ทันหุ้น-กนง.หั่นดอกเบี้ยอาร์/พีระยะ 1 วันลงอีก 0.50% เหลือ 1.50% ตามตลาดคาดการณ์ เชื่อยังมีความเสี่ยงเพิ่มจากวิกฤติการเงินโลก อุปสงค์ภายในประเทศยังอ่อนแอ หมดหวังพึ่งส่งออก ยอมรับปีนี้จีดีพีเสี่ยงติดลบ คาดไตรมาสแรกปีนี้จีดีพีใกล้เคียงไตรมาส 4/2551
นางสาวดวงมณี วงศ์ประทีป ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เปิดเผยว่า คณะกรรมการกนง.วานนี้(25 ก.พ.)มีมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตร(อาร์/พี)ระยะ 1 วันลง 0.50% มาอยู่ที่ 1.50% ซึ่งลดลงในกรอบที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีโอกาสต่ำกว่าเป้าหมายในบางช่วงของปีนี้ จึงเห็นว่านโยบายการเงินจะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและดูแลเสถียรภาพ
ทั้งนี้ วิกฤตการณ์ทางการเงินโลกส่งผลให้เศรษฐกิจโลกอ่อนตัวลงอย่างรวดเร็วและยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยอุปสงค์ต่างประเทศที่ปรับลงมากได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศในภูมิภาค รวมทั้งเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะส่งออกลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ อุปสงค์ในประเทศอ่อนแอ ในขณะที่มาตรการของภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งก่อนจะเห็นผลเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะหดตัวต่อเนื่องถึง 4 ไตรมาส นับจากไตรมาส 4/2551 ถึงไตรมาส 3/2552 แต่ไม่ถือว่าเข้าขั้นถดถอยทางเศรษฐกิจเพราะยังมีกิจกรรมการใช้จ่ายเกิดขึ้นในประเทศ และคาดว่าไตรมาส 4/2552 เศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวขึ้น จากแรงผลักดันของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ภาครัฐนำออกมาใช้ โดยธปท.คาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้เท่าเดิม 0-2% และมีโอกาสหลุดต่ำกว่า 0% มากขึ้น
นางสาวดวงมณี กล่าวต่อว่า สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)ไตรมาส 1/2552 คาดว่าจะขยายตัวได้ใกล้เคียงกับไตรมาส 4/2551 แต่อาจจะดีกว่าเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนยังติดลบ เพราะไตรมาส 1/2551 ขยายตัวในระดับสูง ซึ่งประเทศไทยจะหวังพึ่งพาการส่งออกไม่ได้อีกต่อไป การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยจะมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นสำคัญ โดยเฉพาะสหรัฐที่คาดว่าจะเห็นปลายปีนี้
"เศรษฐกิจไทยถูกกำหนดจากภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งการประเมินของ กนง.ครั้งก่อนจนถึงครั้งนี้ เศรษฐกิจโลกมีอัตราอ่อนตัวที่เร่งขึ้นและมีความชัดเจนมากขึ้น คือจะถดถอย ซึ่งจะกระทบต่อประเทศพัฒนาและกำลังพัฒนา กระทบการส่งออกของไทยมาก"น.ส.ดวงมณี กล่าว
|