ทันหุ้น – โบรกเกาะติดหุ้น AIT ติดชาร์ตหุ้นปันผลเด่นประเมินปีนี้ควักจ่ายได้ชัวร์ๆ 22.25% ผู้บริหาร “ศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์” เชื่องานภาครัฐหนุนมั่นใจรายได้ปีนี้เข้าเป้า 3,300 ล้านบาท จากแบ็กล็อกในมือกว่า 1,900 ล้านบาทพร้อมเดินหน้าโกยงาน ฟิลลิปปินส์ และเวียดนาม ด้าน JAS ได้เวลาเทริ์นอะราวด์สวนกระแสเศรษฐกิจ คาดปีนี้พลิกเป็นกำไรราว 805 ล้านบาท แนะ “ซื้อ” เป้าหมาย 0.58 บาท ส่วน AIT ให้ราคาเหมาะสม 17.00 บาท

 บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ” หุ้น บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)  AIT โดยมองว่าเป็นหุ้นปันผลเด่นปี 2552 โดยประเมินอัตราจ่ายเงินปันผล (Dividend Yeild) ปี 2552 ไว้ที่ 22.25% โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 17.00 บาท

     ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด แนะนำ “ซื้อ” หุ้น บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) JAS โดยให้ราคาเป้าหมาย 0.58 บาท คาดว่า JAS เป็นหุ้น Turnaround สวนกระแสภาวะเศรษฐกิจปี 2552 คาดผลประกอบการปี 2552 พลิกเป็นกำไรราว 805 ล้านบาท จากปี 51 ที่ขาดทุน 1,245 ล้านบาท

     อีกทั้งบริษัทยังวางเป้าหมายปี 2552 จะมีฐานลูกค้าใน กทม. 132,216 ราย จากปี 2551 ที่มีลูกค้าเพียง 9,240ราย และสาเหตุหลักยังมาจากการที่ไม่ต้องตั้งด้อยค่าTT&T ดังเช่นปีที่ผ่านมาโดยจะมีการเร่งขยาย network เพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้าที่มีสูง และคาดว่าจะสามารถแย่งชิงฐานลูกค้าจากคู่แข่งในเขต กทม.ได้ ขณะที่ต่างจังหวัดคาดว่าจะมีจำนวนลูกค้าในปี 52 เพิ่มขึ้นเป็น 558,900 ราย จากปี 51 ที่ 359,566 ราย

     นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาแผนการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) ซึ่งจะทำให้ EPS ดีขึ้นและคาดว่าจะมีการจ่ายเงินปันผลงวดปี 52 ราว 0.04-0.05 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ประเมินมูลค่าด้วย PER 6 เท่า ซึ่งยังต่ำกว่า PER ของ SET ที่10 เท่า และกลุ่ม ICT ที่ 17 เท่า

     ด้านนายศิริพงษ์  อุ่นทรพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)  AIT เปิดเผยว่า การจ่ายเงินปันผลของบริษัทเป็นไปตามนโยบายจ่ายที่ไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ และในช่วงปีที่ผ่านมาบริษัทได้จ่ายไปสูงกว่านโยบายมาต่อเนื่อง และไม่มีปัญหาด้านกระแสเงินสด

     ทั้งนี้การที่บริษัทจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงต่อผู้ถือหุ้นเพราะในปีนี้ไม่มีแผนลงทุนขนาดใหญ่ที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังไม่เอื้ออำนวยจากสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัวลง  อย่างไรก็ดีบริษัทได้กันเงินไว้ส่วนหนึ่งเพื่อเตรียมความพร้อมเมื่อภาวะเศรษฐกิจดีขึ้นและบริษัทเห็นโอกาสการลงทุน

      “ ที่ประชุมบอร์ดได้มีมติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2551 ในอัตราหุ้นละ 2.75 บาท โดยจ่ายเงินปันผลครึ่งปีหลัง 2551 เพิ่มเติมในอัตราหุ้นละ 1.50 บาท โดยจะกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 พฤษภาคม 2552  ขณะที่ระหว่างกาลได้จ่ายเงินไปในในอัตรา 1.25 บาทต่อหุ้น”นายศิริพงษ์กล่าว

ยันรายได้โต3.3พันล้าน
     นายศิริพงษ์ กล่าวว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัวไม่มากเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่น  และไม่กังวลมากนักเพราะสัดส่วนรายได้จะมาจากงานภาคเอกชน 20% และ 80% จะเป็นงานภาครัฐบาล

     สำหรับงานของภาครัฐเชื่อว่าจะทยอยเปิดประมูลได้เรื่อยๆ ตามแผนที่รัฐวางไว้ เพราะมีงบประมาณประจำปีอีกทั้งรัฐบาลได้มีการลงทุนด้านงานวางระบบ Network อย่างต่อเนื่อง

     ทั้งนี้บริษัทคาดว่ารายได้ปีนี้น่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 3,300 ล้านบาท จากมูลค่างานในมือ (Backlog) ในปัจจุบันที่อยู่ระดับ 1,900 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในปีนี้ทั้งจำนวน และจากการการเข้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าบริษัทน่าจะได้งานประมูลโครงการใหญ่ในภาครัฐหลายโครงการ
     ส่วนการเข้าประมูลงานของภาครัฐในปีนี้ คาดว่าเป็นเป็นหน่วยงานราชการทั่ว ๆ ไปอาทิ CAT และ TOT และไปรษณีย์ไทย เป็นต้น และขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการหาช่องทางเข้าประมูลงานกับ TOT ซึ่งจะเป็นลักษณะงานขยาย Board Band อินเทอร์เน็ต มูลค่ายังไม่สามารถระบุได้ แต่เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นความชัดเจนช่วงกลางปีนี้

     ขณะที่กรณีกระแสข่าวเกี่ยวกับบริษัทเป็นตัวเต็งประมูลงานไฟเบอร์ออปติกของ CAT นั้นยืนยันว่าไม่มี เนื่องจากบริษัทไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ โดยงานของบริษัทเป็นงานวางระบบ Network เชื่อมต่อระบบออนไลน์ สำหรับงานประมูลอื่น
โกยงานเวียดนาม-ฟิลลิปปินส์