ทันหุ้น- กลุ่มรับเหมาเฮ หลังไจก้าไฟเขียวด้านเทคนิคโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) สัญญา 3 แถม รฟม. เตรียมฉีกซองประกวดราคากลางเดือนมีนาคมนี้ โบรกชี้ปัจจัยหนุน 2 เด้งซ้อน จากแผนเปิดซองสัญญา 2 ช่วง 12-13 กุมภาพันธ์นี้  ยก CK พื้นฐานแน่นปึ๊ก กำแบ็กล็อกในมือกว่า 3.1 หมื่นล้านพ่วงแนวโน้มจ่ายปันผลปี 51 ที่ 0.15 บาท ส่วน ITD-STEC น่าสน ชี้เป็นตัวเกร็งสัญญา 2-3 แนะ “ทยอยสะสม” ส่วน BMCL สะสมบุญเก่าอ้าแขนรับอานิสงส์ด้วยทุกโครงการ

     กรณีที่ทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม) เปิดเผยว่า ขณะนี้องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของประเทศญี่ปุ่น (ไจก้า) ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบข้อเสนอด้านเทคนิคของผู้รับเหมาทั้ง 5 ราย ในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) สัญญาที่ 3 แล้ว และคาดว่าประมาณกลางเดือนมีนาคม 2552 จะสามารถดำเนินการเปิดซองเอกสารข้อเสนอด้านราคาได้

 โดยสัญญาก่อสร้างสัญญาที่ 3 คือ งานก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง ที่บางใหญ่และอาคารจอดรถจำนวน 4 แห่ง ซึ่งมีผู้ผ่านการพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคก่อสร้างจาก รฟม. ทั้งหมด 5 ราย ประกอบด้วย ITD, CKTC Joint Venture (กลุ่มบริษัท ช.การช่าง และบริษัท โตคิว คอนสตรัคชั่น), STEC, TAKENAKA-RITTA Joint Venture (บริษัท ฤทธา และ TAKENAKA) และ PAR Joint Venture (บริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น และบริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง รวมถึงบริษัท รวมนครก่อสร้าง)

 ขณะที่โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) สัญญาที่ 2 ทาง รฟม. คาดว่าจะสามารถเปิดซองราคาประมูลได้ในกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้
 นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยนครหลวงไทย กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างช่วงนี้ เชื่อว่าเป็นไปตามสถานการณ์ ทั้งในเรื่องการเปิดซองประมูลต่างๆ รวมถึงปัจจัยที่จะมีผลในการกระตุ้นจิตวิทยาการลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าว ทำให้อาจเห็นการปรับตัวผันผวน ขึ้น-ลงอย่างรุนแรงของหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างได้อย่างต่อเนื่อง

 “โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่เริ่มมีการดำเนินการไปแล้ว หรือว่ายังอยู่ระหว่างการดำเนินการถือเป็นโอกาสของการเติบโตทางธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทั้งสิ้น แต่ที่เหลือก็ต้องมาดูกันอีกทีว่าใครจะได้ประโยชน์จากโครงการต่าง ๆ ไปมากที่สุด ซึ่งนั่นก็จะเป็นการสะท้อนการเติบโตทางปัจจัยพื้นฐานอย่างแท้จริง” นายสุกิจ กล่าว

CKพื้นฐานแน่นปึ๊ก

 นางสาววิชชุดา ปลั่งมณี ผู้จัดการส่วนวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด กล่าวว่า การประมูลโครงการในอีก 2 สัญญาที่เหลือยังถือเป็นโอกาสของกลุ่มรับเหมาก่อสร้างโดยรวมที่จะทำให้มีการรับงานเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้รับเหมารายใหญ่ อย่าง ITD และ STEC หลังจากที่ CK มีโอกาสได้สัญญาที่ 1 แล้ว

