ทันหุ้น-สัปดาห์นี้ลุ้นดัชนี 450-490 จุด จับตารัฐเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และธปท.หั่นดอกเบี้ยอาร์/พีอีก 0.75% เหลือ 2% พ่วงเปิดซองราคาสัญญาที่ 1 สายสีม่วง โบรกแนะเลือกหุ้นรับอานิสงส์จากมาตรการรัฐ และอ่อนไหวต่อดอกเบี้ย ทั้งกลุ่มรับเหมา,วัสดุก่อสร้าง,รับสร้างบ้านและแบงก์ คัดหุ้นดาวเด่น STEC-CK-SCC-TSTH-LH-QH-SCB และ BBL
บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ซีมิโก้ จำกัด(มหาชน)ระบุว่า การที่ตลาดหลักทรัพย์ฯสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางตลาดหุ้นเพื่อนบ้านขึ้นมาปิดบวกได้เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา คาดว่าจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดหันกลับมาให้น้ำหนักกับปัจจัยในประเทศ ซึ่งยังมีข่าวบวกต่อเนื่องในสัปดาห์หน้า ไม่ว่าจะเป็นการเสนอรายละเอียดแผนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี คาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบ 450-490 จุด
นอกจากนี้แนวโน้มที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยอาร์/พี 1 วันจะปรับลดลงอีก 0.75%เหลือ 2% มากว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 0.50% รวมทั้งการเปิดซองราคาสัญญาที่ 1 โครงการรถไฟฟ้าสีม่วง มีนัยการเดินหน้าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ จึงคาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบ 450-490 จุด ในลักษณะแกว่งตัวขึ้น
โดยเน้นการลงทุนในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ และกลุ่มที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เช่น STEC, CK กลุ่มวัสดุก่อสร้าง SCC ,TSTH กลุ่มรับสร้างบ้าน LH ,QH และกลุ่มธนาคารSCB,BBL
ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้า(13 ม.ค.)การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย จะเปิดซองราคาสัญญาที่ 1 ของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง(บางซื่อ-บางใหญ่) และอีก 2 สัญญาที่เหลือในเดือนก.พ. ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างปรับขึ้นคึกคักอีกครั้งเพราะผู้รับเหมารายใหญ่ล้วนผ่านการพิจารณาทางด้านเทคนิคทั้ง 3 สัญญา
การเดินหน้าลงทุนขนาดใหญ่ ผนวกกับแรงกดดันต้นทุนที่ผ่อนคลายลงตามการอ่อนตัวของราคาน้ำมันจะช่วยปลุกกระแสการเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดยเฉพาะผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวน้อยกว่าผู้รับเหมาขนาดเล็กในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ ITD และSTEC ถูกสกัดดาวรุ่งเข้าเกณฑ์ต้องซื้อขายหุ้นเป็นเงินสด ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 9 มกราคม 2552
ในเชิงปัจจัยพื้นฐานหุ้นที่ฝ่ายวิจัยแนะนำ ได้แก่ STEC ให้แนวต้าน 2.80 บาทมากที่สุดเพราะความสามารถในการทำกำไรที่มีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจนเมื่อเทียบกับรายอื่น ขณะที่CK ประเมินแนวต้าน 5.00 บาท และITD แนวต้าน 4.90 บาท แนะนำเพียงแค่”เก็งกำไร”เพราะระยะสั้นมีแรงกดดันเรื่องผลการดำเนินงาน
SCB(9 ม.ค.) ปิดที่ 53.00 ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 469.88 ล้านบาท และ STECปิดที่ 2.88 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท หรือ 2.86% มูลค่าซื้อขาย 42.44 ล้านบาท
|