ทันหุ้น- KSL ไม่หวั่น “มาร์ค” เมินต่ออายุมาตรการลดภาษีแก๊สโซฮอลล์ ด้านผู้บริหาร “ชลัช ชินธรรมมิตร์” ยันความต้องการใช้ในประเทศเต็มเปี่ยม ชี้ส่วนต่างราคาขายแก๊สโซฮอลล์กับน้ำมันเบนซินยังกว้างจูงได้ผู้บริโภคในภาวะเศรษฐกิจซบ เล็งเพิ่มสัดส่วนขายในประเทศเพิ่มเป็น 80% จากเดิมที่ 50% พร้อมปั้นรายได้ปีนี้โตเพิ่มอีก 5-10% จากปีก่อน โบรกส่องกล้องภาพรวมปี 2552 ยังแจ๋ว ระบุโรงงานน้ำตาลในลาว-กัมพูชาหนุนเต็มสูบ แนะ “ซื้อลงทุน” เคาะราคาที่ 9.80 บาท

     กรณีที่นายกสมาคมการค้าผู้ผลิตเอทานอลไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มการใช้แก๊สโซฮอลล์อาจชะลอตัวหลังรัฐบาลไม่ต่ออายุลดภาษีแก๊สโซฮอลล์ และอาจเกิดปัญหาราคาตกต่ำ โดยล่าสุดราคาเอทานอลไตรมาส 1/2552 ลดลงมาอยู่ที่ลิตรละ 17.18 บาท จากปลายปีก่อนที่ 22.00 บาท ซึ่งภาครัฐควรเร่งหามาตรการส่งเสริมก่อนราคาตกต่ำมากกว่านี้

 นายชลัช ชินธรรมมมิตร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายพัฒนาธุรกิจ บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) KSL เปิดเผยว่า ปี 2552 ยังเชื่อมั่นว่าแนวโน้มความต้องการใช้แก๊สโซฮอลล์ในประเทศน่าจะยังอยู่ในระดับสูง แม้ว่ารัฐบาลจะไม่มีการต่ออายุลดภาษีแก๊สโซฮอลล์ ซึ่งกำลังจะหมดอายุลงช่วงปลายเดือนมกราคมนี้ เนื่องจากมองว่า ส่วนต่างระหว่างราคาขายแก๊สโซฮอลล์ กับน้ำมันเบนซินที่ประมาณ 3-4 บาท ในขณะนี้น่าจะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคในภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้เป็นอย่างดี

 นอกจากนี้ มองว่า มาตรการลดภาษีแก๊สโซฮอลล์ถือเป็นปัจจัยเสริมสำคัญที่ช่วยกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการได้ในระดับสูง เนื่องจากที่ผ่านมามีปัจจัยเสี่ยงจากต้นทุนการผลิตที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งเคยส่งผลกระทบต่อปริมาณและแนวโน้มในการเติบโตของอุตสาหกรรมในช่วงก่อน ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้ภาครัฐเร่งหามาตรการต่าง ๆ ออกมาผลักดันและสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมแก๊สโซฮอลล์ เพื่อช่วยบรรเทาภาระของกลุ่มผู้ประกอบการและกลุ่มผู้บริโภคในภาวะเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในช่วงขาลง

 “ส่วนต่างระหว่างราคาขายน้ำมันเบนซินกับแก๊สโซฮอลล์แม้ว่าจะไม่มีการต่ออายุภาษีแก๊สโซฮอลล์ ก็ยังค่อนข้างกว้างอยู่ดี รวมถึงมองว่าแม้ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะเริ่มหันไปให้ความสนใจใช้น้ำมันเบนซินมากขึ้น แต่ปัญหาที่ตามมานั่นคือสถานีบริการที่อาจมีไม่เพียงพอ เนื่องจากถูกทดแทนด้วยสถานีบริการแก๊สโซฮอลล์ ซึ่งปัญหารดังกล่าวเคยเกิดมาแล้วเมื่อครั้งภาครัฐพยายามผลักดันให้ใช้พลังงานทดแทนในช่วงที่ราคาน้ำมันแพง” นายชลัช กล่าว

 อย่างไรก็ดีในปีนี้บริษัทจะมีการปรับสัดส่วนการจำหน่ายเอทานอลในประเทศมากขึ้นเป็น 80% จากสัดส่วนเดิมที่เน้นขายในประเทศประมาณ 50% และส่งออกอีก 50% เนื่องจากแนวโน้มความต้องการใช้ในประเทศที่เริ่มมีการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงส่วนต่างระหว่างราคาขายน้ำมันเบนซินกับแก๊สโซฮอลล์ที่ค่อนข้างกว้าง และนโยบายที่ภาครัฐรณรงค์ให้ใช้พลังงานทดแทนหลังราคาน้ำมันปรับตัวอยู่ในระดับสูงในช่วยที่ผ่านมา  นายชลัช กล่าวอีกว่า ในงวดปีบัญชี 2551/2552 (ก.ย.2551-ต.ค.2552) บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 5-10% เนื่องจากแนวโน้มความต้องการใช้แก๊สโซฮอลล์ที่ยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงความต้องการในการบริโภคน้ำตาลทรายทั้งในและต่างประเทศที่ยังขยายตัวได้เป็นอย่างดีน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ให้เติบโตได้อย่างโดดเด่น

 นอกจากนี้ การอ่อนค่าลงของเงินบาท รวมถึงแนวโน้มค่าไฟฟ้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทจะได้ประโยชน์จากโรงไฟฟ้าที่เป็นบริษัทย่อย โดยเชื่อว่าจากปัจจัยเสริมดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนประสิทธิภาพและการเติบโตของบริษัทได้เป็นอย่างดี

 บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อลงทุน” ที่ราคาเหมาะสม 9.80 บาท โดยแนวโน้มปี 2551/2552 คาดว่าปริมาณน้ำตาลในตลาดโลกจะขาดแคลน เนื่องจากอินเดียมีปริมาณน้ำตาลลดลง ขณะที่ปริมาณผลผลิตอ้อยในประเทศจะทรงตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยในช่วงต้นปีโรงงานน้ำในเครือ KSL มีปริมาณอ้อยเข้าหีบแล้วประมาณ 907,000 ตัน หรือ 6% จากปริมาณอ้อยเข้าหีบรวม 15 ล้านตัน 

     ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่า KSL จะมีปริมาณอ้อยเข้าหีบงวดฤดู 2551-2552 ที่ 5.9 ล้านตัน รวมถึงคาดหมายว่าโครงการโรงงานน้ำตาลในลาวและกัมพูชาจะสามารถเริ่มผลิตได้ราวเดือนกุมภาพันธ์นี้ ดังนั้นฝ่ายวิจัยจึงประมาณการณ์กำไรสุทธิงวดปีบัญชี 2551/2552 (ก.ย. 2551-ต.ค.2552) เป็น 1,069 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.3% จากปีก่อน

 KSL (9 ม.ค.) ปิดตลาดที่ 6.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ 0.79% มูลค่าการซื้อขาย 3.18 ล้านบาท