May 3, 2024   5:23:24 PM ICT
หุ้นกลุ่มเหล็กได้เวลาผงาด
บิ๊ก PERM “ชไมพร ยงวงศ์ไพบูลย์” ยิ้มได้หลังราคาเหล็กมีแนวโน้มฟื้นตัว เศรษฐกิจพ้นจุดต่ำสุด ผู้ประกอบการรับอนิสงส์เต็มเหนี่ยวดันไตรมาส 2 พลิกเป็นกำไรหลังไตรมาส 1/52 ขาดทุนอ่วม 72.48 ล้าน โบรกชี้ชัดไตรมาส 3 พีคสุดหลังราคาเหล็กพุ่งต่อเนื่อง แถมรับผลบวกรัฐบาลหนุนโครงการพื้นฐานเตรียมขุดสต๊อกเก่าเร่ขายหวังโกยกำไรอื้อ แนะ”เก็งกำไร” ยกแผงรับอนิสงส์ธุรกิจขาขึ้น


     นางชไมพร  ยงวงศ์ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพิ่มสินสตีลเวิคส์ จำกัด (มหาชน) PERM เปิดเผยถึง กรณีที่กระทรวงพาณิชย์ ออกมาระบุว่าอาจมีการปรับเพิ่มราคาสินค้าต่างๆ ให้เกินกว่าราคาเพดานที่กรมการค้ากำหนด หากราคาต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้น และจากแนวโน้มเศรษฐกิจเติบโต เช่น หากต้นทุนเหล็กเพิ่มขึ้น 4 -7% ปูนซีเมนต์เพิ่ม 7-8% ควมถึงของใช้ประจำวัน


 อย่างไรก็ตามในส่วนของบริษัท เชื่อว่าไม่น่าจะได้รับผลกระทบ ซึ่งตรงกันข้ามหากราคาเหล็กมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นบริษัทก็น่าจะได้รับประโยชน์มากกว่า เนื่องจากเชื่อว่าน่าจะได้กำไรจากสต๊อกเหล็กในช่วงที่เหล็กมีราคาต่ำ


 ขณะเดียวกันแนวโน้มการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาเหล็กของตลาดโลกนั้น ก็ส่งผลดีต่อบริษัท เนื่องจากเชื่อว่าหากราคาเหล็กปรับตัวขึ้นจริง จะทำให้มีผู้ประกอบการหันมาซื้อเหล็กเพิ่มขึ้นในขณะที่ราคาเหล็กในปัจจุบันยังไม่ปรับขึ้นเต็มที่ และการที่บริษัทมีการสต๊อกสินค้าไว้ล่วงหน้าจะทำให้ยอดขายเหล็กเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 3/2552 ประมาณ 30 %


 “เรายังมองเป็นบวกไม่ใช่เสียเปรียบ เพราะการที่ราคาเหล็กขึ้นตามราคาน้ำมันเราก็ได้เปรียบเพราะเราจะได้กำไรมากเพิ่มขึ้น ซึ่งพอผู้ประกอบการรับรู้ข่าวว่าราคาเหล็กจะขึ้นในอนาคต สิ่งที่เกิดขึ้นคือพวกเขาเหล่านั้นจะหันมาซื้อเหล็กเพื่อไว้ตุนสต๊อก เพราะเป็นสัญญาณว่าเหล็กจะไม่ต่ำอย่างนี้อีกแล้ว ลูกค้าก็จะตื่นตัวมาซื้อของมากขึ้น ซึ่งน่าจะทำให้เรามีกำไรในการสต๊อกเหล็กเมื่ออดีตมากขึ้น ”นางชไมพรกล่าว


 อย่างไรก็ตามจากแนวโน้มการปรับเพิ่มขึ้นของราคาเหล็ก บริษัทได้ร่วมทำสัญญากับซับไพเออร์ หรือคู่สัญญาไว้ล่วงหน้าแล้ว เพื่อทำให้บริษัทได้เหล็กในราคาต่ำ หากอนาคตราคาเหล็กปรับตัวสูงขึ้น  


 สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2552 นี้บริษัทคาดว่าน่าจะทำรายได้ดีกว่าช่วงไตรมาส 1/2552 ที่ขาดทุน 72.48 ล้านบาท เนื่องจากขณะนี้บริษัทเริ่มมีออเดอร์เข้ามาในช่วงไตรมาสดังกล่าว จากราคาเหล็กที่มีการปรับสูงขึ้นในปัจจุบัน


 ขณะเดียวกันมองผลการดำเนินงานไตรมาส 3 /2552 น่าจะดีกว่าช่วงไตรมาส 2 และน่าจะเป็นจุดสูงสุดของบริษัทเพราะ เชื่อว่าจะได้รับอนิสงส์จากการฟื้นตัวของภาคการลงทุนของรัฐบาล หลังมีเม็ดเงินจากพ.ร.ก.เงินกู้ 4 แสนล้านบาทเข้าสู่ระบบ หนุนให้มีการซื้อวัตถุดิบก่อสร้างมาก่อสร้างในโครงการต่างๆ มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรมากยิ่งขึ้น ประกอบกับมองว่าราคาเหล็กน่าจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงไตรมาส 3 เป็นต้นไปตามราคาน้ำมันและการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่
เข้าชม: 1,488

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com