ทันหุ้น -โบรกค่ายดังเปิดกรุหุ้นเด่นช่วงเดือน มี.ค.- เม.ย. ปี 52 เน้นสตอรี่ พื้นฐานและปันผลเยี่ยม พบกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ LPN- AP โดดเด่นด้านอัตราปันผลสูงราคาต่ำ ส่วน MCOT พื้นฐานดีรายได้ค่าโฆษณาทะลัก ด้าน STEC ตัวเก็งประมูลงานรัฐ ด้าน PTTEP เหมาะเก็งกำไรช่วงที่หุ้นปรับตัวลงต่ำกว่าเป้า และ THAI จับตาประเด็นขอฟื้นฟูกิจการ  

 บริษัทหลักทรัพย์แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) แนะนำหุ้นเด่นของเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน 2552 จากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยพิจารณาจากสตอรี่,ปัจจัยพื้นฐานของบริษัท และอัตราการจ่ายเงินปันผลที่มีระดับสูง อาทิ MCOT – STEC – PTTEP – AP – LPN และ THAI

 สำหรับ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) MCOT  ประเมินราคาเป้าหมายปี 2552 ที่ราคา 15 บาท โดยประเมินว่าบริษัทได้ประโยชน์จากคู่แข่งขันปรับกลยุทธ์แม้จะมีส่วนแบ่งผู้ชมเป็นอันดับ 4 แต่ทั้งนี้บริษัทได้เปรียบจากอัตราค่าโฆษณาที่ต่ำกว่าคู่แข่งขัน ซึ่งในปีนี้มีโอกาสที่รายได้โฆษณาจะเพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราค่าโฆษณา, การปรับผังรายการใหม่ที่แข็งแรงขึ้น และการรุกเข้าสู่ธุรกิจ Event Marketing

 ขณะที่ราคาหุ้นถูกกว่าคู่แข่งค่อนข้างมาก โดยซื้อขายที่ PE Ratio ปี 2552 ประมาณ 7.30 เท่า (BEC 13.50 เท่า) และคาดอัตราการจ่ายเงินปันผลปี 52 ระดับ 11% ต่อปี (BEC ที่ 6.7% ต่อปี) อย่างไรก็ตามปัจจัยเสี่ยงอยู่ที่พรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ที่อาจกระทบรายได้ในอนาคต และภาวะการขาดผู้นำในปัจจุบัน

STECติด TOP 3

  ด้าน บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) STEC ให้ราคาเป้าหมายปี 2552 ที่ 4.32 บาท โดยประเมินว่าบริษัทเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างที่ติด TOP 3 ของไทยซึ่งคาดว่าเป็นตัวเก็งทุกงานของภาครัฐที่เตรียมเปิดประมูลในปีนี้ อีกทั้งจาก Backlog ในปัจจุบันที่ 12,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับงานที่รอเซ็นอีกกว่า 1,500 ล้านบาททำให้เพียงพอสำหรับปีนี้ อีกทั้งงานก่อสร้างที่ถ่วงประกอบการอย่าง ARL และ ศูนย์ราชการแล้วเสร็จช่วงครึ่งปีแรก 2552 จะช่วยผลักดันดันผลประกอบการฟื้นตัว โดยคาดกำไรสุทธิปี 2552 เท่ากับ 257 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 44% จากปีก่อนที่มี 178 ล้านบาท

 ขณะที่ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) PTTEP ฝ่ายวิจัยประเมินราคาเป้าหมายปี 2552 ที่ 119 บาท โดยคาดว่าการออกมาตรการเศรษฐกิจตัวใหม่ของประเทศต่างๆและการลดกำลังการผลิตของ OPEC น่าจะทำให้ราคาน้ำมันสามารถยืนเหนือ 40 เหรียญสหรัฐได้ระยะหนึ่ง จึงเป็นบวกต่อหุ้น

