ทันหุ้น-โบรกจ่อปรับราคาเป้าหมายหุ้นหลักทรัพย์ หลังตลาดหุ้นแรงฉุดไม่อยู่ดันวอลุ่มตลาดทะลุ 3 หมื่นล้าน ชูหลักทรัพย์ใหญ่น่าสน BLS PHATRA KEST และ ASP ยังน่าสอย แม้ราคาพุ่งสูงแล้ว แต่ดูทิศทางตลาดยังแรงดี เชื่อวอลุ่มไตรมาส 2 ยืนเหนือ 2 หมื่นล้านบาทได้สบาย
นายธนัท รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มมูลค่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ไตรมาส 2/2552 น่าจะเฉลี่ยสูงกว่า 2 หมื่นล้านบาท ได้ เพราะเชื่อว่าช่วงที่เหลือของไตรมาส 2 มูลค่าการซื้อขายจะไม่ลดลงจากปัจจุบัน เนื่องจากแนวโน้มของตลาดหุ้นยังน่าจะไปได้ หากยังมีเงินทุนไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งหลังของปียังไม่สามารถปรเมินได้ต้องรอดูทิศทางอีกครั้ง
ทั้งนี้มูลค่าการซื้อขายในช่วงสัปดาห์นี้ที่ขึ้นไปแตะ 3 หมื่นล้านบาท นั้น ได้ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ ทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์สะท้อนปัจจัยบวกนี้เข้าไปแล้ว อย่างไรก็ตาม หากมูลค่าการซื้อขายยังยืนได้เหนือ 2.5-3 หมื่นล้านบาทต่อวัน ก็มองว่าหุ้นหลักทรัพย์ยังคงน่าสนใจ
“แม้ราคาหุ้นแต่ละตัวจะเกินราคาพื้นฐานมาแล้ว แต่หากมูลค่าการซื้อขายจากต้นปีเฉลี่ยวันนะ 1.45 หมื่นล้านบาท หรือ จากนี้ยืนเหลือ 2.5 หมื่นล้านบาท ถึง 3 หมื่นล้านบาทได้ ก็น่าจะยังมีแรงซื้อในกลุ่มหลักทรัพย์ ซึ่งฝ่ายวิจัยก็อาจจะต้องปรับราคาเป้าหมายใหม่ เพราะล่าสุดราคาหุ้นเกินราคาเป้าหมายแล้ว” นายธนัท กล่าว
สำหรับบริษัทหลักทรัพย์ที่ยังมีความน่าสนใจยังคงเป็นบริษัทหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ เช่น บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด(มหาชน)หรือ BLS บริษัทหลักทรัพย์ภัทร จำกัด(มหาชน)หรือ PHATRA บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง จำกัด(มหาชน)หรือ KEST และบริษัทหลักทรัพย์ที่จะได้ประโยชน์จากพอร์ตลงทุนเช่น บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด(มหาชน)หรือ ASP
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า แม้ราคาหุ้นบริษัทหลักทรัพย์จะสะท้อนมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่หากมูลค่าการซื้อขายยังสูงกว่า 2 หมื่นล้านบาทต่อวัน ราคาหุ้นก็น่าจะเคลื่อนไหวต่อไปได้
อย่างไรก็ตามราคาหุ้นของกลุ่มหลักทรัพย์ถือว่าเกินราคาเป้าหมายที่ให้ไว้หมดแล้ว ซึ่งจะมีการทบทวนราคาเป้าหมายใหม่ เนื่องจากเป้าหมายเดิมประเมินไว้ว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายระดับไม่ถึง 2 หมื่นล้านบาท แต่ล่าสุดมูลค่าการซื้อขายที่สูงตลอดเดือน มิ.ย.เฉลี่ยอยู่ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่ประมาณการณ์ไว้
ทั้งนี้มองว่าหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ตอนนี้ดีทุกบริษัท เพราะขึ้นตามมูลค่าการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ แต่มองว่าบริษัทที่มีพอร์ตลงทุนก็จะมีความน่าสนใจ เช่น PHATRA
“ราคาหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์สูงแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าขึ้นอีกไม่ได้ ต้องดูทิศทางตลาดถ้าทั้งเดือนมูลค่าการซื้อขายเหนือ 2 หมื่นล้านบาท กำไรก็จะดีตาม” นักวิเคราะห์ กล่าว
| | เข้าชม: 1,549 |
|
