ทันหุ้น-หุ้นแบงก์ลุ้นรีบาวนด์ต่อช่วงสั้น รับแรงหนุนโอบาม่าเตรียมเพิ่มทุนพลิกฟื้นกลุ่มสถาบันการเงินในสหรัฐ โบรกแนะจับกลยุทธ์ลงทุนเชียร์ “เก็งกำไร”หรือลงทุนยาวหุ้นสามเกลอ SCB BBL และ KBANKฝรั่งชอบ ชูศักยภาพพื้นฐานแกร่งแซงคู่แข่ง แม้ทั้งปีราคาทั้งกลุ่มยังผันผวนเด้งได้ไม่ไกล คาดยังมีโอกาสทะยานขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์เมื่อวันศุกร์ที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นทั้งกลุ่ม โดยมีแรงซือ้เข้ามาในหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ ได้แก่ BBLปิดที่ 76.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 2.68% มูลค่าซื้อขาย 274.70 ล้านบาท,KBANKปิดที่ 42.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 2.41% มูลค่าซื้อขาย 678.55 ล้านบาท ,SCBปิดที่ 53.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 1.90% มูลค่าซื้อขาย 703.73 ล้านบาท และKTBปิดที่ 4.32 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท หรือ 3.35% มูลค่าซื้อขาย 196.98 ล้านบาท
นายวรุฒม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในสัปดาห์นี้(16-20มี.ค.52) มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นเพราะได้รับแรงสนับสนุนจากการที่ประธานาธิบดีโอบาม่า จะพิจารณาแผนการเพิ่มทุนเพื่อแก้ไขปัญหาสถาบันการเงิน อีกทั้งฝ่ายวิจัยคาดว่าการเพิ่มทุนจะแล้วเสร็จและสามารถพลิกฟื้นกลุ่มสถาบันการเงินของสหรัฐได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะถึงจุดต่ำสุดได้ภายในระยะอันใกล้
ดังนั่นคาดว่าหุ้นกล่มธนาคารพาณิชย์ของไทยจะได้รับอานิสงส์ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องได้ โดยกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ “เก็งกำไร”หรือ “ลงทุนระยะยาว”ในหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม เช่น SCB,BBLและ KBANK
ด้านนายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม รองกรรมการ ผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี จำกัด กล่าวว่า เป็นช่วงจังหวะการรีบาวนด์ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์เพราะเป็นหุ้นที่อิงกระแสข่าวของสหรัฐจากการที่ซิตี้กรุ๊ป ออกมาระบุว่าในไตรมาส1-2/2552จะรายงานกำไรสุทธิ แต่การเข้าลงทุนยังต้องระมัดระวังเนื่องจากการที่หุ้นปรับตัวเพิ่มสูง อาจจะประสบภาวะการขายทำกำไรได้
“การที่หุ้นแบงก์เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมาเพราะรับอานิสงส์ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือการที่หุ้นปรับตัวลดลงมากเกือบถึงจุดต่ำสุด แต่หุ้นแบงก์ทั้งปี2552จะเป็นหุ้นที่มีความผันผวนสูงเพราะฉะนั้นกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ “เก็งกำไร” โดยเลือกหุ้นที่มีภาพรวมธุรกิจแข็งแกร่งเช่น KBANK” นายเจริญ กล่าว นายเจริญ กล่าวอีกว่า แม้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา(9-13มี.ค.)หุ้นACLและ BT ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูง และมีโอกาศที่สัปดาห์นี้ราคาหุ้นอาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่การที่เป็นหุ้นที่ไม่มีสภาพคล่อง รวมทั้งการรีบาวนด์ของหุ้นทั้ง 2 ธนาคารไม่สามารถพยุงดัชนีหุ้นทั้งกลุ่มได้เพราะเป็นหุ้นที่มีฐานราคาต่ำ ฝ่ายวิจัยจึงไม่แนะนำเข้าลงทุน
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์พัฒนสิน จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปเพราะได้รับอานิสงส์จากตลาดต่างประเทศ รวมทั้งที่ผ่านมาการที่นายธนาคารออกมาให้ความเห็นว่าการดำเนินธุรกิจของกลุ่มธนาคารพาณิชย์เติบโตได้ดี อีกทั้งมีความสามารถในการทำกำไร สินเชื่อโต หรือแม้กระทั่งสภาพคล่องที่ทรงตัวอยู่สูง รวมทั้งกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไม่ได้ประสบปัญหาต้องเพิ่มทุนแต่อย่างใด
ซึ่งสาเหตุข้างต้นส่งผลให้หุ้นกลุ่มธนาคาพาณิชย์ไทยน่าสนใจในสายตานักลงทุนต่างชาติ จึงเชื่อว่าจะยังมีสัญญาณรีบาวนด์ โดยแนะนำเลือกลงทุนหุ้นที่มีพื้นฐานแกร่งทั้งราคาหุ้นหรือพื้นฐานธุรกิจ เช่น SCB,KBANKและ BBL
ด้านนักวิเคราะห์เทคนิคบริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์เริ่มอ่อนแรงลงเพราะที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมามากหรือถ้ามีจังหวะการขึ้นรีบาวนด์จะไปไม่ได้ไกล โดยประเมินดัชนีแนวรับ 140 จุด แนวต้าน 150 จุด
|