April 28, 2024   4:52:16 PM ICT
หุ้นกลุ่มรับเหมาเริ่มง่อนแง่น

กลุ่มรับเหมาซึมยาว หลังบอร์ดรฟม.เลือนพิจารณาลดวงเงินประมูลกับ CKTC ไม่มีกำหนด เซียนหุ้นมองกดดันราคาช่วงสั้น หมดข่าวเชิงบวกกระตุ้น ส่วนปีนี้มอง STEC กำไรฟื้นโดดเด่นสุด ลุ้นปันผลเป็นปีแรกหลังล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยง แนะ “ซื้อ” ให้เป้าหมาย 3.88 บาท ส่วน CK รับอานิสงส์เงินลงทุนในธุรกิจสาธารณูปโภคออกดอกออกผลดี มองเป้า 3.52 บาทแนะเก็บช่วง อ่อนตัว ขณะที่ ITD กราฟเทคนิคราคาแพงสุดๆ แนะ “ขายทำกำไร”


     ราคาหุ้น CK วานนี้ (4 มี.ค.) ปิดตลาดที่ 3.08 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท หรือ 4.05% มูลค่าซื้อขายรวม 21.86 ล้านบาท ส่วน ITD ปิดตลาดที่ 2.16 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท หรือ 3.85% มูลค่าซื้อขายรวม 42.54 ล้านบาท และ STEC  ปิดตลาดที่ 3.26 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 3.16% มูลค่าซื้อขายรวม 46.61 ล้านบาท


     นายสุรศักดิ์ อนุตรโสตถิ์ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อพิจารณาผลการเจรจาลดวงเงินการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วง บางใหญ่-บางซื่อในสัญญาที่ 1 ของ CKTC ในวานนี้ (4 มี.ค.) ออกไปอย่างไม่มีกำหนดนั้น มองว่าเป็นปัจจัยลบต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ที่เข้าร่วมประมูลงาน เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่ที่สนับสนุน


     “การเปิดซองโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงในสัญญาที่ 2 จะล่าช้าออกไปอีก เพราะยังไม่สามารถเจรจาลดวงเงินการประมูลกับกลุ่มของ CK ลงได้”นายสุรศักดิ์กล่าว


STEC- CKดาวเด่น
     อย่างไรก็ตามมองว่าหุ้น STEC ยังน่าสนใจ เพราะเป็นเพียงบริษัทเดียวที่ผลการดำเนินงานเริ่มมีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน แต่ราคาหุ้นที่ซื้อขายอยู่ในระดับสูงแล้ว จึงแนะนำ “ถือ” เพื่อรอความชัดเจนของโครงการรถไฟฟ้า โดยให้ราคาเป้าหมาย 3.00 บาท


     รองลงมาหุ้น CK แนะนำ “ซื้ออ่อนตัว” โดยให้ราคาเป้าหมาย 3.52 บาท เพราะมองว่ายังได้รับประโยชน์จากการถือหุ้นในกลุ่มบริษัทที่ดำเนินธุรกิจสาธารณูปโภคน้ำ ไฟฟ้า และระบบคมนาคม ซึ่งมีรายได้ทีมั่นคง ซึ่งส่งผลเชิงบวกต่อรยได้ของ CK ได้ในอนาคต


     นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ ITD ในปีนี้มีโอกาสฟื้นตัวได้ แต่ความสามารถการทำกำไรยังมีความเสี่ยงที่อาจจะปรับตัวลงจากการคาดการณ์ได้ เพราะยังมีปัจจัยที่ผันแปรที่ไม่ทราบเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับโครงการต่างประเทศ


     นอกจากนี้มองว่าราคาหุ้น ITD ซื้อขายที่ P/E ปี 2552 ที่ 21 เท่า ซึ่งอยู่ในระดับสูง หากเทียบกับความเสี่ยงด้านการทำกำไรในอนาคต จึงแนะนำ “เต็มมูลค่า” จากราคาเป้าหมาย 2.10 บาท อย่างไรก็ตามการประกาศเปิดซองราคารถไฟฟ้าสีม่วง สัญญา 2 อาจจะทำให้มีการเก็งกำไรเข้ามาได้


     ขณะที่หุ้น STEC มองว่า ยังเป็นหุ้นพื้นฐานดี จากการรับรู้รายได้ในปีนี้ค่อนข้างสูง และยังมีการควบคุมต้นทุนเหล็กด้วยการสั่งซื้อล่วงหน้าที่ราคาต่ำ นอกจากนี้โครงการ แอร์พอร์ตเรลลิงค์ (ARL) และศูนย์ราชการ ซึ่งอัตรากำไรขั้นต้นต่ำเหลือมูลค่าเพียง 1,500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะหมดไปในไตรมาส 1/2552 นี้
คาดมาร์จิ้นกระเตื้อง


     ดังนั้นในช่วง 9 เดือนของปี 2552 อัตรากำไรขั้นต้นจะดีขึ้นมาก นอกจากนี้การเก็บเงินในส่วนงาน ARL ที่เหลือ 1,200 ล้านบาท จะแล้วเสร็จภายในปีนี้ ก็จะทำให้ฐานะการเงินบริษัทดีขึ้นมาก


     อีกทั้งคาดว่าบริษัทจะล้างขาดทุนสะสมปีนี้เพื่อกลับมาจ่ายเงินปันผลเป็นปีแรกหลังร้างการจ่ายมานาน อัตราผลตอบแทนเป็น 3.3% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 3.88 บาท


     นอกจากนี้หุ้น CK แนวโน้มการทำกำไรจะดีขึ้น หลังจากแรงกดดันเรื่องราคาเหล็กที่แพงได้ผ่อนคลายลงมาก แต่คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้ของ CK กลับลดลง 56% จากปีก่อน เนื่องจากมีสมมุติฐานว่าไม่มีกำไรจากรายการพิเศษ และยังมีความกังวลเรื่องที่บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนสูง ราคาหุ้นขณะนี้ก็ไม่ถูก P/E ปีนี้เป็น 20.0 เท่า จึงแนะนำ “เต็มมูลค่า” ให้ราคาเป้าหมาย 3.34 บาท

เข้าชม: 1,548

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com