May 11, 2024   4:01:10 AM ICT
สินเชื่อม.ค.วืดพิษศก.ตกต่ำ เงินฝากไหลเข้าหุ้นกู้เอกชน

ทันหุ้น-สินเชื่อแบงก์เดือนม.ค.ส่อหดลงจากธ.ค.ปีก่อนที่โต 1.9%  แต่เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนส่อเค้าติดลบ   ส่วนเงินฝากเริ่มลดลง  หลังแบงก์ทยอยหั่นดอกฝากลง   ส่งผลเม็ดเงินฝากโยกเข้าหุ้นกู้เอกชนแทนเพราะจ่ายดอกเบี้ยสูงกว่า   คาดสินเชื่อแบงก์ปีฉลูยังเหนื่อย   ฝากความหวังกับเมกะโปรเจ็กต์ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 


 นางสาวสุกัญญา   อุดมวรนันท์  นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) KEST เปิดเผยว่า แนวโน้มสินเชื่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์เดือน ม.ค. 2552 คาดว่าจะเติบโตน้อยกว่าเดือนธ.ค.2551 ที่เติบโต 1.9%  ขณะที่สินเชื่อเดือนม.ค.2552 เทียบกับเดือนม.ค. 2551 มีโอกาสที่สินเชื่ออาจจะติดลบได้เนื่องจากต้นปี 2551 เป็นช่วงที่สินค้าโภคภัณฑ์มีราคาสูงตามภาวะเศรษฐกิจช่วงนั้นที่เติบโตได้ดี


 ขณะที่แนวโน้มเงินฝากช่วงเดือนม.ค.จะปรับตัวลดลงมากเนื่องจากก่อนหน้านี้กลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก  ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ลดมากกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ ส่งผลให้ผู้ฝากเงินหาทางเลือกใหม่โดยเข้าไปลงทุนในตลาดอื่นที่ให้ผลตอบแทนมากกว่ากับการที่มาฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์
 “เชื่อว่าผู้ฝากเงินจะหันไปลงทุนในหุ้นกู้บริษัทเอกชนที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูง เช่น AP ออกหุ้นกู้ที่ดอกเบี้ยสูงดังนี้ ปีแรกให้ดอกเบี้ย 5 %,ปีที่2ให้ดอกเบี้ย  6 %และปีที่ 3 ให้ดอกเบี้ย 7%ขณะที่ CK ให้ดอกเบี้ยกู้ ปีแรกดอกเบี้ย 5.30% ปีที่ 2 ให้ดอกเบี้ย 5.90%ป็นต้น ส่งให้เริ่มมีผู้ฝากเงินกับแบงก์พาณิชย์ลดลงมากในปีนี้ ”นางสาวสุกัญญา  กล่าว


 นางสาวสุกัญญา  กล่าวว่า แนวโน้มสินเชื่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์ตลอดทั้งปี 2552 ขึ้นอยู่กับการกระตุ้นเศรษฐกิจและเมกะโปรเจ็กต์ของรัฐบาล  ขณะที่ปัจจัยบวกหลังจากธนาคารในต่างประเทศประสบปัญหาสภาพคล่องที่กำลังหดตัวรุนแรงส่งผลให้บริษัทเอกชนในประเทศเริ่มหันมาขอสินเชื่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยมากขึ้น อย่างไรก็ตามธนาคารจำเป็นต้องเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเพื่อไม่ให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)เพิ่มขึ้นในอนาคต


 ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยคาดว่าปี 2552 กลุ่มธนาคารพาณิชย์จะมียอดสินเชื่อเติบโตเพียง 5%  ซึ่งธนาคารที่คาดว่าจะเติบโตดีที่สุดในปี2552 คือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) KTB เนื่องจากได้รับประโยชน์จากการรัฐขอกู้สินเชื่อเพื่อนำมากระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ   อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า KTB  จะมีสินเชื่อเติบโตตามที่ธนาคารคาดการณ์ไว้ที่ 4-5% อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัย แนะนำ “ชะลอการลงทุน” เพราะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ


 นายธนัท  รังษีธนานนท์  ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์  บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  แนวโน้มสินเชื่อเดือนม.ค. มีโอกาสปรับลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบให้ส่งออกชะลอตัวลงรุนแรง ขณะที่ภาพรวมสินเชื่อปี 2552 จะปรับตัวลดลงจากปี 2551เพราะปัจจัยเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก ซึ่งฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างปรับประมาณการสินเชื่อปี 2552 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์  จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 5.2%


     ส่วนยอดเงินฝากเดือนม.ค.2552มีแนวโน้มปรับลดลงเช่นเดียวกันเพราะผู้ฝากเงินเริ่มหันไปลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์(ตลท.) มากขึ้นเพราะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่ามาก โดยเริ่มเห็นเม็ดเงินฝากไหลออกหลังจากธนาคารพาณิชย์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง รวมทั้งถ้าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก  เชื่อว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ลงอีก

เข้าชม: 1,179

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com