ทันหุ้น - จากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจต่างประเทศส่งผลให้เกิดการชะลอตัวภายในประเทศ รวมถึงเหตุการณ์ทางการเมืองจนมีการปิดสนามบินในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดผลกระทบต่อยอดการใช้บริการในโรงพยาบาลเอกชนโดยรวม โดยเฉพาะในช่วงปิดสนามบินทำให้จำนวนผู้ป่วยต่างชาติปรับตัวลดลง30% แต่ทั้งนี้หลังจากที่สถานการณ์ดังกล่าวคลี่คลาย จำนวนนักท่องเที่ยวรวมทั้งผู้ป่วยก็กลับเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นได้จากตัวเลขการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยว และจากโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งที่รับดูแลผู้ป่วยต่างชาติก็มียอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้น
หลังจากที่ประเทศไทยมีรัฐบาลใหม่ การที่สนามบินเปิดให้บริการปกติ รวมกับจุดแข็งด้านบริการด้านสุขภาพของไทย อย่าง คุณภาพทางการแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ เครื่องมืออุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทัดเทียมกับโรงพยาบาลชั้นนำหลายประเทศ การให้บริการที่รวดเร็ว รวมถึงการบริการด้วยความเป็นไทย ทำให้ประเทศไทยยังคงได้รับความสนใจและความเชื่อมั่นจากต่างชาติในด้านการรักษาพยาบาล
นายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาลบาลปิยเวช จำกัด เปิดเผยในคอลัมน์โฟกัส บจ.ว่า จากประมาณการในข้างต้นเชื่อว่าสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติภายในปีนี้มีแนวโน้มที่จะลดลงประมาณ 10 -15% ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ฉุดให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยในแถบยุโรป และสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือว่าเป็นผู้ผู้ป่วยหลักอันดับ2 และอันดับ3 ที่เข้ามาใช้บริกาทางการแพทย์ในประเทศไทย ขณะที่อันดับ1 ได้แก่ประเทศญี่ปุ่น ส่วนแถบตะวันออกกลางเข้ามารักษาในประเทศในอันดับที่5
?สาเหตุที่มองว่ายุโรป และสหรัฐอเมริกา มีแนวโน้มชะลอตัวการเข้ามาใช้บริการทางการแพทย์ลดลง เนื่องจากกลุ่มประเทศดังกล่าวได้รับผลกระทบโดยตรงจากวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งฉุดกำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศดังกล่าวลดลง แม้ในปีนี้อุตสาหกรรมโรงพยาบาลลดลง10-15% แต่ก็ยังถือว่าน้อยกว่าการปรับตัวลดลงของอุตสาหกรรมอื่นๆ นายแพทย์บุญ กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ฐานผู้ป่วยเดิมจะลดลง แต่ก็เชื่อว่าจะมีผู้ป่วยใหม่เข้ามาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะฐานผู้ป่วยที่เคยเข้ารับการรักษาประเทศในแถบยุโรป ก็จะเริ่มหันมาใช้บริการในประเทศมากขึ้น เพราะค่าเงินที่ถูก เมื่อเทียบกับอัตราค่าเงินในต่างประเทศ
ส่วนกลยุทธ์ของโรงพยาบาลปิยเวชนั้น นายแพทย์บุญ กล่าวว่า แม้ว่าจะมีสัดส่วนของผู้ป่วยต่างชาติ ไม่สูงมาก แต่ทางโรงพยาบาลก็มีแผนที่รอรับกำลังซื้อที่หดลด ดังนั้นจึงมีแผนที่จะขยายสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น อาทิ ตะวันออกกลาง , รัสเซีย , แอฟริกา โดยล่าสุดได้เดินทางไปหาเจรจาสร้างความมั่นใจถึงประสิทธิภาพ และศักยภาพการรักษาของโรงพยาบาล ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนผู้ป่วยเข้ามารักษามากขึ้น
@KH-VIBHAไม่กระทบต่างชาติหด
นายเฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการ บริหาร บางกอก เซน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) KH กล่าวว่า การปรับตัวลดลงของจำนวนคนไข้ต่างชาติคงเกิดจากกรณีการปิดสนามบินเท่านั้น แต่หลังจากที่สถานการณ์คลี่คลายจำนวนคนไข้ต่างชาติเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้จากภาวะที่ถดถอยทางเศรษฐกิจจะส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยต่างชาติในปีนี้ปรับตัวลดลง20% เมื่อเทียบกับปีก่อน
