May 10, 2024   9:57:33 AM ICT
หุ้นสัปดาห์นี้หงอย แนะจับตาITD-TTA

ทันหุ้น - ดัชนีหุ้นไทยยังน่าห่วง หลังประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจ-การขยายตัวของจีดีพีโลก-อัตราการว่างงานติดลบ นักวิเคราะห์ชี้สัปดาห์นี้มีโอกาสลงต่อ เหตุผลงานกลุ่มปตท. ถ่วงน้ำหนักตลาด พร้อม แนะเก็บหุ้น LPN-PS-ITD-TTA หลังมีปัจจัยหนุนรอบด้าน จับสัญญาณเทคนิคให้แนวรับ 425 จุด แนวต้าน 450 จุด


     หุ้นไทยปิดตลาดส่งท้ายสัปดาห์ (30 ม.ค.) ที่ระดับ 437.69 จุด เพิ่มขึ้น 2.69 จุด หรือ 0.62% ด้วยมูลค่าการซื้อขายสุทธิ 6,557.28 ล้านบาท ส่วนใหญ่ยังเป็นแรงเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มพลังงาน ธนาคารพาณิชย์ สื่อสาร รวมถึงกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 52.73 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขาย 363.63 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 310.91 ล้านบาท


  ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของไทยในไตรมาส 4/2551 ติดลบ 0.5-2.0% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และคาดว่าติดลบ 3.0% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2551 ตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว รวมถึงยังคาดว่า จีดีพี ในไตรมาส 1/2552 อาจติดลบต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ยังเป็นบวกเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2551


 นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์ที่30 มกราคม 2552 มีการปรับตัวผันผวนตลอดทั้งวัน ตามแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นในต่างประเทศ โดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์และดัชนีนิกเกอิ ที่มีการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง ซึ่งมีผลต่อการกระตุ้นจิตวิทยาเชิงลบของนักลงทุน


 ทั้งนี้จากการที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงไปมาในช่วงที่ผ่านมาในระดับหนึ่งแล้ว ทำให้มองว่าดัชนีมีแนวโน้มที่จะดีดตัวกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง แต่ทั้งนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังอิงอยู่กับแนวโน้มของดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาคเป็นหลัก เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยเสริมโดดเด่นเข้ามาสนับสนุนการลงทุนในขณะนี้


 ?การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศตัวเลขจีดีพี ไตรมาส 4/2551 ติดลบเพียง 0.5-2.0% นั้นถือว่าเป็นปัจจัยบวกเล็กๆ ที่เข้ามาเสริมจิตวิทยาการลงทุนได้บ้าง เพราะตัวเลขที่ประกาศออกมาเมื่อเทียบกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ที่คาดว่าจีพีดีจะติดลบรุนแรงถึง 3.5% ถือว่ารุนแรงมาก ทำให้นักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัจจัยดังกล่าวมากเป็นพิเศษŽ นายเทิดศักดิ์ กล่าว


  อย่างไรก็ตาม แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ (2-6 ก.พ.) มองว่า ยังคงมีการปรับตัวผันผวนต่อเนื่อง โดยนักลงทุนควรจับตาประเด็นทางการเมืองที่คาดว่าจะเข้ามามีน้ำหนักในภาคการลงทุนมากขึ้น รวมถึงการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 4/2551 ที่คาดว่าจะมีการปรับตัวลดลงอย่างหนัก โดยเฉพาะบริษัทที่ดำเนินธุรกิจประเภทน้ำมัน เหล็ก ปิโตรเคมี รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์ เนื่องจากมีการปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว

 
 สำหรับกลยุทธ์ลงทุนช่วงสั้น ๆ มองว่า หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อาทิ LPN และ PS ที่จะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่ระดับราคาหุ้นยังอยู่ในระดับต่ำถือเป็นโอกาสที่นักลงทุนระยะยาวจะเข้าไปทยอยสะสม รวมถึงรอซื้อเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง อย่าง ITD จากประเด็นที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟม.) เตรียมเปิดซองประมูลราคาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) สัญญาที่ 2 ช่วงวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์นี้ เข้ามากระตุ้นการลงทุนได้ในระยะสั้น


 นอกจากนี้ หุ้นในกลุ่มขนส่งทางน้ำที่อิงกับแนวโน้มดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) อย่าง TTA ก็มีความน่าสนใจ ตามการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องของดัชนีค่าระวางเรือ หลังเริ่มมีความต้องการใช้สินค้าเพิ่มมากขึ้น โดยประเมินแนวรับที่ระดับ 425 จุด และแนวต้านที่ 450 จุด


 ด้านนายวีระชัย ครองสามสี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (2-6 ก.พ.) คาดว่าน่าจะยังเป็นช่วงขาลงต่อเนื่อง เพราะไม่มีปัจจัยบวกที่จะเข้ามาสนับสนุนการลงทุน ทั้งการรายงานผลประกอบการของกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะหุ้นในเครือ ปตท. ที่คาดว่าจะออกมาขาดทุนอย่างหนักเป็นประวัติการณ์ รวมถึงบรรยากาศทางการเมืองที่จะกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง จึงเชื่อว่าปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวจะเข้ามามีผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนได้ตลอดช่วงสัปดาห์นี้ (2-6 ก.พ.)


 สำหรับกลยุทธ์ลงทุน แนะนำ ?ถือเงินสดŽ เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกยังอยู่ในช่วงขาลงต่อไป รวมถึงความเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศอาจกลับเข้ามากดดันภาคการลงทุนอีกครั้ง โดยประเมินแนวรับที่ 424 จุด แนวต้าน 440 จุด

เข้าชม: 1,054

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com