April 28, 2024   8:40:45 PM ICT
กลุ่มท่องเที่ยวแชมป์D/Eสูง2.03 เท่า

กลุ่มท่องเที่ยวอ่วมครองD/E สูงถึง2.03เท่า ชี้วิกฤติเศรษฐกิจโลกพ่นพิษ นักท่องเที่ยวกังวลหวั่นสภาพคล่องทางการเงินแย่ ประกาศลดการเดินทาง ฉุดผลงานดิ่งเหว


ด้านผู้บริหาร ? รณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ Ž แจง D/E ที่1.26 เท่าไม่กระทบ พร้อมวางแผนระยะยาว5ปี หวังลดD/E และคุมแผนงานทางธุรกิจ ระบุ ผลโรดโชว์ยุโรปกระแสตัวรับเพียบ เชื่องานไทยเที่ยวไทย ปลุกรายได้ธุรกิจท่องเที่ยวฟื้ตัวไม่ยาก ประเมินแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 อัดเม็ดเงินกระจายเข้าท่องเที่ยว 6.6 พันล้าน ช่วยผู้ประกอบการขนาดรอดตายได้ 


     สถาบันวิจัยนครหลวงไทย ประเมินภาพกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E)สูงสุด คือ กลุ่มท่องเที่ยว โดยมีD/Eที่ระดับ 2.03 เท่า และถือว่าทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่องจากปี 2551 เนื่องจากผลของการขยายกิจการเพิ่ม แต่กลับได้รับผลกระทบจากภาพอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจ 
  ต่อประเด็นข้างต้น นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายการบริหารและการเงิน บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซ่า จำกัด (มหาชน)CENTEL เปิดเผยในคอลัมน์โฟกัสบจ.ว่า แนวโน้มอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ของกลุ่มท่องเที่ยวที่อยู่ในระดับสูง ส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย รวมถึงปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้น จนถึงขั้นมีการปิดสนามบิน ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตัวเลขผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการมีความสามารถในการทำกำไรให้กับผู้ถือหุ้นได้ในระดับที่ต่ำลง


 ทั้งนี้ มองว่า แนวโน้มอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ของผู้ประกอบการในกลุ่มท่องเที่ยวที่อยู่ในระดับสูง เป็นปัจจัยที่ส่งผลกดดันต่อความสามารถในการขอกู้เงินจากสถาบันการเงิน เนื่องจากความเสี่ยงจากระดับ D/E ที่สูง ทำให้สถาบันการเงินหลายแห่งมีความกังวลถึงความสามารถในการชำระคืนเงินกู้ดังกล่าว ซึ่งถือเป็นอุปสรรคสำคัญในการดำเนินงาน รวมถึงการขยายธุรกิจในอนาคต


 ?ต้องยอมรับว่ากลุ่มท่องเที่ยวเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่โดนทำร้ายหนักที่สุด ตั้งแต่เกิดปัญหาเศรษฐกิจโลกถดถอย และมาซ้ำเติมด้วยปัญหาภายในประเทศที่รุนแรงจนถึงขั้นปิดสนามบิน ซึ่งถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของกลุ่มท่องเที่ยว เพราะรายได้หลักของผู้ประกอบการในกลุ่มมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก โดยในช่วงที่มีปัญหาหนักสุดเมื่อปลายปีก่อน ซึ่งเมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่เข้ามา สิ่งที่สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนจากผลงานของหลาย ๆ บริษัทที่ปรับตัวลดลงตามไปด้วยŽ นายรณชิต กล่าว


@ทางออกผู้ประกอบการ D/E สูง
 นายรณชิต กล่าวอีกว่า ทางออกของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจาก D/E อยู่ในระดับสูง จนเป็นผลให้สถาบันการเงินไม่ยอมปล่อยกู้เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจ อาจกระทำโดย การชะลอแผนในการดำเนินโครงการต่าง ๆ ออกไป การลดต้นทุนการผลิต  , บริหารและจัดการ เพื่อทำให้สัดส่วน D/E ที่อยู่ในระดับสูงปรับตัวลดลง โดยมองว่าประเด็นดังกล่าวน่าจะเป็นวิธีการรองการความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินได้ในช่วงหนึ่ง


