญ ซึ่งจะทำให้ตลาดถ่านหินตึงตัวมากยิ่งขึ้น


* คงแนะนำ ?ซื้อž BANPU โดยมีราคาเป้าหมายที่ 286 บาท


 ปัจจัยดังกล่าวทำให้ คาดว่าผู้ผลิตถ่านหินจะยังคงมีความน่าสนใจ จากปัจจัยพื้นฐานที่ยังคงได้รับการสนับสนุนจากการเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ตลาดยังคงมีความตึงตัว แม้ว่าราคาถ่านหินจะปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงเหลือ US$79.7 ต่อตันในปัจจุบัน  เชื่อว่า BANPU จะยังคงรายงานกำไรขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปี 2552 เนื่องจากเกือบ 50% ของเป้ากำลังการผลิตมีสัญญาล่วงหน้าที่ราคาสูงกว่า 70.0 เหรียญต่อตัน อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการไม่ประมาท  ปรับลดราคาขายเฉลี่ยในปี 2552 ลงเล็กน้อยประมาณ 5.7% เหลือ US$68.0 ต่อตันจาก US$69.6 ต่อตันในปี 2551 ราคาขายที่ลดลงจะได้รับการชดเชยจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่ากำลังการผลิตในปี 2552 จะเพิ่ม 10.8% YoY เป็น 20.5 ล้านตัน ซึ่งคาดว่า BANPU จะเป็นหุ้นเพียงตัวเดียวในกลุ่มพลังงาน ที่จะสามารถรายงานการขยายตัวของกำไรที่ 12.8% YoY เป็น 11.1 พันล้านบาทในปี 2552 นอกจากนี้ เกือบครึ่งของกำไรของบริษัทฯ ยังค่อนข้างมีเสถียรภาพ เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับส่วนแบ่งจากธุรกิจผลิตไฟฟ้าผ่านส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้า BLCP คงแนะนำ ?ซื้อž โดยมีราคาเป้าหมายที่ 286 บาท

เข้าชม: 984

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com