May 3, 2024   6:53:52 PM ICT
เพิ่มน้ำหนักกลุ่มอสังหา PS-QH-LPN เด่นเข้าตา
ทันหุ้น-โบรกพาเหรดเพิ่มน้ำหนักลงทุนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ นำทีม PS - QH –LPN ด้านหัวเรือใหญ่ “ ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ” ระบุยอดขายไตรมาส 2/2552 พุ่งแตะ 5,000 ล้านบาทหรือเติบโต 25% พร้อมยืนกรานครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่องดันรายได้ทั้งปีทะลุเป้า 17,000 ล้านบาทจากยอดขายที่พุ่งพรวด 18,000 ล้านบาท เชื่อครึ่งปีหลังดีมานด์-ซัพพลายพบจุดสมดุล


     บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์(ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มที่อยู่อาศัย โดยระบุว่าบริษัทได้รวบรวมประกาศอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (TRIS) ที่มีต่อหลักทรัพย์ที่อยู่อาศัยชั้นนำ 3 แห่ง ซึ่งได้ให้อันดับเครดิต บริษัท แลนด์ แอนด์ มเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) LH อยู่ที่ A และให้อันดับเครดิต บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)PS และ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)QH อยู่ที่ A- 


     ทั้งนี้มองว่าหากพิจารณาถึงแนวโน้มอันดับเครดิตในอนาคตแล้ว LH น่าจะเป็นลบขณะเดียวกัน QHและPS กลับน่าจะเป็นบวก แสดงว่าแม้อันดับเครดิตขณะนี้ของ LH จะสูงกว่าอีก 2 รายแต่แนวโน้มในอนาคตอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นทั้งนี้ปัจจัยสนับสนุนมาจาก 1.ลักษณะธุรกิจ  2.กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ 3.ส่วนครองตลาด


      สำหรับประเด็นในเรื่องลักษณะธุรกิจคือทั้ง LH และ QH ต่างก็พัฒนาที่อยู่อาศัยในรูปแบบบ้านสร้างเสร็จก่อนขาย (Pre-built) ขณะที่ PS เป็นแบบบ้านสั่งสร้าง (Presale) ดังนั้นเมื่อเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะชะลอตัวลงในปีนี้ ทั้ง LH และ QH ต่างได้รับผลกระทบทางลบอย่างเห็นได้ชัด
     ขณะที่ PS มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่เกิดขึ้นในปี 2551 มาช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในปี 2552 ส่วนกลยุทธฺในการดำเนินธุรกิจก็มีส่วนคือ PS มีความเด่นชัดในการใช้กลยุทธ์เชิงรุก คือเปิดขายโครงการใหม่เป็นจำนวนมาก จับตลาดในแทบทุกกลุ่มเป้าหมาย (Segmentation) ทั้งล่างและกลาง


     นอกจากนี้สินค้าที่มีความหลากหลายเพื่อสะสมยอดขายให้ได้มากที่สุด ขณะที่ LH และQH ไม่เด่นชัดเท่าและในที่สุดส่วนครองตลาดก็ได้พิสูจน์แล้วว่าในไตรมาส 1/2552 ซึ่งPS มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดในตลาดที่อยู่อาศัยที่ระดับ 27% และจากการศึกษาจำนวนหน่วยที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ ขณะที่ LH และ QH มีส่วนครองตลาดที่ค่อนข้างอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำกว่าพอควร 


     ดังนั้นจึงแนะนำ “ซื้อ” PS ราคาเป้าหมาย 10.00 บาท คาดว่าอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิจะเติบโตประมาณ 6% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วและ QH ราคาเป้าหมาย 1.93 บาท คาดว่าอัตรากำไรสุทธิปี 2552 จะลดลง 19% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วแต่จะเติบโตเพิ่มขึ้นในปี 2553 จะโดดเด่นสูงเป็น 17% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2552 


     บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้ “น้ำหนักมากกว่าตลาด”สำหรับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ประเมินว่า  สถานการณ์เศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำในรอบหลายปี และการเมืองในประเทศที่ค่อนข้างสงบ จึงเชื่อว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคน่าจะฟื้นตัวในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อความต้องการซื้อบ้าน
ดีมานด์-ซับพลายสมดุล 


     นอกจากนี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลบางมาตรการที่จะสิ้นสุดในปลายปีนี้ จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นความต้องการซื้อจากผู้ที่รอซื้อบ้าน ขณะที่สถานการณ์ในตลาด ยังคงเข้มแข็ง (ดีมานด์-ซัพพลายสมดุล) คาดว่าน่าจะพร้อมปรับตัวขึ้นมาตามการฟื้นตัวของการใช้จ่ายผู้บริโภคที่คาดว่าจะได้เห็นในครึ่งหลังของปี 2552 จากปัจจัยดังกล่าว เชื่อว่าไตรมาส 3/2552 น่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการเลือกซื้อสะสมหุ้นอสังหาฯ เพื่อรอการปรับขึ้นของหุ้นในกลุ่มนี้ อีกรอบในไตรมาส 4/2552 คงให้น้ำหนักการลงทุน  ‘มากกว่าตลาด’ โดยมี LPN, PS และ QH เป็นหุ้นเด่น



     นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) PS เปิดเผยว่า ยอดขาย(พรีเซล)ในไตรมาส 2/2552 คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 25% จากไตรมาส 1/2552 หรือมาอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท ขณะที่แนวโน้มการรับรู้รายได้น่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 1/2552 ที่มีรายได้รวม 3,780.41 ล้านบาทกำไรสุทธิ 687.27 ล้านบาท
ครึ่งหลังธุรกิจฉลุย
เข้าชม: 1,587

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com