ทันหุ้น- สำรวจงบแบงก์ไตรมาส 4/2551 โบรกคาดกำไรหดเหลือ 1.58 หมื่นล้านบาท ทรุดจากไตรมาส 3/2551 เกือบ 24% เพราะส่วนต่างดอกเบี้ยหด แห้วปันผลวายุภักษ์ แต่เทียบช่วงปีก่อนทั้งกลุ่มพลิกทำกำไร คาดBBLควงคู่BAYกำไรโตสุด ส่วนKTBกำไรโตจากปีก่อน 160%หลังแบกสำรองลดลง แต่ยกSCBเด่นสุดในกลุ่ม โชว์ผลงานสวยต่อเนื่อง และคุมค่าใช้จ่ายดีกว่า
บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) ให้น้ำหนักลงทุนกลุ่มธนาคาร: "เท่ากับตลาด" โดยให้ SCB เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม ให้ราคาเหมาะสม 65.20 บาท ซึ่งธนาคารขนาดใหญ่ 7 แห่งที่ศึกษาจะมีกำไรสุทธิรวม 15.8 พันล้านบาท ลดลง 23.9%จากไตรมาสก่อน แต่พลิกเป็นกำไรจากที่เคยขาดทุนจากช่วงเดียวกันปีก่อนเกิดจาก 1.ค่าใช้จ่ายสำรองลดลงรวดเร็ว โดยเฉพาะ TMB 2.ส่วนต่างดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 3.สินเชื่อขยายตัวดีครึ่งปีแรก2551 โดยเฉพาะสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้น และ4.รายรับที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นสูง
ขณะที่ผลประกอบการลดลง 23.9%จากไตรมาสก่อนเพราะจากส่วนต่างดอกเบี้ยที่ลดลงเนื่องจากไม่มีเงินปันผลจากกองทุนวายุภักษ์และผลกระทบจากการลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อต้นเดือน ธ.ค. 2551 และการขยายตัวของสินเชื่อที่ชะลอตัวลงมาก รวมทั้งค่าใช้จ่ายสำรองเพิ่มกว่า 63%จากช่วงเดียวกันปีก่อน
โดยคาดว่า SCB และ BAY จะมีกำไรจากการดำเนินงานขยายตัวดีจากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่SCBจะมีผลประกอบการที่แน่นอนกว่าเนื่องจากการขยายตัวเกิดจากการดำเนินงานมากกว่าการควบรวมกิจการ ซึ่งแตกต่างจาก BAY อีกทั้งไตรมาส 4/2551 คาดว่าจะมีBBL และ BAY ที่จะมีกำไรสุทธิขยายตัวทั้งจากช่วงเดียวกันปีก่อน และไตรมาสเดียวกันปีก่อน ขณะที่ KBANK จะเป็นธนาคารเดียวที่มีกำไรลดลงจากไตรมาสก่อน และจากช่วงปีก่อนเนื่องจากค่าใช้จ่ายการดำเนินงานเพิ่มขึ้น ในขณะที่ส่วนต่างดอกเบี้ยลดลง
BAY คาดจะมีกำไรไตรมาส 4/2551 สูงถึง 1.1 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17.4%จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ 9.9%จากไตรมาสก่อน ซึ่งสาเหตุเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนเพราะส่วนต่างดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น รายรับค่าธรรมเนียมสูง และสินเชื่อขยายตัวดีกว่า 22.5%จากช่วงเดียวกันปีก่อนเพราะการซื้อกิจการ GECAL
BBLคาดว่าจะมีกำไรไตรมาส 4/2551 สูงถึง 4.8 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ 11.5%จากไตรมาสก่อน แม้คาดว่าค่าใช้จ่ายสำรองจะเพิ่มขึ้น แต่สินเชื่อขยายตัวประมาณ 12.7%จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนต่างดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และผลขาดทุนจากการลงทุนที่ลดลง
KTB คาดจะมีกำไรไตรมาส 4/2551 อยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท ลดลง 71.3%จากไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น 160%จากช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลงจากไตรมาสก่อนเพราะค่าใช้จ่ายสำรองที่เพิ่มขึ้น ส่วนต่างดอกเบี้ยลดลงเนื่องจากไม่มีเงินปันผลจากกองทุนวายุภักษ์ และผลกระทบจากการลดดอกเบี้ย
KBANK คาดกำไรไตรมาส 4/2551 เพียง 2.8 พันล้านบาท ลดลง 23.3%จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ 27.5%จากไตรมาสก่อนเพราะส่วนต่างดอกเบี้ยลดลงและค่าใช้จ่ายเพิ่มจากโครงการ K-Transformation การขยายช่องทางการจัดจำหน่าย และค่าใช้จ่ายการตลาด
SCBคาดกำไรไตรมาส 4/2551 อยู่ที่ 4.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.9%จากช่วงเดียวกันปีก่อน ธนาคารยังรักษาส่วนต่างดอกเบี้ย รายรับที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่ขยายตัวดี และการบริหารค่าใช้จ่ายดี แต่กำไรลดลงจากไตรมาสก่อน3.4%จากส่วนต่างดอกเบี้ยที่ลดลง เนื่องจากไม่มีเงินปันผลกองทุนวายุภักษ์ ได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อต้นเดือนธ.ค. และค่าใช้จ่ายดำเนินงานเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล
ส่วนSCIBคาดไตรมาส 4/2551 มีกำไรสุทธิ 833 ล้านบาท ลดลง 36.7%จากไตรมาสก่อน และ 39.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ด้านTMBคาดว่าจะมีกำไรไตรมาส 4/2551 อยู่ที่ 542 ล้านบาท ลดลง 67.4% จากการบันทึกค่าใช้จ่ายสำรองประมาณ 850 ล้านบาทหลังจากที่มีการตั้งกลับ 414 ล้านบาทในไตรมาส 3/2551 โดยให้ SCB เป็นหุ้นเด่น
|