May 10, 2024   6:18:06 AM ICT
มองหุ้นเด่น DCC-BBL รอจังหวะสอยลงทุน.
จากนโยบายของรัฐบาลในการเข้าช่วยพยุงราคาสินค้าเกษตรจะช่วยทำให้ อำนาจในการซื้อของเกษตรกรเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของ DCC ในต่างจังหวัดที่สูงถึง 40% ทำให้มองว่าจะส่งผลดีต่อยอดขายที่เพิ่มขึ้น ด้าน BBL กลยุทธ์ปี 52 เน้นสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตและคุณภาพสินทรัพย์ โดยจะพยายามรักษาและเพิ่มฐานเงินฝาก จัดการความเสี่ยงด้านสินเชื่อ โดยดูแลและติดตามพอร์ตสินเชื่ออย่างใกล้ชิด และเน้นการเติบโตของธุรกิจด้วยคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีด้วย

บริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ จำกัด (มหาชน) ประเมิน กำไรสุทธิของบริษัทใน 4Q08A เพิ่มขึ้น 3.5% YoY อยู่ที่ 131 ลบ. แต่ลดลงถึง 11.4% QoQ ส่วนหนึ่งมาจากรายได้เท่ากับ 1,145 ลบ. เพิ่มขึ้น 9.2% YoY แต่ลดลง 3.2% QoQ ขณะที่ต้นทุนของบริษัทเพิ่มขึ้น 13.3% YoY เท่ากับ 733 ลบ. เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในช่วงกลางปีที่ผ่านมาส่งผลให้ต้นทุนการผลิต (ก๊าซธรรมชาติ) และต้นทุนค่าขนส่งปรับตัวเพิ่มขึ้น ใน FY08A รายได้และต้นทุนขายของบริษัทเพิ่มขึ้นเท่ากับ 14.2% YoY อยู่ที่ 5,089 และ 3,131 ลบ. ตามลำดับ โดยกำไรสุทธิใน FY08A อยู่ที่ 666 ลบ. โดย Gross Margin เท่ากับ 38.5% และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสุทธิ (Net D/E) เหลือเพียง 0.34x


* มีแนวโน้มจ่ายปันผลใน 4Q08A เท่ากับ 0.28 บาท


 บริษัทมีมติให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการใน FY08A อีก 0.28 บาท SSEC มองว่ามีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทจะอนุมัติการจ่ายเงินปันผล เนื่องบริษัทยังไม่มีนโยบายขยายการลงทุนที่มีมูลค่าสูงภายใต้เศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมทั้งจากข้อมูลการจ่ายปันผลในอดีต (FY04A-FY07) บริษัทมีการจ่ายปันผลคิดเป็น Dividend Payout Ratio เฉลี่ยสูงถึง 0.7x ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบการจ่ายปันผลใน FY08A (รวมปันผลของ 4Q08A) Dividend Payout Ratio จะเท่ากับ 0.77x หรือ   Dividend Yield เท่ากับ 10.4%


 ทั้งนี้ จากนโยบายของรัฐบาลในการเข้าช่วยพยุงราคาสินค้าเกษตรจะช่วยทำให้ อำนาจในการซื้อของเกษตรกรเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของ DCC ในต่างจังหวัดที่สูงถึง 40% ทำให้มองว่าจะส่งผลดีต่อยอดขายที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งราคาน้ำมันที่ลดลงส่งผลให้ต้นทุนค่าขนส่งและต้นทุนผลิตของบริษัทต่ำลง ส่งผลให้คาดการณ์ Gross


Margin ใน FY09E สูงขึ้นถึง 40.8%


 คงคำแนะนำ ?ซื้อเก็งกำไรŽ มูลค่าเหมาะสมในปี FY09E เท่ากับ 14.62 บาท อิง P/E Ratio เท่ากับ 8x โดยคาดใน FY09E จะสามารถจ่ายปันผลจำนวน 1.28 บาท  Dividend Yield เท่ากับ 10.7% Upside เท่ากับ 21.8% ใน FY09E


 ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน) สรุปผลประกอบการปีที่ผ่านมา BBL สามารถทำกำไรเติบโต 5% YoY แม้มีการตั้งด้อยค่าเงินลงทุนจำนวนมาก หากตัดรายการดังกล่าวออก BBL จะมี ROE ที่ 12.84% เทียบกับปีก่อนที่ 11.8%


?? ภาพรวมเศรษฐกิจปี 52 มองไม่ค่อยดีนักล่าสุด ยังปรับประมาณการลดลงอีก โดยคาด GDP -1.0 ถึง โต 1.5% มูลค่าสินค้าส่งออก -10.4 ถึง -0.8% มูลค่าสินค้านำเข้า -14.1 ถึง -3.1% Headline Inflation -1.6 ถึง 0%


?? ปีนี้ตั้งเป้าสินเชื่อโตเพียง 2-4% รายได้ค่าธรรมเนียมโต 5-8% และ Cost to Income Ratio ที่ระดับ 50% และจะยังคงนโยบายการตั้งสำรองที่ 50-60 bps.ของสินเชื่อ และจะคุม NPL ให้อยู่ในระดับ 4-7% ส่วนเงินกองทุนหลังใช้เกณฑ์ Basel II ยังอยู่ 13.8% (หากนับรวมกำไร 2H51 จะอยู่ที่ 14.6%
?? กลยุทธ์ปี 52 เน้นสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตและคุณภาพสินทรัพย์ โดยจะพยายามรักษาและเพิ่มฐานเงินฝาก จัดการความเสี่ยงด้านสินเชื่อ โดยดูแลและติดตามพอร์ตสินเชื่ออย่างใกล้ชิด และเน้นการเติบโตของธุรกิจด้วยคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีด้วย


?? ผลกระทบ:


?? ทั้งนี้ ได้ประมาณการผลประกอบการปี 52 โดยคาดสินเชื่อจะเติบโต 3% NIM ที่ลดลงจากปีก่อนเหลือ3.21% รายได้ค่าธรรมเนียมโต 5% เราค่อนข้าง Conservative จึงใช้การตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้ฯ ที่ ระดับ 60 bps. ของสินเชื่อรวมหรือ 7.3 พันล้านบาท แต่ในปีนี้ BBL จะไม่มีรายการด้อยค่าเงินลงทุนมากเหมือนปีก่อนที่มีด้อยค่าเงินลงทุนประมาณ 3 พันล้านบาท ทำให้คาดว่า BBL จะยังมีกำไรสุทธิ 21,674 ล้านบาท EPS 11.35 บาท หรือมีกำไรเติบโตจากปีก่อน 7%


?? คาดจ่ายเงินปันผลตอบแทนสำหรับงวดผลการดำเนินงาน 2H51 อีก 2.15 บาท (1H51 จ่ายไปแล้ว1 บาท) คิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่ 3% ถ้าคิดผลตอบแทนทั้งปีจะอยู่ที่ 4.3%


?? คำแนะนำ: จากการปรับมาใช้ราคาเป้าหมายปี 52 และประเมินมูลค่าโดยใช้ PBV ที่ 0.9 เท่า จะได้ราคาเป้าหมายที่ 92 บาท ยังแนะนำซื้อลงทุน

เข้าชม: 1,132

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com