April 28, 2024   2:23:48 AM ICT
แบงก์ดิ้นปั๊มค่าฟีชดเชยดอกเบี้ย KBANK-BAYแววโต20%

ทันหุ้น-แบงก์เร่งปั๊มค่าฟีเพิ่มชดเชยรายได้ดอกเบี้ยหด  หลังเศรษฐกิจซบปล่อยสินเชื่อได้ยาก แถมมีต้นทุนต่ำกว่า โบรกคาดKBANKและBAYแววดีสุดปีนี้   ซื้อกิจการต่อยอดหนุนรายได้ค่าฟีขยับขึ้น 20% ส่วนขึ้นค่าธรรมเนียม ATM ดันรายได้ทั้งกลุ่มจิ๊บจ๊อย 2% น้อยกว่าสัดส่วนรายได้ดอกเบี้ยต่อสินเชื่อรวมที่ยังสูง 20% เชียร์ซื้อหุ้นแบงก์ใหญ่เมื่ออ่อนตัว ทั้งSCB-BBL-KBANK    


 นางสาวสุกัญญา   อุดมวรนันท์  นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) KESTเปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลให้กลุ่มธนาคารพาณิชย์เริ่มมุ่งหวังรายได้ค่าธรรมเนียมมากขึ้นเพราะมีต้นทุนที่ต่ำกว่า  อีกทั้งสินเชื่อปรับลดลง  โดยธนาคารที่คาดว่าจะมีรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นมากที่สุด คือธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) KBANKเนื่องจากเป็นปีแห่งการขยายธุรกิจ ล่าสุดได้ร่วมมือกับไทยประกันชีวิต ซึ่งธนาคารตั้งเป้ารายได้ค่าธรรมเนียม 3 ปีโต30%  รวมทั้งการปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมบัตรATM อาจจะเป็นปัจจัยสนับสนุนรายได้ค่าธรรมเนียมทั้งปี 2552เติบโตประมาณ 20% จากปี2551ที่มีรายได้ดังกล่าวเติบโตถึง 27.2% หรือจำนวน 21.04หมื่นล้านบาท แนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว”ให้ราคาเหมาะสม 60 บาท


  รวมทั้งการที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) BAY เข้าซื้อGECAL คาดว่าค่าธรรมเนียมทั้งปีจะเพิ่มขึ้นประมาณ 20% เช่นกัน แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเหมาะสม 10.80 บาท ส่วนธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) SCB คาดว่าจะมีรายได้ค่าธรรมเนียมทั้งปีอยู่ที่ 15% เนื่องจากเป็นธนาคารที่มีสาขามากที่สุดในกลุ่ม แต่การที่ธนาคารปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจ จึงส่งผลให้มีรายได้จากค่าธรรมเนียมเติบโตน้อยกว่า KBANK และ BAYแนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว”SCB ให้ราคาเหมาะสม 60 บาท   ขณะที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) BBL เชื่อว่าการที่เป็นธนาคารขนาดใหญ่จะมีรายได้ค่าธรรมเนียมทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่ 15% แนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว”ราคาเหมาะสม 80 บาท


 “ แม้ค่าฟีปีนี้จะตกต่ำลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าเนื่องจากฐานรายได้ที่กว้างขึ้นและสินเชื่อที่ลดปริมาณลงตามเศรษฐกิจ แต่เชื่อว่าแบงก์จะเริ่มรุกรายได้ค่าธรรมเนียมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขยายธุรกิจหรือออกผลิตภัณฑ์เพื่อสนับสนุนรายได้ค่าฟีในช่วงดอกเบี้ยขาลง”นางสาวสุกัญญา   กล่าว


 ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) จำกัด  กล่าวว่า แม้ที่ผ่านมากลุ่มธนาคารพาณิชย์จะปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมบัตร ATM ซึ่งทดแทนปริมาณสินเชื่อที่ปรับตัวลดลงมหาศาลจากยอดส่งออกและการท่องเที่ยวซึ่งส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยปรับตัวลดลงมาก แต่เชื่อว่าการปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมบัตร ATM จะสามารถเพิ่มรายได้ดอกเบี้ยได้ประมาณ 2% เท่านั้นนับว่าน้อยมากเมื่อนำมาเทียบกับสัดส่วนรายได้ดอกเบี้ยต่อสินเชื่อรวมที่มีถึง 20%   


 นักวิเคราะห์  กล่าวอีกว่า จากการที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์ต่างขยายกิจการด้าน Bancassuranceเพื่อหวังรายได้ค่าธรรมเนียม  ซึ่งคาดว่าจะเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และอาจมีผลกระทบต่อยอดขายให้ลดลง ขณะที่ภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวยังซ้ำเติมรายได้ดอกเบี้ย ส่งผลให้กลุ่มธนาคารต้องหาวิธีเพิ่มรายได้มากขึ้น แต่การปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมบัตรATMคาดว่าจะได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มเพียง 2% และเมื่อนั้นมาหักลบกับสินเชื่อที่ลดลงกลุ่มธนาคารแทบไม่ได้อะไรเลย

เข้าชม: 1,570

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com