ทันหุ้น- กลุ่มขนส่งทางอากาศส่อแววเดี้ยงหนัก โบรกประเมินยาหอมมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐยังแรงไม่พอกลบความวิตกกังวลจากแนวโน้มผลงานปี 2551ทรุดฮวบ ชี้ผลกระทบจากการปิดสนามบินฉุดผลงานยาว ฟันธง THAI ปีที่แล้วขาดทุนอ่วมกว่า 1 หมื่นล้านบาท กระทบจิตวิทยาการลงทุน แนะ “ขาย” ที่แนวรับ 7.00-6.70 บาท ส่วน AOT รอดตัวหวุดหวิด ได้ดีรายได้เสริมจากการให้เช่าพื้นที่ แนะ “เก็งกำไรระยะสั้น” ที่แนวรับ 18.00 บาท แนวต้าน 19.50 บาท

     จากกรณีที่นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่ารัฐบาลจะให้การสนับสนุนกับกลุ่มผุ้ประกอบการในภาคขนส่งทางอากาศให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ โดยมาตรการระยะสั้นจะมีการช่วยเหลือโดยการลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการ อาทิ ลดค่าธรรมเนียมการบิน, Landing Free หรือค่าธรรมเนียมต่าง ๆ

     ขณะที่แผนระยะยาวภาครัฐจะดูกฎระเบียบเพียงปรับปรุงและสนับสนุนให้กับสายการิบน ซึ่งส่วนใหญ่ผู้เกี่ยวข้องมีความกังวลเรื่องการปิดสนามบินที่ต้องการให้ภาครัฐออกมาตรการสำรองกรณีมีการปิดสนามบิน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสนามบิน

     นอกจากนี้ได้มีการสั่งให้ผู้บริหาร THAI จัดทำรายละเอียดแนวทางการลดรายจ่ายและการเพิ่มรายได้เพื่อเสนอในการประชุมเชิงปฏิบัติการของคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาเครือข่ายการขนส่งทางอากาศเพื่อให้ประเทศเป็นศูนย์กลางการบินพลเรือน

     ด้าน พล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์ สังขพงษ์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) THAL กล่าวว่า เบื้องต้นเห็นว่ารายจ่ายที่สามารถปรับลดได้และไม่กระทบต่อการหารายได้ขององค์กร คือ รายจ่ายด้านการบริจาคและการเป็นผู้สนับสนุน (สปอนเซอร์) ในโครงการต่าง ๆ โดยการลดรายจ่ายส่วนดังกล่าวบริษัทสามารถดำเนินการได้ทันที ขณะที่แนวทางการเพิ่มรายได้ เช่น การยกเลิกช่องทางการขายตั๋วโดยสารผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ทำยอดได้ไม่มากนัก โดยบริษัทจะทำหน้าที่ขายตั๋วโดยตรงผ่านช่องทางที่มีอยู่

 นายวีระชัย ครองสามสี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีส จำกัด กล่าวว่า จากปัจจัยเสริมเกี่ยวกับมาตรการในการกระตุ้นและฟื้นฟูธุรกิจการขนส่งทางอากาศนั้น มองว่า ระยะสั้นน่าจะช่วยสนับสนุนในแง่จิตวิทยาการลงทุนได้บ้าง แต่ก็ไม่สามารถชดเชยความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4/2551 ของ AOT และ THAI ที่เชื่อว่าจะชะลอตัวลดลงอย่างหนัก

 “ เบื้องต้นยังเชื่อว่าแม้จะมีมาตรการเร่งด่วนออกมาสนับสนุนและผลักดันธุรกิจการขนส่งทางอากาศจากภาครัฐ ก็เชื่อว่าราคาหุ้นจะยังไม่สะท้อนออกมาในเชิงบวกอย่างแน่นอน เนื่องจากนักลงทุนยังคงให้ความสนใจเกี่ยวกับตัวเลขผลประกอบการเป็นหลัก” นายวีระชัย กล่าว

 นายวีระชัยกล่าวว่า ในส่วนของมาตรการระยะสั้นจากภาครัฐที่จะมีการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มผู้ประกอบการในธุรกิจขนส่งทางอากาศนั้น คงต้องใช้ระยะเวลาในการเยียวยาและฟื้นฟูค่อนข้างนาน เนื่องจากที่ผ่านมากลุ่มขนส่งทางอากาศได้รับผลกระทบอย่างหนักจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลการดำเนินงานในปี 2551 และจากความวิตกกังวลและการขาดความเชื่อมั่นของกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติทำให้เกิดการชะลอการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย

 นอกจากนี้แม้ว่าราคาเชื้อเพลิงและค่าภาษีต่าง ๆ จะปรับตัวลดลง แต่ก็ไม่ได้เป็นปัจจัยบวกที่ช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของผู้ประกอบการในกลุ่มขนส่งได้มากนัก โดยเฉพาะ THAI ที่คาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2551 จะขาดทุนเพิ่มขึ้นกว่าไตรมาส 3/2551 ที่มีผลขาดทุนสุทธิประมาณ 9,000 ล้านบาท โดยทั้งปีคาดว่า THAI จะมีผลขาดทุนสุทธิไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท

 ขณะที่ AOT อาจจะได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อยจากปัญหาการปิดล้อมสนามบินในช่วงปลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทยังมีรายได้เสริมจากการเปิดให้บริการเช่าพื้นที่ในสนามบินสุวรรณภูมิเข้ามาเป็นปัจจัยเสริม ทำให้แนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ของ AOT น่าจะดูดีกว่า THAI

 สำหรับกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นกลุ่มขนส่งทางอากาศ ช่วงสั้น ๆ มองว่า แนวโน้มราคาน่าจะยังคงปรับตัวลดลงได้อีก โดยเฉพาะหุ้น THAI จากความวิตกกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการในปีนี้ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนหุ้น THAI แนะนำ “ขาย” โดยประเมินแนวรับที่ 7.00-6.70 บาท แนวต้านที่ 7.60 บาท ส่วนหุ้น AOT แนะนำ “เก็งกำไรระยะสั้น” จากแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ไม่น่าจะปรับตัวลดลงมากนัก โดยประเมินแนวรับที่ 18.00 บาท แนวต้านที่ 19.50 บาท

 THAI (12 ม.ค.) ปิดตลาดที่ 7.15 บาท ลดลง 0.15 บาท หรือ 2.05% มูลค่าการซื้อขาย 7.39 บาท ส่วน AOT (12 ม.ค.) ปิดตลาดที่ 18.80 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ 0.53% มูลค่าการซื้อขาย 18.08 ล้านบาท