 สำหรับ CENTEL ได้รับผลกระทบจากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินไม่มากนัก เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทได้มีการพูดคุย และทำความเข้าใจกับสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริษัทได้มีการวางกลยุทธ์การปรับแผนระยะยาว 5 ปี เพื่อลด D/Eที่ระดับปัจจุบัน 1.26 เท่า ให้ลดลงกว่าที่เป็นอยู่ ส่วนD/Eจะปรับลดลงมาในระดับเท่าไรนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา 


     ?ที่ผ่านมา บริษัทมีการพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจกับทางสถาบันการเงินอยู่ตลอดเวลา โดยมีการชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน โครงการลงทุนในอนาคต เพื่อเป็นข้อมูลสำคัญในการประกอบการพิจารณาการปล่อยกู้ของสถาบันการเงิน เพราะในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้หากไม่มีการชี้แจงทำความเข้าใจระหว่างผู้ประกอบการกับสถาบันการเงิน จะทำให้การปล่อยกู้เป็นไปได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากสถาบันการเงินต่าง ๆ ยังกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการชำระคืน โดยเฉพาะในกลุ่มท่องเที่ยวที่ได้รับปัจจัยลบอย่างหนักในช่วงก่อน ทำให้ต้องมีการพูดคุยทำความเข้าใจกันมากเป็นพิเศษ Ž นายรณชิต กล่าว


@นักท่องเที่ยวยังตอบรับ
 แหล่งข่าวรายเดิม กล่าวอีกว่า  ในช่วงวันที่ 16-18 มีนาคมที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดงาน โพสต์ ไอทีบี โรดโชว์ 2009 ที่กรุงเวียนนา และเมืองซูริค ซึ่งเป็นงานนัดพบระหว่างผู้ซื้อ และผู้ขาย ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยว โดยได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศดังกล่าวเป็นอย่างดี เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่ยังให้ความสนใจที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเป็นจำนวนมาก เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวในไทยค่อนข้างต่ำ และทัศนียภาพที่ถือเป็นจุดเด่นในการดึงดูดในนักท่องเที่ยวต่างชาติ


 นอกจากนี้ ปัจจัยสนับสนุนจากการออกแพคเกจโปรโมชั่นราคาพิเศษ ของสายการบินในประเทศ เพื่อจูงใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในไทย ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว หลังจากปัญหาการเมืองในประเทศและปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจโลกเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น


  ส่วนกรณีที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ระบุว่า ปีนี้ ททท. จะเดินทางไปนำเสนอข้อมูลสินค้า และบริการด้านการท่องเที่ยว (โรดโชว์) มากกว่า 70 งาน เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อน โดยจะเน้นเพิ่มงานโรดโชว์ในพื้นที่ใหม่ ๆ มากขึ้น อาทิ  เนื่อวจากมองว่าเป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวได้จริง


  ?มาตรการของททท. ถือเป็นวิธีการในการกระตุ้นความสนใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ดี เพราะ ปัจจัยเสริมดังกล่าวเป็นสัญญาณที่สะท้อนให้เห็นว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวน่าจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นได้ โดยการฟื้นตัวน่าจะชัดเจนที่สุดในช่วงปลายไตรมาส 3/2551 ?นายรณชิต กล่าว


@ไทยเที่ยวไทยได้ผล
 ขณะที่ โครงการ ?เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคักคักŽ ซึ่งเน้นกระตุ้นให้คนไทยออกมาท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น ถือเป็นนโยบายที่ดี โดยทำให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น จากปกติอยู่ที่ประมาณ 60-70 ล้านคนต่อปี เนื่องจากผู้ประกอบการในกลุ่มท่องเที่ยวให้การสนับสนุนโดยการจัดโปรโมชั่นดึงดูดใจ ซึ่งถือเป็นอีกทางรอดหนึ่งของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยในปีนี้


 นอกจากนี้ แผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 ภายใต้วงเงิน 1.56 ล้านล้านบาท ที่จะใช้ในช่วงปีงบประมาณ 2553 -2555 ซึ่งคาดว่าจะมีส่วนช่วยผลักดันให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเม็ดเงินจำนวน 6,600 ล้านบาท จะกระจายเข้าสู่แผนงานเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว เบื้องต้นเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมโรงแรมขนาดเล็กที่ประสบปัญหาการปล่อยกู้ ให้มีโอกาสในการขยายฐานธุรกิจได้อย่างเข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยได้ในอนาคต

เข้าชม: 1,440

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com