กลุ่มอสังหาส่อแววเดี้ยง หลังต่างชาติทิ้งเงินดาวน์ระนาว-ชะลอการซื้อคอนโดหรูแล้วกว่า 20-30% ส่องไตรมาส 3/2552 วูบแรงสุด เหตุเศรษฐกิจสหรัฐ-ยุโรปฉุดยาว ด้าน “ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต” ค่าย PS แจงภาพรวมปี 52 ยังแกร่งเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของดีมานด์ ระบุ 2 เดือนแรกยอดขายทะยานแล้วกว่า 2.4 พันล้านบาท  ส่วนQH “สุวรรณา พุทธประสาท” กระทุ้งผู้ประกอบการพิจารณาราคาขายสอดคล้องกำลังซื้อ หวังปูพรหมกลุ่มอสังหาริมทรัพย์โตยาว

     จากกรณีที่ นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ออกมาเปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2552 อาจจะชะลอตัวลงกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอย่างรุนแรง รวมถึงพบว่าขณะนี้ต่างชาติเริ่มมีการทิ้งเงินดาวน์และชะลอการซื้อคอนโดมิเนียมหรูริมทะเล เช่น ภูเก็ต พัทยา หัวหิน และสมุย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 20-30%

 ทั้งนี้ยังคาดว่าสถานการณ์จะรุนแรงมากขึ้นในช่วงไตรมาส 3/2552 เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐและยุโรปที่ทรุดตัวลงอย่างหนัก รวมถึงปัญหาค่าเงินสกุลยุโรปอ่อนค่าลงถึง 20% เป็นผลให้ต้นทุนสูงขึ้นส่งผลให้ต่างชาติขายคอนโดมิเนียมเพื่อนำเงินกลับประเทศ

 อย่างไรก็ดี มองว่าสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ระดับกลาง ราคาประมาณ 2-3 ล้านบาท น่าจะยังมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากการได้รับปัจจัยบวกเกี่ยวกับมาตรการนำเงินต้นและดอกเบี้ยมาลดหย่อยภาษี รวมถึงคาดว่าในช่วงไตรมาส 4/2552 จะมีแรงซื้อจากประชาชนกลับคืนมาอีกครั้งก่อนที่มาตรการกระตุ้นดังกล่าสวจะหมดอายุลงช่วงสิ้นปี 2552

 นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)  PS กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2552 คาดว่าจะเติบโตได้ดีขึ้นจากไตรมาส 4/2551 เนื่องจากตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของความต้องการซื้อของกลุ่มผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ภาครัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นภาคเศรษฐกิจรวมถึงมาตรการทางภาษีที่เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ซื้อบ้านใหม่ รวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจที่เริ่มผ่อนคลายความตึงเครียดได้ลงบ้าง หลังต้นทุนการผลิตต่าง ๆ ปรับตัวลดลง

 ขณะที่ในแง่กำลังซื้อ และความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้บริโภค มองว่า น่าจะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวได้ตามแนวโน้มความต้องการซื้อในตอนนี้ ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เน้นเจาะตลาดผู้อยู่อาศัยชาวต่างชาติเชื่อว่าจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากเศรษฐกิจในต่างประเทศที่ขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน ซึ่งปัจจัยลบดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถและกำลังซื้อของนักลงทุนต่างชาติ

 “ความต้องการที่แท้จริงในประเทศเริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว จากยอดการเยี่ยมชมโครงการของบริษัทที่ฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ประมาณ 20% และเดือนกุมภาพันธ์ 2552 อีก 40% ส่วนตัวเลขยอดขายในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับยอดขายช่วง 9 เดือนแรกของปีก่อนอยู่ที่ 2.8-2.9 พันล้านบาท ถือว่าเป็นปัจจัยสะท้อนภาพรวมอุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพทางหนึ่ง” นายประเสริฐ กล่าว

 นางสุวรรณา พุทธประสาท รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) QH กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งการลดหย่อยภาษีธุรกิจเฉพาะ และการลดค่าธรรมเนียมการโอนการจำนอง รวมถึงมาตรการหักลดหย่อยภาษีเงินได้ 300,000 บาท มองว่าจะเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการในแง่ของต้นทุนที่จะลดลงถึง 4% ดังนั้นผู้ประกอบการจึงควรหันมาพิจารณาในแง่ของราคาขายและความสามารถรวมถึงกำลังซื้อของกลุ่มผู้บริโภคให้มีความสอดคล้องกันมากขึ้น น่าจะช่วยให้เห็นโอกาสในการฟื้นตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ได้ดียิ่งขึ้น

 นางสุวรรณากล่าวว่า กลยุทธ์ในการบริหารงานในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจ ความต้องการและกำลังซื้อของกลุ่มผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัวได้ดีนัก การควบคุมต้นุทนการผลิต การบริหารจัดการที่เข้มข้นขึ้น อาทิการลดค่าใช้จ่ายทั้งในส่วนของการซื้อที่ดิน และค่าก่อสร้าง เพื่อช่วยรักษาสภาพคล่องถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะเข้ามาช่วยรองรับผลกระทบที่เกิดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี

 สถาบันวิจัยนครหลวงไทย ยังคงให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ “Bearish” โดยประเมินว่าทิศทางของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้จะต้องเน้นกลุ่มที่เป็นความต้องการที่แท้จริงมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการแนวราบที่จะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ภายในปี 2552 เพื่อใช้ประโยชน์ทั้งจากการลดหย่อยภาษีธุรกิจเฉพาะและค่าธรรมเนียมการโอนการจดจำนอง รวมทั้งได้ประโยชน์จากการหัดลดหย่อนภาษีเงินได้ 300,000 บาทด้วย โดยฝ่ายวิจัยคาดว่ากลุ่มที่ยังคงเติบโตต่อเนื่องหรือได้รับผลกระทบเชิงลบไม่รุนแรง เช่น SPALI, QH และ PS