ทันหุ้น – กูรูส่องตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังไม่สดใส มีโอกาสปรับตัวลงต่อ จากปัจจัยภายนอกรุมเร้า วางพิกัดกรอบลงทุนที่ 422- 444 จุด  แนะสะสมหุ้นพื้นฐานแกร่งอนาคตดีมีสภาพคล่องสูง มอง ADVANC – PTTEP น่าสน ส่วน  MAKRO – MCS – BEC – ADVANC  ปันผลเยี่ยมยอด

 นายธวัชชัย  อัศวพรไชย ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มของตลาดหุ้นไทยวันนี้ อาจมีความผันผวนในทิศทางขาลงต่อเนื่องจากวานนี้ ( 2 ก.พ.52 ) เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุนและสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน นอกจากนี้ผลประกอบการไตรมาส 4/2551 ยังเป็นตัวกดดันการลงทุนที่นอกเหนือจากปัจจัยเศรษฐกิจและการเมืองที่ยังทวีความรุนแรงในช่วงนี้

     นอกจากนี้ตลาดภูมิภาคอื่นในยุโรปและเอเชียมียังมีแนวโน้มไม่ชัดเจนโดยเชื่อว่าทุกประเทศยังจับตารอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐวงเงิน 8.19 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐผ่านการประชุมวุฒิสภา ซึ่งจะส่งผลต่อภาวะตลาดหุ้นทั่วโลก ดังนั้นตลาดหุ้นไทย (SET Index) มีโอกาสทดสอบแนวรับ 422 จุด สำหรับแนวต้านอยู่ระดับ 444 จุด

     สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในวันนี้แนะนำทยอยสะสมหุ้นขนาดใหญ่ที่มีปัจจัยพื้นฐานดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องมีสภาพคล่องสูง แนะนำซื้อลงทุน ADAVNC โดยให้แนวรับ 72 บาท และ PTTEP แนวรับ 95 บาทจากการคาดการณ์ว่าทิศทางการดำเนินธุรกิจจะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจไม่มากเมื่อเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมอื่น

 ทั้งนี้มองว่าสาเหตุที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงวานนี้ ( 2 ก.พ.2552) อาจเป็นเพราะตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบเชิงลบจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอจากการรายงาน GDP ช่วงไตรมาส 4/2551 หดตัวลง 3.8% มากที่สุดในรอบเกือบ 27 ปีส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลง

  นายธวัชชัยกล่าว นอกจากนี้ตลาดหุ้นไทยยังได้รับผลกระทบเชิงลบจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับลดเป้าหมายเงินเฟ้อทั่วไปปี 2552 ลงมาที่ 0 -0.5% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวในกรอบ 0 -1.2% จึงเป็นปัจจัยลบเข้ามาเสริมจากเดิมที่มีปัญหาด้านการเมืองและความกดดันของผลประกอบการไตรมาส 4/2551 ของบริษัทจดทะเบียน

 ด้านนายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสปรับตัวลง จากความกังวลของนักลงทุนเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจและผลการดำเนินงานของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ช่วงไตรมาส 4/2551 ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อีกทั้งมีปัญหาการเมืองในประเทศกดดันด้านจิตวิทยา

 นอกจากนี้ตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบเชิงลบจากเศรษฐกิจของสหรัฐ และยังต้องติดตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐต่อไป ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีนัยสำคัญต่อการลงทุนในขณะนี้ สำหรับกลยุทธ์การลงทุนวันนี้ ยังแนะนำเลือกลงทุนในหุ้นที่มีอัตราการจ่ายปันผลสูง โดยซื้อเมื่ออ่อนตัว อาทิ MAKRO – MCS – BEC – ADVANC เป็นต้น ขณะที่ SET Index มีแนวรับบริเวณ 420 จุด แนวต้าน 440 จุด

 ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (2 ก.พ.2552) ดัชนีปิดตลาดที่ 427.85 จุด ลดลง 9.84 จุด หรือ 2.25% มูลค่าการซื้อขายรวม 6,942.94 ล้านบาท
 ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรกได้แก่ 1. PTTEP  ปิดที่ 97 บาท ลดลง 2 บาท หรือ 2.02% มูลค่าซื้อขาย 1,002.83 ล้านบาท 2. PTT ปิดที่ 154 บาท ลดลง 6 บาทหรือ 3.75% มูลค่าซื้อขาย 817.68 ล้านบาท 3. BANPU ปิดที่ 218 บาท ลดลง 6 บาทหรือ 2.68% มูลค่าซื้อขาย 524.69 ล้านบาท 4. SCB ปิดที่ 50 บาท ลดลง 2 บาทหรือ 3.85% มูลค่าซื้อขาย 358.78 ล้านบาท และ 5. TTA ปิดที่ 17.20 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ 1.71% มูลค่าซื้อขาย 295.81 ล้านบาท

 สำหรับปริมาณการซื้อขายรายกลุ่มนักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 1,313.31 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 941.40 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 371.91 ล้านบาท