May 21, 2024   3:47:02 AM ICT
ดักทางรับเหมา-อสังหา-แบงก์ ขานรับมาตรการรัฐ-ดอกเบี้ย

ทันหุ้น-สัปดาห์นี้ลุ้นดัชนี 450-490 จุด จับตารัฐเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ   และธปท.หั่นดอกเบี้ยอาร์/พีอีก 0.75% เหลือ 2%  พ่วงเปิดซองราคาสัญญาที่ 1 สายสีม่วง  โบรกแนะเลือกหุ้นรับอานิสงส์จากมาตรการรัฐ และอ่อนไหวต่อดอกเบี้ย  ทั้งกลุ่มรับเหมา,วัสดุก่อสร้าง,รับสร้างบ้านและแบงก์   คัดหุ้นดาวเด่น  STEC-CK-SCC-TSTH-LH-QH-SCB และ BBL


 บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ซีมิโก้ จำกัด(มหาชน)ระบุว่า   การที่ตลาดหลักทรัพย์ฯสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางตลาดหุ้นเพื่อนบ้านขึ้นมาปิดบวกได้เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา  คาดว่าจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดหันกลับมาให้น้ำหนักกับปัจจัยในประเทศ  ซึ่งยังมีข่าวบวกต่อเนื่องในสัปดาห์หน้า  ไม่ว่าจะเป็นการเสนอรายละเอียดแผนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี คาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบ 450-490 จุด


 นอกจากนี้แนวโน้มที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง   ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยอาร์/พี 1 วันจะปรับลดลงอีก 0.75%เหลือ 2% มากว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 0.50% รวมทั้งการเปิดซองราคาสัญญาที่ 1 โครงการรถไฟฟ้าสีม่วง มีนัยการเดินหน้าโครงการลงทุนขนาดใหญ่  จึงคาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบ 450-490 จุด ในลักษณะแกว่งตัวขึ้น 


     โดยเน้นการลงทุนในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ  และกลุ่มที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย  โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เช่น STEC, CK  กลุ่มวัสดุก่อสร้าง SCC ,TSTH กลุ่มรับสร้างบ้าน LH ,QH และกลุ่มธนาคารSCB,BBL


     ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้า(13 ม.ค.)การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย  จะเปิดซองราคาสัญญาที่ 1 ของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง(บางซื่อ-บางใหญ่) และอีก 2 สัญญาที่เหลือในเดือนก.พ. ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างปรับขึ้นคึกคักอีกครั้งเพราะผู้รับเหมารายใหญ่ล้วนผ่านการพิจารณาทางด้านเทคนิคทั้ง 3 สัญญา


     การเดินหน้าลงทุนขนาดใหญ่  ผนวกกับแรงกดดันต้นทุนที่ผ่อนคลายลงตามการอ่อนตัวของราคาน้ำมันจะช่วยปลุกกระแสการเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง   โดยเฉพาะผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่  ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวน้อยกว่าผู้รับเหมาขนาดเล็กในช่วงที่ผ่านมา  ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ ITD และSTEC ถูกสกัดดาวรุ่งเข้าเกณฑ์ต้องซื้อขายหุ้นเป็นเงินสด ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 9 มกราคม 2552


     ในเชิงปัจจัยพื้นฐานหุ้นที่ฝ่ายวิจัยแนะนำ ได้แก่ STEC  ให้แนวต้าน 2.80 บาทมากที่สุดเพราะความสามารถในการทำกำไรที่มีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจนเมื่อเทียบกับรายอื่น  ขณะที่CK ประเมินแนวต้าน 5.00 บาท และITD แนวต้าน 4.90 บาท แนะนำเพียงแค่”เก็งกำไร”เพราะระยะสั้นมีแรงกดดันเรื่องผลการดำเนินงาน


      SCB(9 ม.ค.) ปิดที่ 53.00 ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 469.88 ล้านบาท และ STECปิดที่ 2.88 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท หรือ 2.86% มูลค่าซื้อขาย 42.44 ล้านบาท

เข้าชม: 1,014

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com