 ทั้งนี้แม้ว่าประมาณการณ์กำไร ปี 2552 ไว้ในระดับ 26,601 ล้านบาทลดลงจากปีก่อนที่มี 41,675 ล้านบาท แต่ราคาหุ้นยังต่ำกว่าราคาเป้าหมายมาก อย่างไรก็ดีมองว่าเป็นหุ้นที่มีความพร้อมมากที่สุดตัวหนึ่งที่พร้อมจะฟื้นตัวถ้ามีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดหุ้น ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงของหุ้นเป็นกรณีราคาหุ้นอ่อนไหวตามราคาน้ำมัน , การสำรวจหาแหล่งน้ำมันแล้วพลาด ดังนั้นทำให้เหมาะกับการเก็งกำไรในจังหวะที่ราคาหุ้นยังไม่ขึ้น

AP-LPNแรงสุดกลุ่มอสังหาฯ

 นอกจากนี้ฝ่ายวิจัยประเมินหุ้นในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ว่ามีจุดเด่นด้านการจ่ายเงินปันผล โดยประเมิน บริษัทเอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) AP ให้ราคาเป้าหมายปี 2552 ที่ราคา 3.28 บาท เพราะมีอัตราเงินปันผลที่ 0.25 บาท ซึ่งคิดเป็นอัตราตอบแทนเงินปันผลสูงที่ 12.10% จึงเป็นจุดเด่นสำคัญที่ทำให้น่าสนใจในการเข้าซื้อลงทุนระยะสั้นเพื่อรับเงินปันผล

 อย่างไรก็ตามหากราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นก่อน XD วันที่ 7 พ.ค.2552 ในอัตราใกล้เคียง 12% อาจขายทำกำไรเป็นรอบๆ  เนื่องจากตลาดโดยรวมยังผันผวนขณะที่ผลประกอบการปี 2552 คาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 1,321 ล้านบาทลดลงจากปีก่อนที่มี 1,638 ล้านบาท แต่ราคาหุ้นในตลาดต่ำกว่าราคาเป้าหมาย ขณะที่สถานะการดำเนินงานมีความมั่นคงจาก Backlog กว่า 12,000 ล้านบาท ดังนั้นจึงจัดว่าเป็นหุ้นราคาถูกเกินไป

 นอกจากนี้ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) LPN ให้ราคาเป้าหมายที่ 4.42 บาท ประเมินว่าแม้จะเป็นการจ่ายปันผลงวดที่ 2 ในอัตรา 0.27 บาท (XD 2 เม.ย. 52) แต่ยังให้อัตราตอบแทนเงินปันผลสูงถึง 10% และให้อัตราตอบแทนทั้งปีสูง 18.80% ขณะที่ปี 2552 คาดว่าจะยังมีอัตราสูงถึง 14.30%

 ด้านผลประกอบการปี 2552 ที่คาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 1,086 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มี กำไรสุทธิ 1,206 ล้านบาท ประเมินว่าแม้จะชะลอตัวลงแต่เป็นไปตามภาวะรวมของอุตสาหกรรม ขณะที่ค่า PE ลงต่ำเหลือเพียง 3.32 เท่า ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ต่ำมาก จึงเหมาะสำหรับการลงทุนระยะปานกลาง หรือเก็งกำไรจับรอบปันผลระยะสั้นได้

THAIผลงานผ่านจุดต่ำสุด

 ขณะเดียวกัน ให้ราคาเป้าหมายหุ้น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) THAI ที่ราคา 10 บาท เพราะประเมินว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยเชื่อว่าผลประกอบการปีนี้ไม่ตกต่ำเท่าปีก่อนจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำและภาพรวมการท่องเที่ยวในประเทศที่ดีขึ้น

 ทั้งนี้คาดผลประกอบการปี 2552 จะขาดทุน 3,219 ล้านบาท ขาดทุนลดลงจากปีก่อนที่ขาดทุน 21,379 ล้านบาท จากการได้รับผลกระทบจากต้นทุนการบินที่เพิ่มสูงขึ้นและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ชะลอตัว นอกจากนี้แนะจับตาประเด็นการขอฟื้นฟูกิจการ ซึ่งมองว่าถ้าแผนนี้ผ่านจะเป็นปัจจัยบวกสำคัญของธุรกิจ ด้านปัจจัยเสี่ยงปีนี้เป็นการตัดด้อยค่าเครื่องบินและค่าเงินเยนที่แข็งค่า