ทันหุ้น - กลุ่มรับเหมาโคม่า ปี 2551 ผลงานเดี้ยงหนัก ทั้งกลุ่มพลิกเป็นขาดทุนสุทธิเฉียด 2,000 ล้านบาท ทรุดกว่า 415.7% ระบุ ต้นทุนผันผวนกระทบหนักสุด ด้านผู้บริหาร ?วัชรพัธ วัชราภัย NWR รับภาพรวมกลุ่มรับเหมาปี 2552 ส่อแวววูบต่อเนื่อง เหตุงานภาคเอกชนน้อย ส่วนงานภาครัฐไม่หนุน อ้างติดเงื่อนไขกระบวนการทำงานยืดเยื้อ ระบุพยายามคงเป้ารายได้ปีนี้ 4,000 ล้านบาท ชี้งานแม่เมาะการันตีหนุนความมั่นคงของรายได้ ลุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หลังโดนเบี้ยวค่าก่อสร้าง
บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุ รายได้รวมของกลุ่มรับเหมาก่อสร้างปี 2551 ปรับตัวลดลง 5.8% จากปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิกลุ่มพบว่า ปรับตัวลดลงกว่า 415.7% จากกำไรสุทธิ 621 ล้านบาทในปี 2550 เป็นขาดทุนสุทธิ 1,961 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนการก่อสร้างที่มีความผันผวนสูงในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้รับเหมาก่อสร้างบริหารต้นทุนแต่ละโครงการได้ยากขึ้น รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
ส่วนในปี2552 มองว่าบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ จะมีรายได้ลดลง 11% จาปีก่อน แต่ในแง่ของกำไรสุทธิกลับเพิ่มขึ้น 152.9% จากต้นทุนการก่อสร้างที่ลดลง รวมถึงโครงการที่ให้อัตรากำไรเป็นลบของผู้รับเหมาขนาดใหญ่จะมีการทยอยส่งมอบเกือบหมดในปี 2551 ส่งผลให้กำไรสุทธิของกลุ่มผู้รับเหมารายใหญ่และกลุ่มรับเหมาก่อสร้างปรับตัวได้ดีขึ้น
@ปี52 รับเหมายังเดี้ยง นายวัชรพัธ วัชราภัย ผู้จัดการทั่วไป แผนธุรกิจใหม่และวางแผนกลยุทธ์ บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน)NWR เปิดเผยในคอลัมน์โฟกัสบจ.ว่า ภาพรวมกลุ่มอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างในปี 2552 เชื่อว่าจะยังได้รับแรงกดดันจากการชะลอการลงทุนของภาคเอกชน และความล่าช้าของงานจากภาครัฐ ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อแนวโน้มการเติบโตของตัวเลขผลประกอบการของทั้งกลุ่มในปีนี้ต่อเนื่องมาจากปี 2551
ขณะที่งานก่อสร้างสาธารณูปโภคขนาดใหญ่จากภาครัฐ ทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายมีม่วง สัญญา 1 หรือโครงการก่อสร้างอื่น ๆ ซึ่งเป็นนโยบายในการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศนั้น ถ้ามองในเชิงการเติบโต ปัจจัยเสริมดังกล่าวถือเป็นเครื่องช่วยการันตีรายได้ระยะยาวของกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง แต่ในระยะสั้นงานก่อสร้างต่าง ๆ ของภาครัฐยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะติดขัดในเรื่องกระบวนการพิจารณาและวิธีการ ทำให้โครงการมีความยืดเยื้อ
?งานภาครัฐ ปัจจุบัน แม้จะมีความคืบหน้าไปค่อนข้างมากแล้ว แต่ในความเป็นจริงควรจะคืบหน้าไปมากกว่านี้ เพราะเป็นนโยบายที่ภาครัฐวางไว้มานานแล้ว และตอนแรกผู้ประกอบรับเหมาส่วนใหญ่ที่เห็นนโยบายก็เชื่อว่าจะช่วยเรื่องผลงานระยะสั้นได้ เพราะเชื่อว่าภาครัฐน่าจะเร่งผลักดันโครงการเพื่อเป็นตัวฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่ด้วยเงื่อนไขในการทำงานต่าง ๆ ที่ล่าช้าออกไป โครงการก่อสร้างภาครัฐจึงกลายเป็นปัจจัยที่มีประสิทธิภาพในการการันตีผลงานระยะยาวของกลุ่มรับเหมา นายวัชรพัธ กล่าว
นอกจากนี้ ปี2552 บริษัทยังคงยืนยันเป้ารายได้เติบโตใกล้เคียงปีก่อนที่ 4,000 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลัก จากโครงการก่อสร้างเหมืองแม่เมาะ ซึ่งบริษัทได้มีการลงนามในสัญญาจ้างเหมาขุดขนดิน และถ่านหิน กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในนามบริษัทร่วมค้า ซึ่ง NWR ร่วมกับ บริษัท สระบุรีถ่านหิน จำกัด ที่ได้ลงนามไว้ตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งมูลค่างานประมาณ 16,000 ล้านบาท และมีส่วนงานของบริษัทประมาณ 9,000 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 9 ปี ซึ่งบริษัทจะรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวเฉลี่ยปีละ 1,000 ล้านบาท โดยในปีนี้คาดว่าจะรู้รายได้จากโครงการแม่เมาะ เข้ามา 500-600 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนรุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ บริษัทได้รับผลกระทบจากการผิดนัดชำระค่าก่อสร้างของผู้ประกอบการ ทำให้บริษัทต้องแบกรับความเสี่ยง ดังนั้นการรุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นอกจากจะไม่ได้ทำให้ความเสี่ยงของการผิดนัดชำระค่าก่อสร้างแล้ว ด้วยมาร์จิ้นธุรกิจที่ดี ยังจะช่วยสนับสนุนผลงานในระยะยาวด้วย
|