May 10, 2024   8:36:32 AM ICT
ไอเอ็นจีห่วงกองน้ำมันขาดทุน เล็งส่งกองโรงแรมชดเชยQ2

ทันหุ้น-บลจ.ไอเอ็นจีมองราคาน้ำมันปีนี้มีลุ้นปรับเพิ่มขึ้น 50-60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลได้กลางปีนี้ ส่วนกองทุนน้ำมันหมดหวังราคาน้ำมันฟื้นตัวเท่ากับช่วงที่ลงทุนอยู่ที่ระดับ 110 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เชื่อนักลงทุนรับความผิดหวังได้เพราะเป็นกองปิด   เร่งขายกองสังหาโรงแรม มูลค่า 1 หมื่นล้านชดเชยภายในไตรมาส 2/2552


 นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)ไอเอ็นจี(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า  แนวโน้มราคาน้ำมันช่วงนี้ผันผวนสูง และยังไม่สามารถปรับขึ้นไปสูงกว่าระดับ 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลได้เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกถดถอย  อาจส่งผลกระต่อกำลังซื้อ และการใช้น้ำมันของผู้บริโภคลดลง


 อย่างไรก็ตาม  ราคาน้ำมันมีโอกาสปรับขึ้นไปอยู่ที่ 50-60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลได้กลางปี 2552 และคาดว่าสิ้นปีจะสูงกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลได้เนื่องจากเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวมากขึ้นเมื่อเทียบจากปี 2551 และช่วงต้นปีนี้


 “ปัจจัยสำคัญที่จะสนับสนุนให้ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นได้ยังคงมาจากความต้องการใช้มากขึ้นและผู้ผลิตลดลง ซึ่งตอนนี้อัตรากำลังการผลิตน้ำมันในตลาดโลกถือว่าไม่สูงมากนัก” นายมาริษ กล่าว


 ทั้งนี้เชื่อว่าปีนี้ราคาน้ำมันจะเริ่มลดความผันผวนลงจากปีก่อนที่มีการปรับขึ้นลงรุนแรงมากจากราคาสูงสุดประมาณ 147 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล  ลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเนื่องจากกลุ่มกองทุนเก็งกำไร(เฮดจ์ ฟันด์) น่าจะชะลอเข้าลงทุน  ภายหลังจากขาดทุนหนักจากวิกฤติเศรษฐกิจ
 สำหรับผลกระทบต่อกองทุน ไอเอ็นจี ไทย ดับบลิวทีไอ ออยล์ ลิ้งค์ มูลค่าโครงการ 1.5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นกองทุนปิดอายุโครงการ 2 ปี ที่มีนโยบายการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง(สตรั๊กเจอร์โน้ต) อ้างอิงผลตอบแทบกับราคาน้ำมันดิบ NYMEX WTI Crude Oil ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท ยอมรับว่าโอกาสที่จะปิดกองทุนก่อนครบกำหนดเวลา 2 ปี  ซึ่งจะสิ้นสุดกลางปี 2553 ค่อนข้างลำบากเนื่องจากช่วงที่กองทุนเข้าไปลงทุนราคาน้ำมันอยู่ระดับสูงประมาณ 110 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล


 “เชื่อว่าระยะสั้น 1-2 ปีนี้ราคาน้ำมันมีโอกาสจะปรับขึ้นไปแตะ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเท่ากับช่วงกลางปี 2551 คงเป็นไปได้ยาก แต่หวังว่าก่อนปิดโครงการอัตราผลตอบแทนจะไม่มีผลขาดทุน ส่วนนักลงทุนน่าจะยอมรับได้เพราะกองทุนนี้เป็นกองทุนปิดอยู่แล้ว”นายมาริษ กล่าว


 ส่วนนโยบายกองทุนจะลงทุนในตราสารหนี้ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ ที่มีการกระจายลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานนโยบายการลงทุน เน้นลงทุนในตั๋วสัญญาใช้เงินที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) ที่ออกโดยสถาบันการเงินต่างประเทศที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ณ ขณะลงทุนอยู่ใน 2 อันดับแรกจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานก.ล.ต.โดยตราสารดังกล่าวมีผลตอบแทนอ้างอิงกับอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันดิบ NYMEX WTI Crude Oil


 นายมาริษ กล่าวถึงแผนออกกองทุนช่วงไตรมาส 1/2552 ยังต้องรอดูทิศทางเศรษฐกิจและผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลกก่อน แต่คาดว่าตั่งแต่ไตรมาส 2/2552 จะเริ่มทยอยเปิดขายกองทุนใหม่ได้  ซึ่งเบื้องต้นจะเปิดขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่มีนโยบายลงทุนในโรงแรมประเภทซื้อกรรมสิทธิ์(ฟรีโฮล) มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นกองทุนที่เลื่อนเปิดจากปี 2551 ได้ และคาดว่าทั้งปีนี้จะเปิดขายกองทุนอสังหาเพิ่มขึ้นประมาณ 2-3 กองทุน เฉลี่ยมูลค่าโครงการ 1 พันล้านบาทขึ้นไป  แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ช่วงนั้นด้วย


 “หากทิศทางตลาดเริ่มดีขึ้น บริษัทเชื่อว่านักลงทุนจะให้ความสนใจกองทุนอสังหามากขึ้นเพราะเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยกระจายความเสี่ยงได้ดี  ซึ่งกองทุนนี้จะมีจุดเด่นอยู่ที่มีการลงทุนแบบฟรีโฮล และรับประกันรายได้ปีละ 7% ซึ่งสูงมากเมื่อเทียบกับอัตราผลตอบแทนจากดอกเบี้ยปัจจุบัน”นายมาริษกล่าว

เข้าชม: 1,156

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com