บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด(มหาชน) หรือ ASP เปิดเผยว่า SET50 INDEX ในสัปดาห์ที่ผ่านมาภาพรวม ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามหุ้นกลุ่มธนาคาร และหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นเอเซีย ที่ส่วนใหญ่มีทิศทางปรับตัวขึ้นขณะที่ สัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 702 ล้านบาท

  สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ให้ระวังแรงเทขายทำกำไรระยะสั้น  ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯใกล้แนวต้านจิตวิทยา 7,500 จุด คาดสัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องกันหลายวันทำการ จะเริ่มเข้าสู่แนวต้านระยะกลางมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุด 6,469.95 จุด ปรับตัวขึ้นล่าสุดที่ 7,486.58 จุด รวมปรับตัวขึ้น 1,016.63 จุด หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.7% โดยคาดว่าจะมีแรงเทขายเมื่อเข้าใกล้แนวต้านสำคัญ 7,500 จุด

  ขณะที่แผนแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯยังมีความล่าช้า ทั้งการเสนอแนวทางการเพิ่มอำนาจให้กับธนาคารกลางสหรัฐฯในการกำกับดูแลสถาบันการเงินในสหรัฐฯ เพื่อเปิดโอกาสในการแก้ไขปัญหา เพิ่มทุน รวมถึงการเข้าควบคุมกิจการ ตลอดจนปัญหาใช้จ่ายเงินของ AIG ซึ่งแสดงให้เห็นถึงปัญหาของระบบควบคุมการใช้จ่ายเงินที่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลขาดประสิทธิภาพ

  ขณะที่ปัญหาในอุตสหกรรมยานยนต์ของสหรัฐฯ ยังไม่มีมาตรการรองรับที่จะเป็นหลักประกันได้ว่าจำนวนคนตกงานในสหรัฐฯจะไม่เพิ่มขึ้น ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยกดดันต่อตลาดหุ้นในระยะ 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า

   คาดแนวโน้มดอกเบี้ยต่ำส่งผลให้ตลาดหุ้นอ่อนตัวได้ไม่มาก จากกระแสแนวโน้มดอกเบี้ยตกต่ำทั่วโลก นำโดยประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจโลก ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ และอังกฤษ ที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาอยู่ที่ระดับต่ำ 0.25- 0.0% และคาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไปใน 2Q52

  ประกอบกับที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของหลายประเทศทั่วโลกเริ่มทยอยออกมากระตุ้นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และการบริโภคภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น ญี่ปุ่นเพิ่มวงเงิน 20 ล้านล้านเยน (จากเดิม 12 ล้านล้านเยน) ล้วนเป็นการหนุนการใช้จ่ายในประเทศ และ ช่วยฟื้นความเชื่อมั่นในระยะกลาง คาดจะส่งผลบวกต่อกระแสการลงทุนในตลาดหุ้นโลกเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่า หุ้นกลุ่มการบริโภคภายในประเทศ BIG-C, CPALL และ BEC ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มแกว่งตัวด้านข้างเชิงบวกมากขึ้น

 คาดสัปดาห์นี้ SET50 INDEX มีโอกาสอ่อนตัวระยะสั้น หลังจากที่หุ้นกลุ่มธนาคาร BBL และ SCB เริ่มปรับฐานขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงาน PTTEP และ PTT ที่ปรับขึ้นมาแรงอาจมีแรงเทขายทำกำไรระยะสั้น ภายใต้มูลค่าซื้อขายที่เบาบางต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อวัน จะทำให้ SET50 INDEX มีโอกาสอ่อนตัวระยะสั้น  หากดีดตัวขึ้นมาที่แนวต้าน 310 จุด ถือเป็นจังหวะเปิดสถานะ Short ตามแนวโน้มขาลงระยะกลาง

   สำหรับกลยุทธ์ในสัปดาห์นี้นักลงทุนระยะสั้น ที่มีกำไรจากการเปิดสถานะ “Long” ไว้ให้ทยอยปิดสถานะด้วยคำสั่ง “Short” บริเวณแนวต้าน 300-310 จุด เพื่อทำกำไร 

  สำหรับผู้ที่ไม่มีสถานะใดแนะนำให้รอเปิดสถานะใหม่ด้วยคำสั่ง “Long” ที่บริเวณแนวรับ 285 จุดให้นักลงทุนเลือกลงทุนในสัญญาส่งมอบเดือน มิถุนายน 2009 (S50M09) เนื่องจากเริ่มมีสภาพคล่องและสถานะคงค้างที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาถูกกว่าสัญญาส่งมอบเดือนมีนาคม 2009 (S50H09) ส่วนนักลงทุนระยะกลาง รอเปิดสถานะ “Short” เพิ่มที่แนวต้าน 300 จุด
แนวรับแนวต้านรายสัปดาห์