สำหรับ KH ในปี 2552 มีการปรับกลยุทธ์โดยเน้นการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเพิ่มจุดรับ-ส่งต่อแบบครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้บริการของกลุ่มลูกค้าให้มีความหลากหลาย โดยเชื่อว่าปัจจัยเสริมดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนให้ตัวเลขรายได้ในปีนี้เติบโตได้ตามเป้าที่คาดการณ์ไว้ที่ 10-15% จากปีก่อน
?สัดส่วนคนไข้หลัก ๆ ของบริษัท ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนไข้ในประเทศสูงถึง 98% ขณะที่คนไข้ต่างชาติจะเป็นจำนวนที่ค่อนข้างน้อยมาก จึงไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงข้างต้นมากนัก แต่เราก็ต้องมีการเตรียมการเพื่อรองรับปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ไว้ด้วย นั่นเพื่อการสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว นายเฉลิม กล่าว ด้านนายชัยสิทธิ์ วิริยะเมตตากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด(มหาชน)VIBHA กล่าวว่า ขณะนี้จำนวนผู้ป่วยต่างชาติเริ่มทยอยกลับเข้ามาขึ้น หลังจากที่ลดลงในช่วงก่อนหน้านี้ แต่อาจไม่สูงมากนัก เนื่องจากยังมีปัญหาการเศรษฐกิจเข้ามากดดันกำลังซื้อ และขีดความสามารถในการใช้จ่ายของกลุ่มผู้บริโภคทั่วโลกโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าหลักจากประเทศในแถบตะวันออกกลาง อย่างอาหรับ ที่เริ่มปรับตัวลดลง และหันไปหาแหล่งบริการด้านสุขภาพที่มีราคาถูกลง เพื่อรักษาเสถียรภาพคล่องทางการเงิน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้ป่วยหลักจะมาจากในประเทศ 95% และต่างชาติ 5% แต่ก็มีการปรับกลยุทธ์ที่รองรับปัญหาการเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบรุนแรงในระยะยาว ?ปีนี้ตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณ 1,200 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8-9% จากปี 2551 ที่คาดว่ารายได้จะเติบโตอยู่ที่ระดับ 1,100 ล้านบาท
@BH เพิ่มผู้ป่วยในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายแมค แบนเนอร์ ผู้อำนวยการด้านบริหาร บริษัทโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด(มหาชน)BH กล่าวว่า ในปี 2552 โรงพยาบาลได้ปรับแผนโดยการเพิ่มจำนวนผู้มาใช้บริการคนไทยมากขึ้น เนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นได้ส่งผลให้จำนวนผู้มาใช้บริการต่างชาติที่บินมารักษามีจำนวนลดลง ซึ่งการเพิ่มผู้มาใช้บริการในประเทศนั้นสืบเนื่องมาจากโครงการ Healthy Living Club ที่ทางโรงพยาบาลได้เปิดตัวไปเมื่อกลางปี 2551 ที่ผ่านมา เพื่อรองรับผู้มาใช้บริการในประเทศโดยเฉพาะ
ทั้งนี้ การจัดทำโครงการดังกล่าว เนื่องจากBHเห็นสัญญาณของจำนวนผู้ที่มารักษาโดยเฉพาะชาวต่างชาติมีอัตราลดลง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4/2551 แต่ขณะที่จำนวนผู้มาใช้บริการในประเทศกลับปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งในลักษณะการเข้ามาตรวจรักษาโรคทั่วไปและโรคเฉพาะทาง ทำให้โรงพยาบาลมีการปรับเป้าสัดส่วนคนไข้ในประเทศเพิ่มเป็น 60% จากปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 50-58%
@ TNH ชูระบบเหมาจ่าย
นางอำไพ พยัคคง ผู้อำนวยการบริหาร บริษัทโรงพยาบาลไทยนครินทร์ จำกัด(มหาชน)TNH กล่าวว่า TNH มีสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติในระดับ 5% เท่านั้น ดังนั้นทางโรงพยาบาลจึงไม่ได้รับผลกระทบต่อการปรับตัวลดลงของจำนวนผู้ป่วยต่างชาติ เพราะสัดส่วนรายได้95% มาจากจำนวนผู้ป่วยในประเทศเป็นหลัก ทั้งนี้ แม้ว่าโรงพยาบาลจะไม่ได้รับผลกระทบในข้างต้น แต่ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จนฉุดให้กำลังซื้อปรับตัวลดลงนั้น ทำให้TNHต้องมีการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจโดยการจัดทำโปรโมชั่นในการ งัดมาตรการระบบเหมาจ่ายให้กับคนไข้ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถประมาณการอัตราค่าใช้จ่ายของตัวเองในการรักษาได้ง่ายขึ้น โดยเชื่อว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะเป็นตัวกระตุ้นการเข้ามารักษาของผู้ป่วยได้ง่ายขึ้น เนื่องจากในช่วงปี2540 ทางTNHได้มีการจัดโปรโมชั่นคลอดเหมาจ่ายมาแล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ป่วยอย่างมาก
|