 ทั้งนี้มองว่าแนวโน้มการเปิดซองประมูลดังกล่าวเป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่ผู้เกี่ยวข้องเป็นคนกำหนด โดยความชัดเจนจากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) ถือว่าเป็นสัญญาที่ดีกลับกลุ่มรับเหมาทั้งในระยะสั้น ที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนจิตวิทยาการลงทุน ส่วนในระยะยาวช่วยให้เห็นถึงภาพการรับงานในระยะยาวที่จะเป็นการการันตีแนวโน้มการเติบโตในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 “ตอนนี้สถานการณ์ของกลุ่มรับเหมา ถือว่าค่อนข้างได้เปรียบโดยเฉพาะเชิงจิตวิทยา เพราะทั้ง CK, ITD และ STEC มีความโดดเด่นพอ ๆ กัน แต่หากมองในส่วนของการเปิดซองสัญญาที่ 2 และ 3 หลายคนจะให้ความสนใจไปที่ ITD และ STEC มากเป็นพิเศษ เพราะ CK เพิ่งได้ในตัวสัญญาที่ 1 ไป” นางสาววิชชุดา กล่าว

 นางสาววิชชุดา กล่าวว่า หากมองในแง่ปัจจัยพื้นฐานแล้ว CK ค่อนข้างได้เปรียบที่สุด เนื่องจากแบ็กล็อกในมือสูงถึง 3.1 หมื่นล้านบาท รวมถึงยังมีธุรกิจของบริษัทในเครือที่เกี่ยวกับสาธารณูปโภคทั้งในและต่างประเทศเข้ามาเสริมอีก นอกจากนี้ในปี 2551 คาดว่าบริษัทจะมีความสามารถในการจ่ายปันผลที่ 0.15 บาท หรือประมาณ 4% โดยขณะนี้หุ้นยังมีอัพไซด์เหลืออยู่ประมาณ 19%

 ขณะที่ ITD มีแบ็กล็อกในมือที่ 56,746 ล้านบาท แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงเกี่ยวกับการบริหารต้นทุนการผลิตเข้ามากดดันการเติบโตอยู่บ้าง โดยปัจจุบันหุ้นมีอัพไซด์เหลืออยู่ 29% ส่วน STEC ยังมีปัจจัยเสี่ยงเกี่ยวกับการรับงาน ซึ่งปัจจุบันมีแบ็กล็อกในมือที่ 8-9 พันล้านบาท ระยะสั้นราคาอาจมีการปรับตัวลดลงบ้าง เนื่องจากที่ผ่านมาราคาปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างรุนแรงแล้ว โดยหุ้นมีอัพไซด์ที่ 15%

 สำหรับกลยุทธ์ลงทุน แนะนำ “ทยอยซื้อ” สำหรับ CK มีราคาเหมาะสมที่ 4.40 บาท ส่วน ITD มีราคาเหมาะสม 3.30 บาท และ STEC มีราคาเหมาะสมที่ 3.60 บาท
BMCLเด้งรับอานิสงส์

     นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงของราคาหุ้น BMCL และปริมาณการซื้อขายที่มีเข้ามาอย่างหนาแน่นนั้น คาดว่าน่าจะมาจากการเข้ามาเก็งกำไรของกลุ่มนักลงทุนตามหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่มีปัจจัยบวกสำคัญเข้ามากระตุ้นจิตวิทยาการลงทุน
 ทั้งนี้ BMCL ก็มีปัจจัยบวกเกี่ยวกับความคืบหน้าของเส้นทางรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่กำลังจะเปิดประมูลสัญญาที่ 2 ในช่วงวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์นี้ ทำให้เห็นถึงสัญญาณบวกที่ค่อนข้างชัดเจน และหากรถไฟฟ้าสายสีม่วงแล้วเสร็จในปี 2555-2556 ก็จะทำให้ BMCL สามารถถึงจุดคุ้มทุนได้จากเส้นทางที่เชื่อมต่อถึงกัน

 นอกจากนี้ BMCL ยังมีลุ้นจากการเปิดประมูลผู้ว่าจ้างเดินรถ Airport Rail Link (ARL) และรถไฟฟ้าสายสีม่วงดังกล่าวด้วย ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ คาดว่าบริษัทน่าจะยังขาดทุนอยู่กว่า 1.36 พันล้านบาท ขณะที่ปี 2551 คาดว่าจะขาดทุนสุทธิประมาณ 1.45 พันล้านบาท

 CK (3 ก.พ.) ปิดตลาดทรงตัวที่ 3.70 บาท มูลค่าซื้อขาย 41.22 ล้านบาท ส่วน ITD ปิดตลาดที่ 2.56 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท หรือ 2.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 96.02 ล้านบาท และ STEC ปิดตลาดที่ 3.14 บาท ลดลง 0.06 บาท หรือ 1.87% มูลค่าซื้อขาย 145.59 ล้านบาท