ทันหุ้น-  โบรกประสานกำลังส่องทางดัชนีวันนี้ยังต้องพึ่งพิงปัจจัยภายนอกและภายใน เจาะกลยุทธ์ลงทุนกลุ่มรับเหมาสัญญาณเด่น ผลประกอบการดีดตัวแรง ลุ้นรับงานรถไฟฟ้า คาดครึ่งปีหลังไปได้สวยหลังได้เงินอัดฉีดจากภาครัฐ เชียร์ CK น่าลงทุน มีสัมปทานในมือเพียบ มาร์จิ้นพุ่ง กระแสเงินสดเต็มหน้าตัก มองราคาเป้าหมาย 4.50 บาท

 ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นวานนี้  (27 ม.ค.2552 ) ปิดที่ 444.79 จุด เพิ่มขึ้น 8.06 จุด เปลี่ยนแปลง 1.85% โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 444.79 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 438.96 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวมสุทธิ 7,361.82 ล้านบาท

 นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์  กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาวะตลาดหุ้นวานนี้มีแรงซื้อกลับเข้ามาหลังภาวะตลาดหุ้นญี่ปุ่นและดาวโจนส์ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยได้รับอานิสงส์และมีแรงเก็งกำไรเกิดขึ้นส่งผลให้ดัชนีสามารถยืนอยู่ในแดนบวก ประกอบกับการประกาศมาตรการเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ในสหรัฐอเมริกาซึ่งหนุนจิตวิทยาลงทุนได้เป็นอย่างดี 

  นอกจากนี้ยังเกิดความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่จะมีการประชุมในวันที่ 28 ม.ค.นี้ แม้จะไม่สามารถลดดอกเบี้ยลงได้ แต่ยังมีแนวโน้มว่าจะหาทางช่วยให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งสินเชื่อได้ง่ายขึ้น

     สำหรับทิศทางตลาดในวันนี้ยังคงให้ติดตามปัจจัยในต่างประเทศ และในประเทศอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/2551 ของบริษัทจดทะเบียน อาทิ บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) SCC ที่คาดว่าจะขาดทุน 2 พันล้านบาท

 นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า ภาพโดยรวมของกลุ่มรับเหมาก่อสร้างมองว่าหลายคนเริ่มคลายความกังวลเรื่องของผลการดำเนินงานของกลุ่มนี้ไปพอสมควร ซึ่งมีผลประกอบการดีกว่าปีที่ผ่านมา จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง อีกทั้งงานที่มีอยู่ในมือ (Back log) ในช่วงที่ต้นทุนสูงค่อยๆ ทยอยหมดไป ส่งผลให้งานเก่าที่ได้กำไรต่ำหมดตามไปด้วย

 ทั้งนี้หากได้งานใหม่เข้ามาจึงเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นเนื่องจากผลกำไรของกลุ่มปรับตัวดีขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการต่างลุ้นรับงานรถไฟฟ้าสายสีส้ม จึงเป็นปัจจัยในเชิงบวกระยะสั้นๆ

  อย่างไรก็ดีมุมมองในช่วงครึ่งปีแรกอาจจะยังไม่สวยหรูมากนัก จึงต้องติดตามในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากคาดว่าภาครัฐจะเริ่มมีเม็ดเงินอัดฉีดเข้าไปในระบบ ทำให้ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างได้รับอนิสงส์ในครั้งนี้ โดยคาดว่าจะเริ่มจากผู้รับเหมาขนาดใหญ่อย่าง ITD, CK และ STEC

 “ ที่ผ่านมาในส่วนของ CK ได้รับงานไปแล้วรอสรุปราคาในส่วนที่เหลือ ซึ่งมุมมองของสถาบันวิจัยประเมินว่าน่าจะมีการแบ่งงานให้กับผู้ประกอบการรายอื่นๆ ด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและกระจายรายได้ให้กับผู้รับเหมารายอื่นๆ เพื่อให้งานเสร็จได้ทันตามกำหนด และไม่กระจุกตัวอยู่ที่รายเดียว เพราะจะส่งผลเสียทำให้สภาพคล่องมีอยู่อย่างจำกัด” นักวิเคราะห์กล่าว

  นักวิเคราะห์กล่าวว่า หุ้นเด่น CK เป็นหุ้นที่น่าลงทุน เพราะดูจากงานที่อิงกับงานสัมปทานนั้นมีมาร์จิ้นสูง สามารถจ่ายเงินให้กับบริษัทได้อย่างสม่ำเสมอ สร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นจุดขาย จึงให้ราคาเป้าหมายที่ 4.50 บาท ส่วนตัวอื่นอย่าง STEC แนะนำถือ ให้ราคาเป้าหมาย 3.80 บาท
 “เรามองว่าหุ้น CK เป็นหุ้นที่ปลอดภัยที่สุดในกลุ่มจากผลประกอบการที่ดีอย่างสม่ำเสมอ มีสัมปทานที่ถืออยู่อาทิน้ำประปาไทย ซึ่งสามารถสร้างแคสโฟล์วให้กับบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง” นักวิเคราะห์กล่าว