May 10, 2024   5:20:39 AM ICT
แบงก์บุ๊กปันผลวายุภักษ์Q1 KTBกวาดอื้อ840ล้านบาท

ทันหุ้น-ผลงานแบงก์ไตรมาสแรกปีฉลูมีลุ้นเฉิดฉายกว่าไตรมาส 4/2551  โบรกชี้แบกสำรองน้อยลง  กวาดปันผลวายุภักษ์บุ๊กรายได้ไตรมาส1/2552  ช่วยชดเชยรายได้ดอกเบี้ยหดหาย 0.50%  คาดKTBกวาดปันผลมากสุด 840 ล้าน  SCBรองลงมา 318 ล้าน   ส่วนครึ่งแรกปีนี้ถ้าเศรษฐกิจซบยาว   คาดปันผลครึ่งแรกอาจวูบเหลือหน่วยละ 0.25-0.30 บาท  ฉุดรายได้ไตรมาส 3/2552


 นางสาวอุษณีย์  ลิ่วรัตน์  ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์  บริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจโลกจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย และทำให้ราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯปรับลดลงต่อเนื่อง  แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อกำไรสะสมของกองทุนรวมวายุภักษ์  โดยฝ่ายวิจัยเชื่อว่ากองทุนจะจ่ายปันผลตามปกติปีละ 6% แบ่งเป็นจ่ายครึ่งปีแรก 3% และครึ่งปีหลังอีก 3%


  ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผลของกองทุนวายุภักษ์เชื่อว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์จะได้รับประโยชน์ในส่วนของรายได้ที่จะเข้ามาบันทึกในไตรมาส 1/2551  และรายได้ดังกล่าวจะเข้ามาทดแทนรายได้ดอกเบี้ยที่คาดว่าจะปรับลดลงถึง 0.50% จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ ส่งผลให้รายได้กลุ่มธนาคารที่ซื้อหน่วยลงทุนวายุภักษ์ปรับตัวลดลงไม่มาก


 โดยธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน)KTB  ลงทุนในหน่วยลงทุนกว่า 2.8 หมื่นล้านบาท  คาดว่าจะได้รับเงินปันผลจากกองทุนรวมวายุภักษ์ 840 ล้านบาท ,ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) SCB ลงทุนในหน่วยลงทุน 1.06 หมื่นล้านบาท คาดจะได้รับเงินปันผล 318 ล้านบาท, ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) SCIB ลงทุนจำนวน 5.6 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับเงินปันผล 168 ล้านบาท


 ส่วนธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) BT ลงทุนในหน่วยลงทุน 2 พันล้านบาท คาดจะได้รับเงินปันผล 60 ล้านบาท และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) BAY  ลงทุนในหน่วยลงทุน 1.7 ล้านบาท คาดรับเงินปันผล 5.1 หมื่นบาท


 นางสาวอุษณีย์  กล่าวต่อว่า  สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/2552 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์คาดว่าจะมีกำไรสุทธิเติบโตกว่าไตรมาส 4/2551 เนื่องจากตั้งสำรองหนี้ฯลดลง  แต่ต้องติดตามใกล้ชิดเพราะมีโอกาสที่กลุ่มธนาคารจะตั้งสำรองเพิ่มได้  สำหรับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย(NIM)มีโอกาสปรับลดลงต่อเนื่อง หลังจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และดอกเบี้ยเงินกู้ปรับลดลง


 สำหรับกลยุทธ์การลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารครึ่งปีแรก ให้น้ำหนักลงทุน“น้อยกว่าตลาด” เพราะเชื่อว่าจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว  ขณะที่การกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้าโดยการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ  ซึ่งเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายและกระตุ้นอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ(GDP) ให้ปรับตัวดีขึ้น เชื่อว่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือนถึงจะฟื้นเศรษฐกิจได้  จึงเชื่อว่ากลุ่มธนาคารจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในครึ่งปีหลัง2552 


 นายธนัท รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  จากราคาหุ้นที่ปรับลดลงต่อเนื่องอาจส่งผลกระทบให้กองทุนรวมวายุภักษ์จ่ายปันผลลดลงในครึ่งปีแรก2552 โดยฝ่ายวิจัยคาดว่าอาจจ่ายปันผลในอัตรา 0.25-0.30 บาทต่อหน่วยลงทุน ซึ่งจะบันทึกเป็นรายได้ในไตรมาส 3/2552  โดยธนาคารพาณิชย์ที่มีการลงทุนในหน่วยลงทุนสูง  เช่น KTB  อาจจะกระทบให้รายได้ปรับลดลงมากที่สุด และอาจส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิไตรมาสนั้นๆได้ 


 อย่างไรก็ตาม  ในปี2552ภาวะตลาดผันผวน อาจส่งผลให้รายได้ของกลุ่มธนาคารลดลงต่อเนื่อง เพราะผลตอบแทนจากหน่วยลงทุน ตราสารหนี้  หุ้นกู้ ลดลงต่อเนื่อง รวมทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้อาจส่งผลให้ NIM ปี 2552 อยู่ที่ 3.4% ลดลงจากปี 2551 อยู่ที่ 3.5%  แต่การที่กลุ่มธนาคารมีพื้นฐานและฐานเงินทุนแข็งแกร่ง  จึงให้น้ำหนักลงทุนเท่ากับตลาด

เข้าชม: 1,117

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com